พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พฤหัสฯ. 21 มี.ค. 2024 5:43 am
…ที่ต้องการให้เฉยนั้น
ให้เฉยเพราะรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นอะไร
ก็ทำให้วิบัติทั้งนั้น คือทำให้เราทุกข์ทั้งนั้น
ไม่มีประโยชน์ ไม่มีคุณกับเราเลย
สิ่งที่มีคุณมีประโยชน์ที่สุดกับเรา
ก็มีอยู่สิ่งเดียวในโลกนี้
ก็คือ..“ความสงบของใจ” นี้เท่านั้น
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ไม่มีอะไรเป็นคุณเลย
มีแต่จะมาทำลาย ความสงบของใจ.
…………………………………………
.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๖ กัณฑ์ที่ ๒๕๓
วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๔๙
"คิดดู.. การให้อภัยผู้อื่น
มันเป็นการช่วยใคร
ที่จริงเป็นการช่วยตัวเราเอง
เราไม่ต้องเครียด
ไม่ต้องเศร้าหมอง
ไม่ต้องอึดอัดอีกแล้ว
ถือว่าหมดมันหมดอยู่ที่ตัวเรา
หมดอยู่ที่ในจิตใจของเรา"
พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ
คนฉลาดจะทุ่มเทชีวิตจิตใจ ให้กับการสร้างทรัพย์ภายใน คนโง่จะทุ่มเทชีวิตจิตใจ ให้กับการสร้างทรัพย์ภายนอก
เพราะคนโง่ ไม่รู้ว่าตายไปแล้วต้องไปเกิดใหม่ แต่คนฉลาดรู้ว่าตายไปแล้วต้องไปเกิดใหม่อีก เพราะตายแต่เพียงร่างกาย ใจไม่ได้ตายไปกับร่างกาย
นี่คือคำสอนของคนฉลาด คือพระพุทธเจ้า พวกเราเชื่อคำสอนของคนฉลาด ก็ต้องปฏิบัติตามให้มากที่สุด จะไม่ขาดทุนอย่างแน่นอน จะไม่คว้าน้ำเหลว
เพราะสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเป็นความจริงทั้งหมด ไม่ได้ทรงแต่งขึ้นมา เพื่อหลอกให้พวกเราทำความดีกัน แต่มีผลที่เกิดจากการปฏิบัติจริงๆ จึงควรเชื่อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เชื่อการศึกษาและการปฏิบัติ แล้วภายในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเราจะได้รับทรัพย์ภายในที่ประเสริฐเป็นสมบัติอย่างแน่นอน
ทรัพย์ภายใน คือสติสมาธิปัญญาและวิมุตติขั้นต่างๆ พอได้ทรัพย์ภายในแล้วก็จะเป็นของเราไปตลอด ไม่มีใครมาพรากจากเราไปได้
ไม่เหมือนกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข พอตายไปแล้วก็หมดไป เกิดใหม่ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ นี่คือความแตกต่างระหว่างทรัพย์ภายใน กับ ทรัพย์ภายนอก
หลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต
ธรรมะบนเขา ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จ.ชลบุรี
#ศีลบารมี
"ศีลบารมี" ล่ะ
คนเราเพียงแต่รับศีลไม่ได้รักษาศีล
เข้าใจว่า ศีลนั้นเป็นของพระ
ถ้าพระไม่ให้แล้ว ก็ว่าเราไม่ได้!
ศีลอย่างนี้ เป็นสีลัพพตปรามาส
เพียงแต่ลูบคลำ ศีลแท้ที่จริงนั้น
ศีลของเรา เกิดมาพร้อมกับเรา
ศีลห้าบริบูรณ์ตั้งแต่เกิดขาสอง
แขนสอง ศีรษะหนึ่ง อันนี้คือตัวศีลห้า
เราได้จากมารดาของเรา เกิดมาก็มีพร้อมแล้ว
เมื่อเรามีศีลห้าบริสุทธิ์อย่างนี้
ก็ให้เรารักษาอันนี้หละ รักษากายของเรา
รักษาวาจา รักษาใจให้เรียบร้อย
อย่าไปกระทำโทษน้อยใหญ่ ทางกาย
ทางวาจา ทางใจของเรา
โทษห้าคืออะไร? คือ ...
