…การพิจารณาไม่ได้พิจารณาเพื่อ ให้อยากตายหรืออยากอยู่
.พิจารณาเพื่อให้ปล่อยวางร่างกาย ให้ยอมรับความจริงของร่างกาย เวลาอยู่ก็อยู่ไป เวลาจะตายก็ให้ตายไป
.ไม่มีความอยากจะอยู่หรือกลัวตาย ให้เฉยๆกับความเป็นไปของร่างกาย อยู่ก็ได้ ตายก็ได้ เท่ากัน ถ้าพิจารณาแล้วเกิดความเบื่อ ไม่อยากจะอยู่ ก็จะเป็นวิภวตัณหา
.แสดงว่า กิเลสเข้ามาแทรกในขณะที่เจริญปัญญา ก็ต้องหยุดพิจารณา กลับมาทำสมาธิ ด้วยอุบายที่ถนัด ถ้าถนัดพุทโธ ก็พุทโธๆไป จนจิตสงบนิ่ง
.กิเลสก็จะสงบตาม อารมณ์เบื่อหน่ายก็จะหายไป พอถอนออกจากสมาธิแล้ว ก็จะรู้สึกสดชื่นเบิกบาน มีกำลังจิตกำลังใจที่จะ “ พิจารณาเรื่องของร่างกายต่อไป”.
……………………………………… . พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๑๘ กัณฑ์ที่ ๔๐๐ วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๒
คนเราจะมีความสุข ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า .. “มีเท่าไร” แต่ขึ้นอยู่ที่ว่า .. “พอเมื่อไร”
หลวงปู่ชา สุภัทโท
"มันมีอะไรเป็นของเราบ้าง ตายไปก็เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้ แล้วจะอยากมันทำไม
ไม่ต้องอยากอะไรทั้งนั้น ทำจิตให้สงบ ให้เป็นหนึ่ง ไม่ต้องไปสนใจในความมี ความเป็น ของตัวเองหรือผู้อื่น ให้สักแต่ว่ารู้อย่างเดียวก็พอ"
ถ้ามันเป็นของเราจริงๆ ยังไงๆ มันต้องอยู่กับเรา ถ้าไม่ใช่ของเรา เราจะเอามันมาทำไม"
ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก
|