Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

อานิสงส์ทาน

อังคาร 09 ก.ย. 2025 7:28 am

"..ไม่เห็นตนเป็นกาย
...ไม่เห็นกายเป็นตน
...ไม่ให้ตนมีในกาย
...ไม่ให้กายมีในตน
พุทธะ คือผู้รู้
ธัมมะ คือธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
สังฆะ คือผู้ปฏิบัติ

ใครล่ะเป็นผู้ปฏิบัติ ถ้าเราเป็นผู้ปฏิบัติ เราเองนี่ล่ะเป็นพระสงฆ์
มาทำจิตใจของเราให้เป็นพระ ฆราวาสญาติโยมก็เป็นพระได้เหมือนกัน
รักษาได้แค่ศีลห้าก็เป็นพระได้เหมือนกัน
ให้ลงมือปฏิบัติชำระจิตใจไม่ให้ไปในทางชั่วช้าเสียหาย
ทำได้ปฏิบัติได้ก็ชื่อว่าพระสงฆ์ คือผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ

เมื่อเป็นพระแล้วก็มีพระองค์เดียวรูปเดียว คือจิตใจ ทำจิตใจให้มันเป็นพระ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ น้อมเข้ามาในดวงจิตดวงใจ
ดวงจิตดวงใจคือดวงธรรม
ของดีวิเศษสุดอยู่ที่นี่ นอกจากจิตจากใจแล้วไม่มีอันไหนดีวิเศษเท่าจิตเท่าใจของตนเอง.."

พระราชมงคลวชิรธรรม วิ.
#หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร





“ . . มันเกิดตรงไหน ก็ดับตรงนั้น
ไม่รู้จักที่เกิด ไปดับที่อื่น มันก็ไม่ดับสิ

อุปมาเหมือนดับไฟฟ้า
ดับดวงนี้ ดวงนั้นยังอยู่
ดับดวงนั้น ดวงอื่นยังอยู่

คนผู้ฉลาด ‘ ดับที่หม้อแบตเตอรี่ ’
มันก็มืดหมดทั่วพระนคร

อันนี้ไปดับจิตดวงเดียวก็หมด
ไม่ต้องไปดับหู ดับจมูก ดับลิ้น ดับกาย ดับใจ

‘ ดับที่ใจดวงเดียวแล้วดับหมด ’
เพราะทั้งหมดมันเกิดจากใจ . . ”

โอวาทธรรม :
-- หลวงปู่ฝั้นอาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร





“บุคคลผู้มีอำนาจวาสนา จึงสามารถจะ
เลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ได้
วาสนาต่ำต้อยอยู่ บารมียังอ่อนอยู่ ก็เลื่อมใส
ไม่ได้ ก็ไม่พอใจรักใคร่ในพระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ ก็ไม่พอใจปฏิบัติศีลธรรมของ
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อีกด้วย และ
ไม่ยอมเชื่ออีกด้วย เพราะเหตุใด เพราะ
'กัมมุนา วัตตะติโลโก'
สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมของตน
กรรมเป็นเครื่องผูกมัดรัดดึง”
...
คำสอน หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ)
อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร






หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

#ภูมิที่แตกต่างกันของพระอรหันต์

"...วิถีทางดำเนินจิต ก็มีละเอียด
มีหยาบกว่ากัน..

พระอรหันต์บางท่าน บำเพ็ญ
สมถะมาจนกระทั่งจิต สงบ
ละเอียดแล้ว จึงมาเจริญ
วิปัสสนา แต่บางท่าน...

เจริญวิปัสสนาล้วนๆ การ
เจริญวิปัสสนาล้วน ๆ จิตไม่
สงบละเอียดลึกซึ้ง อาจจะ
เพียงแต่ว่า " ฝึกสติ"

ให้รู้อยู่กับเรื่องชีวิตประจำวัน
ตลอดเวลา ยืน เดิน นั่ง นอน
รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด

โอกาสที่จิตจะ
เข้าฌานลึก ๆ ไม่มี เพราะความ
สำเร็จอรหันต์ ตอนที่จิตอยู่ใน
สมาธิลึก ๆ ไม่สำเร็จ จะสำเร็จ
เมื่อ..จิตถอน....