ปาณาติปาตา ท่านให้งดเว้น อย่าไปทำ
นั่นเป็นโทษ ไม่ใช่ศีล
อทินนาทานา นั่นก็เป็นโทษ ไม่ใช่ศีล
กาเมสุมิจฉาจารา นั่นก็ไม่ใช่ศีล เป็นแต่โทษ
มุสาวาทา ท่านให้งดเว้น มันเป็นโทษ ไม่ใช่ศีล
สุราเมรยมชฺชฯ อันนี้ก็เป็นแต่โทษ
ถ้าเราไม่ได้ทำความผิดห้าอย่างนี้
อยู่ที่ไหนเราก็มีศีล อยู่ในป่าในดง ก็มีศีล
อยู่ในรถในรา เราก็มีศีล ให้เข้าใจศีลตามนี้
ที่คอยจะรับจากพระ นั่นไม่ใช่
ท่านก็บอกว่า อย่าไปทำ ห้าอย่างนั้นให้ละเว้น
เมื่อเราละเว้นแล้ว อยู่ที่ไหนก็มีศีล
เราก็เป็นคนบริสุทธิ์ บริบูรณ์ ศีลห้า อย่างนั้น
เราไม่อยากได้ ไม่ปรารถนาเหตุฉันใด
จึงว่าไม่อยากได้ พิจารณาดูซี่
สมมติว่ามีคนมาฆ่า หรือ มาฆ่าพี่ฆ่าน้อง
ญาติพงษ์ ของเรา เราดีใจไหมล่ะ
เราไปฆ่าเขาล่ะ เขาดีใจไหม พิจารณาดูซี่
เราไม่ต้องการอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ
ถ้าเราไม่ทำอย่างนั้นแล้ว โทษของเรา ก็ไม่มี
เกิดมาอายุก็ยืนนาน ไม่ตายแต่น้อย แต่หนุม
ก็เพราะเราไม่ได้ทำปาณาติบาตไว้
ในหลายภพหลายชาติ
แม้ในชาตินี้ก็เหมือนกัน เราฟังธรรม
ก็ฟังในชาตินี้ แล้วก็ปฏิบัติในปัจจุบันนี้
เราไม่ต้องคำนึงถึงอดีตอนาคต
เรากำหนดให้รู้เดี๋ยวนี้ เรานั่งอยู่นี่
ก็เป็นศีลอยู่ นี่ข้อสำคัญ ...
#หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
จุดมุ่งหมายปลายทางของพุทธศาสนา
สอนแต่เรื่องทุกข์ และที่ไม่มีทุกข์
อยากให้พวกเรารู้ทุกข์เห็นทุกข์และหาทางหนีออกจากทุกข์
เพราะพวกเรามันไม่รู้จักทุกข์จึงไปเล่นอยู่กับทุกข์
จึงทุกข์อยู่ตลอดกาล
คนเราถ้ามันรู้ว่าทุกข์มันไม่ไปใกล้หรอก
คือไฟนี่ล่ะ..ถ้ารู้ว่าไฟมันร้อนมันไม่ไปจับหรอก
จิตถ้ามันรู้ว่าทุกข์มันจะวางเองของมัน
แล้วทีนี้พระอรหันต์คืออีหยัง...
พระอรหันต์ก็คือผู้ไม่ทุกข์
ถ้ายังทุกข์อยู่ก็ไม่ใช่พระอรหันต์
โอวาทธรรม
พระราชวชิรวาที วิ.
(หลวงปู่สมบูรณ์ ขันติโก)
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.