Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ความดี ความสุข

พฤหัสฯ. 21 ส.ค. 2025 12:22 pm

เดรัจฉานวิชานั้นให้ผลดีแต่ในปัจจุบัน แต่ถ้าเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีในอนาคตนั้นก็ต้องได้รับความทุกข์ตกนรกหมกไหม้...สู้ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ได้ ให้ความสุขทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

***โอวาทธรรม
#หลวงพ่อสมศรี อตฺตสิริ
วัดป่าเวฬุวนาราม ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย






ผู้ที่สามารถเห็นความดีของคนอื่น มีความสุขตลอดเวลา อยากจับผิดผู้อื่นมันไม่ยาก เรื่องจับผิดไม่ต้องฉลาดก็ทำได้

แต่การที่เราจับถูก พยายามจับความดีของคนอื่น อันนี้ต้องฉลาด ต้องเก่ง ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง

#พระอาจารย์ชยสาโร






"..ขอให้ท่านทั้งหลายจงสำรวจดูความสุขว่า ตรงไหนที่ตนเห็นว่ามันสุขที่สุดในชีวิต ครั้งสำรวจดูแล้วมันก็แค่นั้นแหละ แค่ที่เราเคยรู้เคยพบมาแล้วนั่นเอง ทำไมจึงไม่มากกว่านั้น มากกว่านั้นไม่มี โลกนี้มีอยู่แค่นั้นเอง แล้วก็ซ้ำๆ ซากๆ อยู่แค่นั้น เกิดแก่เจ็บตายอยู่ร่ำไป มันจึงน่าจะมีความสุขชนิดพิเศษกว่า ประเสริฐกว่านั้น ปลอดภัยกว่านั้นพระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านจึงสละสุขส่วนน้อยนั้นเสีย เพื่อแสวงหาสุขอันเกิดจากความสงบกาย สงบจิต สงบกิเลส เป็นความสุขที่ปลอดภัยหาสิ่งใดเปรียบมิได้เลย.."

โอวาทธรรมคำสอน
พระราชวุฒาจารย์
(หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
(พ.ศ.๒๔๓๑–๒๕๒๖)







ผู้ใดรู้จักพอผู้นั้นเป็น “มหาเศรษฐี”
ผู้ใดมีน้ำใจผู้นั้นมี “กัลยาณมิตร”
ผู้ใดมีธรรมผู้นั้นมี “เกียรติศักดิ์ศรี”
ผู้ใดมีความดีผู้นั้นมี “อริยทรัพย์”
ผู้ใดมีความสงบผู้นั้นมี “นิพพาน”

#โอวาทธรรมคำสอน
หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตฺโต
วัดป่าเวฬุวันอรัญญวาสี
ต.เขื่องใน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
#หลวงปู่ประเสริฐ_สิริคุตฺโต
#วัดป่าเวฬุวันอรัญญวาสี






.

#ความไม่เที่ยง

ความจริงอารมณ์ของ "นิพพาน"
"นิพพาน" เป็นของไม่หนัก
แต่ทว่าอารมณ์เรายังไม่ถึง มันก็หนัก
แต่ถ้าเรามีอารมณ์ยอมรับความจริงว่า
โลกนี้มันเป็น "อนิจจัง" มันไม่เที่ยง
เพราะ "ความไม่เที่ยง"
ถ้าเราเกิดมามันก็เป็นทุกข์
อย่างกางเกงที่คุณสวม คุณซื้อมาใหม่
คุณคิดว่ามันไม่ขาด เลยไม่ได้เตรียม
ผ้าปะไว้ ต่อไปมันขาดมันเปื่อยมาก
ใช่ไหม เราก็ไม่สบายใจ หนักใจ

ถ้าเราคิดว่ากางเกงที่เราซื้อมา มันมีขาด มีเปื่อย ถ้ามันเก่าสักหน่อย เราก็เตรียมตัวปะ อารมณ์หนักใจมันก็น้อยใช่ไหม

และความจริงของชาวโลกมันมีอยู่อย่างหนึ่ง เกิด แก่ เจ็บ ตาย พลัดพรากจาก
ของรักของชอบใจ
"นี่มันเป็นของธรรมดา"