ออกมาอยู่ตื้นๆ สมาธิขั้น
ขณิกสมาธิหรือ
อุปจารสมาธิ

เช่น...อย่างพระอานนท์
บำเพ็ญเพียรมาจนกระทั่ง

หนักหนาแล้ว จนรู้สึก
เหน็ดเหนื่อย พอมานึกว่า

เราเหน็ดเหนื่อยเต็มทีแล้ว
จะพักผ่อนเสียหน่อย พอเอน
กายลงไปครึ่งนอนครึ่งนั่ง
ไม่ได้ตั้งใจ

จะกำหนดจิตเข้าสมาธิเลย
พอจิตแว้บไปนิดหนึ่ง ขณะ
จิตเดียวเท่านั้น ได้สำเร็จ
พระอรหันต์ !

เพราะฉะนั้น ภูมิจิต ภูมิใจ
ภูมิญาณ ..

ภูมิฌาน อะไร ต่างๆ นี่ จึง
ได้แตกต่างกัน บางท่านก็
สำเร็จวิชชา ๓

บางท่านก็สำเร็จปฏิสัมภิทา ๔
บางท่านก็สำเร็จ อิทธิฤทธิ์ ๖
(อภิญญา ๖)

อะไรทำนองนั้น

แต่ส่วนใหญ่ พระอรหันต์
ทั้งหลายจะสำเร็จเป็น
บางอย่างเท่านั้น

แต่พระพุทธเจ้าสำเร็จได้หมด
ทุกอย่างปฏิสัมภิทา ๔ วิชชา ๓
แล้วก็วิชชา ๘ อภิญญา ๖

พระพุทธเจ้าทรงสมบูรณ์แบบ
แต่พระอรหันต์สำเร็จ ได้บางอย่าง..."

-----------------------------------------------------------------------
#ที่มา หนังสือ สว่าง หน้า ๗๑ - ๗๒
พระราชสังวรญาณ
(หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)






"..ความสำคัญของทุกสิ่งในโลกก็คือใจ ถ้าใจหยาบทุกสิ่งที่มาเกี่ยวข้องก็กลายเป็นของหยาบไปด้วย เช่นเดียวกับร่างกายสกปรก แม้สิ่งที่มาคละเคล้ากับกายจะเป็นของสะอาดสวยงามเพียงไร ก็กลายเป็นของสกปรกไปตามร่างกายที่สกปรกอยู่แล้ว ฉะนั้นธรรมจึงอดจะหยาบไปตามใจที่สกปรกไม่ได้ ถึงจะเป็นธรรมที่บริสุทธิ์หมดจด แต่พอคนมีใจโสมมเข้าไปเกี่ยวข้อง ธรรมก็กลายเป็นธรรมอับเฉาไปตาม เหมือนผ้าที่สะอาดตกลงไปคลุกฝุ่น หรือคนชั่วแบกคัมภีร์ธรรมอวดโลกให้เขารับนับถือ ซึ่งทั้งสองนี้ไม่มีผลดีต่างกันเลย คนที่มีใจหยาบกระด้างต่อศาสนาก็เป็นคนในลักษณะนี้เหมือนกัน จึงไม่มีทางได้รับประโยชน์จากศาสนธรรม แม้เป็นของวิเศษเพียงไรเท่าที่ควร เอาแต่ชื่อออกประกาศกันว่าตนนับถือศาสนา แต่ไม่ทราบว่าศาสนาคืออะไร และมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้นับถืออย่างไรบ้าง ถ้าประสงค์อยากทราบข้อเท็จจริงจากศาสนาอย่างแท้จริงแล้ว ตนกับศาสนาก็เป็นอันเดียวกัน ความสุขทุกข์ที่เกิดกับตนย่อมกระเทือนถึงศาสนาด้วย ความประพฤติดีชั่วก็กระเทือนถึงศาสนาเช่นกัน คำว่าศาสนา คือแนวทางที่ถูกต้องแห่งการดำเนินชีวิตนั่นแล จะเป็นอื่นมาจากไหน ถ้าคิดว่าศาสนาอยู่ที่อื่นนอกจากตัว ก็ชื่อว่าเข้าใจศาสนาผิดจากความจริง.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร
(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง
จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)






#หลักพิจารณาความเป็นมนุษย์

"... ช่วงใดใจของเรามีหิริ ความละอายบาป โอตตัปปะ กลัวสะดุ้งต่อบาป ใจของเราเป็นเทวดา แต่กายของเราเป็นมนุษย์ เรามีหลักที่จะพิจารณาตัวเอง ถ้าหากว่าในช่วงใดเรามีกิเลสโลภโมโทสันขึ้นมา หมายถึงเรามีความโกรธจัด อยากจะฆ่าใคร ฆ่า อยากจะแกงใคร แกง อยากจะด่าทอเสียดสีใคร ว่ากันให้ตามอำเภอใจ ในช่วงนั้นกายของเราเป็นมนุษย์ แต่ใจของเราเป็นสิ่งที่ลดต่ำลงไปกว่านั้น คือลดต่ำกว่าความเป็นมนุษย์

ถ้าโมโหไปเกิดฆ่าสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งขึ้นมา เปอร์เซ็นต์แห่งความเป็นมนุษย์ ลดต่ำลงไปจะถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะศีลห้าขาด ขณะใดที่คุณเกิดความโลภมาก คุณไปคิดลักขโมยจี้ปล้นฉ้อโกง ทำลายศีลข้ออทินนาทาน เปอร์เซ็นต์แห่งความเป็นมนุษย์ก็ลดลงไปยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ความเป็นมนุษย์ก็ไม่สมบูรณ์
สัตว์เดรัจฉานมันก็มาชิงเกิดในช่วงนี้ เพราะจิตใจของเราอยู่ในระดับเท่า ๆ กัน ในเมื่อสิ่งใดมันมีระดับเท่า ๆ กัน มันก็เข้าขากันได้ อันนี้ในขณะนั้นก็แสดงว่า กายของเราเป็นมนุษย์ แต่ขอโทษ ใจของเรามันกลายเป็นสัตว์เดรัจฉานเสียแล้ว

แต่ว่าในขณะใดที่ใจของเรานี้มันมีศีลธรรม มีความเมตตาปรานี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กว้างขวาง ในขณะนั้นใจของเราเป็นมนุษย์ กายของเราก็เป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์มีธรรม มีศีล ๕ มีกรรมบถ ๑๐ มีความเมตตาปรานี. ถ้าหากว่าช่วงใดใจของเรามี หิริ ความละอายบาป โอตตัปปะ กลัวสะดุ้งต่อบาป ไม่กล้าที่จะทำบาปทั้งในที่ลับที่แจ้ง ในขณะนั้นใจของเราเป็นเทวดา แต่กายของเราเป็นมนุษย์

หากว่าในขณะใด ที่เรามาบำเพ็ญสมาธิภาวนา ทำให้จิตมีสมาธิสงบนิ่ง รู้ ตื่น เบิกบาน บรรลุปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน ตามลำดับหรือมีสมาธิแน่วแน่ รู้ธรรมเห็นธรรม ในช่วงนั้นกายของเราเป็นมนุษย์ แต่จิตใจของเราก็เป็นพระพรหม พระพรหมคือผู้มีใจสว่างไสวเบิกบานแช่มชื่น

ถ้าในอันดับนั้นใจของเรานี้ ละกิเลสบาปกรรม ละสังโยชน์คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา ลีลัพพตปรามาสได้เด็ดขาด มีความรักตั้งมั่นในคุณพระรัตนตรัย ไม่คลอนแคลน สามารถสละชีวิตเพื่อบูชาข้อวัตรปฏิบัติ ตามหลักคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ไม่ย่อท้อ ในช่วงนั้นกายของเราเป็นมนุษย์ แต่ใจของเรามันกลายเป็นพระ เป็นพระอริยเจ้าขั้นพระโสดาบัน

แต่ถ้าหากว่าในขณะใด จิตใจของเรามันเหนื่อยหน่าย ท้อแท้ ไม่เอาไหน ประโยชน์ตนก็ไม่เอา ประโยชน์ท่านก็ไม่แลเหลียว ปล่อยชีวิตของตัวเองให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าปราศจากประโยชน์ ในขณะนั้น กายของเราเป็นมนุษย์ แต่จิตใจของเราเป็นเปรต เปตะ แปลว่า ผู้ละ และทิ้งซึ่งประโยชน์ทั้งปวง

อันนี้คือหลักที่เราจะยึดเป็นหลักพิจารณาตัวเอง
แต่ผู้ฟังบางท่านอาจจะนึกว่า พระองค์นี้เทศน์แล้วเอาเรื่องมนุษย์ไปเปรียบเทียบกับสัตว์เดรัจฉานอย่างนั้นอย่างนี้ ทีนี้ธรรมะของจริงนี่ต้องพูดตามความเป็นจริง..."