ถ้าจิตเรารู้อย่างนี้เสียแล้ว
ก็สร้างความเบื่อหน่ายที่เราเกิดมาแล้ว
มีแก่ มีเจ็บ มีป่วย มีตาย
"ก็เพราะร่างกายตัวเดียว"
ถ้าไม่มีกายนี้เสียอย่างเดียว
สิ่งต่างๆ มันไม่มีละ

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
______
จากหนังสือ "ธัมมวิโมกข์" ปีที่ ๓๘ ฉบับที่ ๔๓๗ เดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๐ หน้า ๒๙






...ในเรื่องการฟังธรรม #ก็ให้ทำความเข้าใจว่าต้องไม่ปฏิเสธรับฟัง ไม่เชื่อก็พิจารณาดู ไม่เชื่อก็ไม่ว่า เชื่อก็ไม่ว่า วางไว้ก่อน เราจะรู้โดยให้เกิดปัญญา อะไรทุกอย่าง ถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพอในใจของเราเอง ก็ยังไม่ปล่อยวาง คือว่ามีสองข้าง นี่ข้างหนึ่ง นี่ก็ข้างหนึ่ง คนเรานั้นจะแอบเดินมาข้างนี้ หรือแอบเดินไปข้างนั้น ที่เดินไปกลางๆ ไม่ค่อยเดินหรอก มันเป็นทางเปลี่ยว

....เดี๋ยวรักก็ไปทางรัก พอชังก็ไปทางชัง จะปล่อยการรักการชังนี้ไป มันเป็นทางเปลี่ยว มันไม่ยอมไป เมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้ธรรมะ ทรงเทศน์เป็นปฐมเทศนาเลยตรงนี้

...#ทางหนึ่งเป็นทางสุขของกาม #ทางหนึ่งเป็นทางทุกข์ทรมานตน สองทางนี้ไม่ใช่ทางที่สงบ ท่านพูดว่าไม่ใช่ทางของสมณะ สมณะนี้คือความสงบ สงบจากสุขทุกข์ ไม่ใช่มีความสุขแล้วมันสงบ ไม่ใช่มีความทุกข์แล้วมันสงบ ต้องปราศจากสุขหรือ ทุกข์มันจึงเป็นเรื่องความสงบ

...ถ้าเราทำอย่างนั้นแล้วมีสุขใจเหลือเกิน อันนี้ก็ไม่ใช่ธรรมะที่ดีนะ แต่เราต้องวางสุขหรือทุกข์ไว้สองข้าง ความรู้สึกต้องไปกลางๆ เดินผ่านมันไปกลางๆ เราก็มองดูสุขก็เห็น ทุกข์ก็เห็น แต่เราไม่ปรารถนาอะไร เดินมันเรื่อยไป เราไม่ต้องการสุข เราไม่ต้องการทุกข์ #เราต้องการความสงบ

...จิตใจของเราไม่ต้องแวะไปหาความสุข ไม่ต้องแวะไปหาความทุกข์ ก็เดินมันไปเรื่อย เป็นสัมมาปฏิปทา #เป็นมรรคมีองค์แปด มีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบเกิดขึ้นแล้ว สัมมาสังกัปปะ คือ ความดําริวิตกวิจารมันก็ชอบทั้งนั้น อันนี้เป็นสัมมามรรคเป็นมรรคปฏิปทา

พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)






"..อย่าพากันประมาทนอนใจว่ากิเลสคือเชื้อแห่งภพความเกิดตายไม่มีทางสิ้นสุด เป็นของเล็กน้อยไม่เป็นภัยแก่ตน แล้วไม่กระตือรือร้นเพื่อแก้ไขถอดถอนเสียแต่กาลที่ยังควรอยู่ เมื่อถึงกาลที่สุดวิสัยแล้ว จะทำอะไรกับกิเลสเหล่านี้ไม่ได้นะ จะว่าไม่บอกไม่เตือน คนและสัตว์ทุกข์ทรมานมาประจำโลก อย่าเข้าใจว่าเป็นมาจากอะไร แต่เป็นมาจากกิเลสตัณหาที่เห็นว่าไม่สำคัญและไม่เป็นภัยนั่นแล ผมค้นดูทางมาของการเกิดตาย และการมาของกองทุกข์มากน้อยจนเต็มความสามารถของสติปัญญาที่มีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเป็นตัวเหตุชักจูงจิตใจให้มาหาที่เกิดตายและรับความทุกข์ทรมานมากน้อยเลย มีแต่กิเลสตัวที่สัตว์โลกเห็นว่าไม่สำคัญและมองข้ามไปมาอยู่นี้ทั้งสิ้นเป็นตัวการสำคัญ.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร
(หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส
ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง
จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)






" จิตเป็นแก้วสารพัดนึก สารพัดรู้ สารพัดอย่าง
บริสุทธิ์ได้ก็ที่จิต ไม่บริสุทธิ์ก็ที่จิต
วิมุติได้ก็ที่จิต ทุกข์ก็ที่จิต
จิตตัวเดียวนี่ละ เป็นทั้งวิชชาและอวิชชา
หมั่นเข้าถึงจิต ชำระจิตบ่อยๆ
ทำบ่อยๆจิตนั้นก็จะใสขึ้นเองเนาะ "
.
--- โอวาทธรรม หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต
วัดเขาตาเงาะ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ





“ทำสมาธิมันไม่ยากนักหรอก
แต่การรักษาสมาธินี่สิมันยาก
เหมือนสร้างบ้านหลังหนึ่ง ไม่นานก็เสร็จ
แต่การรักษาบ้านทำความสะอาดบ้าน
ต้องทำไปเรื่อย ๆ ตลอดชีวิต”

พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)






เดรัจฉานวิชานั้นให้ผลดีแต่ในปัจจุบัน แต่ถ้าเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดีในอนาคตนั้นก็ต้องได้รับความทุกข์ตกนรกหมกไหม้...สู้ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ได้ ให้ความสุขทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

***โอวาทธรรม

#หลวงพ่อสมศรี อตฺตสิริ
วัดป่าเวฬุวนาราม ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย






ผู้ถาม : "กระผมได้ยินมาว่าเมื่อครบ ๕,๐๐๐ปีแล้ว ก็จะมีศาสนาของพระศรีอาริยเมตตรัย สืบต่อจากศาสนานี้ ใช่ไหมครับ?"

หลวงพ่อ : "หมายความว่าเมื่อสิ้นศาสนา ๕,๐๐๐ปีแล้วใช่ไหม แล้วพระศรีอริยเมตตรัยจึงมาตรัส"

ผู้ถาม : "ใช่ครับ"

หลวงพ่อ : "ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณ ถ้าศาสนานี้ครบ ๕,๐๐๐ ปีแล้ว #พระศรีอาริยเมตตรัยยังไม่มาตรัส จะต้องว่างจากพระพุทธศาสนาไปหนึ่งพุทธันดรก่อน แต่ว่าในช่วงที่ว่างพระพุทธเจ้านี่ก็จะมี #พระปัจเจกพุทธเจ้า ขึ้นมาแทน สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้านี่ ต่ำกว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

...คือว่าพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาแล้วก็ทรงสอนคนตั้งแต่อันดับต้น ให้รู้จักการให้ทาน ให้รู้จักการรักษาศีล ให้รู้จักการเจริญภาวนา ให้รู้จักการครองเรือนให้อยู่เป็นสุข และให้รู้จักการปฏิบัติตนให้เข้าถึงกามาวจรสวรรค์ ให้เข้าพรหมโลก ให้เข้าถึงพระนิพพาน

...สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้าไม่เช่นนั้น ท่านตรัสแล้วท่านก็เฉยๆ หากว่าจะสงเคราะห์กันก็สงเคราะห์ในขั้นต้น คือ #ทาน กับ #ศีล ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า

...ทีนี้เมื่อเวลากาลล่วงไปหนึ่งพุทธันดร อาตมาตอบไม่ได้นะว่ากี่ปี ถ้าจะให้รู้กันจริงๆ คุณก็จงอย่าตายนะ อยู่ไปจนกว่าพระศรีอาริย์จะมา อยู่ไหวไหมล่ะ?

โอวาทธรรม หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๒ หน้า ๙๔ - ๙๕
ตอบกระทู้