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ






การทำบุญ
ไม่จำเป็นต้องมีทรัพย์สินเงินทอง
ก็สามารถที่จะร่วมทำบุญได้ การรักษาศีล
และการเจริญภาวนา
ซึ่ง 2 อย่างนี้
จะได้อานิสงส์ผลบุญมากกว่าการให้ทานเสียอีก
เพียงแต่ญาติโยมมองข้ามกันไป
#สมเด็จพระพุฒาจารย์
#โตพรหมรังสี






#มาสว่างไปมืดนี้ก็มีมากหลงเกิดตาย

หลงเวียนวัฏฏะทุกจิตทุกดวง วิญญาณทุกดวงนะ ที่เป็นเทวดานางฟ้า เวลาจุติลงมาจะมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ตั้งใจไว้ว่า เมื่อได้เกิดแล้วจะสร้างบุญสร้างกุศล สร้างคุณงามความดี ให้ดีกว่าเดิม เพื่อจะได้ดีกว่าเดิมดังที่เป็นอยู่

แต่พอได้เกิดแล้วส่วนมากลืม ลืมในสิ่งที่ตนเองตั้งใจไว้ ลืมหมดเพราะหลงแทนที่ จะสร้างบุญสร้างคุณงามความดีกันต่อ กลับไปสร้างบาปสร้างกรรมเสียแล้วทำ ให้ชีวิตตนเองตกต่ำเข้าไปอีก นี่แหล่ะคนเรา

มนุษย์เรามีจำพวกเดียวที่ไม่หลงในชีวิตคือจำพวกที่เป็นพระอริยบุคคล ชั้นพระโสดาบันที่ลงมาเกิด นอกนั้นหลงหมด ลืมหมด

โอวาทธรรม
#หลวงปู่เปลี่ยน_ปัญญาปทีโป





#ทุกๆคนมีอานิสงส์ของทานและศีลแต่เก่ามา_จึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในปัจจุบันนี้

นี่แหละเป็นสิ่งที่เราจะได้พึ่งอาศัยนะ ล้วนแต่เป็นของเก่าทั้งหมด เป็นของเก่าที่เราได้สร้างมาไว้แต่อดีตปุพเพฯ โน้น ของเก่านี้ทิ้งไม่ได้ ของเก่ามีแล้วท่านให้เคารพรักษาไว้ ไม่ให้มันเสื่อมไป และถ้าของใหม่ยังไม่เกิดไม่มีก็ดี ท่านก็ให้แสวงหาเอาให้เกิดให้มีขึ้น ถ้าเราไม่แสวงหาเอา เราจะกลายเป็นมนุษย์สูญเปล่านะ

โอวาทธรรม
#หลวงปู่อว้าน_เขมโก
วัดป่านาคนิมิตต์





#กรรมต่างกัน

มนุษย์เรามันเหลื่อมล้ำต่ำสูงต่างกัน รูปพรรณสัณฐานก็ต่างกัน กิริยามารยาทก็ต่างกัน จิตใจก็ต่างกัน อะไรทุกอย่างตลอดถึงความฉลาดความโง่ อะไรต่างกันไปหมด ก็เนื่องจากสร้างมาคนละอย่าง สร้างอันไหนน้อย อันไหนมาก ยิ่งหย่อนต่างกัน อย่างเราที่เห็นกันอยู่ในระยะนี้ สิ่งเหล่านี้มันต้องเป็นมาจากเหตุ

โอวาทธรรม
#หลวงปู่ศรี_มหาวีโร
วัดประชารมวนาราม(ป่ากุง)
ศรีสมเด็จ ร้อยเอ็ด






#โลกนี้เปรียบเสมือนโรงละคร

ชีวิตนี้เหมือนเล่นละคร
ปุถุชนคนธรรมดาเล่นละคร
ตามกระแสกิเลส ตามยะถากรรม
ส่วนพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมก็เล่นละคร
แต่เล่นไปเพื่อดับทุกข์ เพื่อพ้นทุกข์

โอวาทธรรม
#หลวงปู่ทองอินทร์_กตปุญฺโญ
วัดประชาคมวนาราม(ป่ากุง)
จ.ร้อยเอ็ด
ตอบกระทู้