Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

จิตใจที่สงบ

อาทิตย์ 19 ก.พ. 2023 6:14 am

ไม่ต้องไปปฏิบัติธรรมที่ไหน
ดูตัวเรานี่แหละ
ทำใจให้สบายๆ
ไหว้พระสวดมนต์อยู่ที่บ้านนี่แหละ
ปรับจิต ปรับใจ ปรับธาตุ อยู่ที่บ้านนี่แหละ
มันไม่ได้ไปที่ไหน
กรรมฐานมันอยู่ที่เรา ไม่ได้อยู่ที่ไหน"

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ







..ผู้ที่ได้ทำคุณงามความดีชีวิตก็เป็นมงคล คนเราตั้งแต่เกิดมาตั้งแต่เล็กจนถึงเฒ่าถึงแก่ ถ้าไม่ได้เข้าวัดฟังธรรมจำศีล ไม่ได้ทำบุญทำทานการกุศล ชีวิตนั้นก็เสียเปล่าประโยชน์ชาติหนึ่งไป ชีวิตก็ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ถ้าผู้ที่ได้ทำคุณงามความดีก็จะเจริญขึ้นไปเรื่อยๆ ตามฐานะของตนเองที่ได้สร้างสมอบรมเอาไว้ พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายก็ดี ที่บวชมาตั้งแต่เล็กจนใหญ่จนโตจนถึงเฒ่าถึงแก่ บุญบารมีก็แก่กล้ามาเรื่อยๆ เพราะเขาศึกษามาตั้งแต่หลายภพหลายชาติ ได้บำเพ็ญคุณงามความดี เมื่อศึกษาหลักพระพุทธศาสนาได้แล้ว ก็เอาไว้เป็นที่แลกเปลี่ยนแก่ศรัทธาญาติโยม ญาติโยมได้เชิดชูพระพุทธศาสนา ร่างกายของพระภิกษุอยู่ได้ก็ด้วยอาศัยศรัทธาญาติโยมดูแลรักษา
..เหตุฉะนั้นเมื่อเราได้ทำคุณงามความดีอย่างนี้ ก็ควรปลื้มใจในชีวิตที่ไม่ขาดทุน แม้ผู้ที่ได้ทำน้อยตามกำลังของตนเอง การทำบุญทำทานการกุศลไม่ต้องทำมาก ทำตามกำลังของตนเอง ทำให้พอเหมาะพอสมกับรายได้รายจ่ายของตนเอง ครอบครัวก็จะอยู่ได้สบาย เหตุฉะนั้นการทำบุญไม่ได้อวดผู้ใด ทำบุญทำความดีเพื่อให้มีความผาสุกเกิดขึ้นเป็นกองบุญของตน คนเราเมื่อได้สร้างคุณงามความดีจิตใจก็อบอุ่น นึกขึ้นมาทีไรเราได้ทำบุญทำทาน ได้รักษาศีลตามกำลังความสามารถของตน บางคนก็นั่งเจริญเมตตาภาวนา ฝึกฝนอบรมจิตใจของตน เพื่อให้เกิดความสงบเกิดขึ้น
..เมื่อจิตใจสงบแล้วจะได้พิจารณาข้อมูลต่างๆ เรื่องเหตุเรื่องผลต่างๆก็จะเข้าใจง่าย รู้จักแยกแยะความดีและความชั่วก็อาศัยจิตใจที่สงบ ใจสงบก็จะได้พบความสุขที่เกิดขึ้น เมื่อความสุขเกิดขึ้นก็จะได้ใช้สติปัญญาพิจารณาเรื่องเหตุเรื่องผลได้เข้าใจดี เมื่อเข้าใจดีแล้วก็จะรู้จักหลบหลีก หนทางที่เดินไปแล้วที่มีความทุกข์ยากลำบากเกิดขึ้น จะเดินทางใดปฏิบัติทางใด ทำให้ความปลาบปลื้มความสุขเกิดขึ้น เป็นการดำเนินชีวิตวิถีชีวิตของตนเองให้ถูกต้อง ไม่มีความเดือดร้อนอยู่ในความสงบ
..ผู้ที่เข้าวัดเข้าวาได้ปฏิบัติธรรมก็จะได้รับผลรับประโยชน์ คือมีความสุขใจที่ได้ทำคุณงามความดีเอาไว้นั่นเอง เป็นหลักเหตุผลที่ได้เป็นทุนของตนเอง ถ้าไปเกิดภพใดชาติใดก็ดีก็จะเจริญรุ่งเรืองขึ้นไปเรื่อยๆ ตามที่ได้ทำทานการกุศลเอาไว้ ตั้งใจให้บริสุทธิ์มากขึ้นเท่าไหร่ก็มีความสุขมากขึ้นเท่านั้น จะเรียกว่าทุกคนพากันสร้างคุณงามความดี..

" ในชาตินี้...
หากยังมีชีวิตอยู่ เราได้สร้างไปตามสติปัญญา
ทีละน้อย ทีละน้อย
เหมือนปลวก
ก็เป็นจอมปลวกได้ หรือเหมือนการตวงน้ำฝน
ทีละน้อย ทีละน้อย ทีละเม็ด ก็สามารถจะเต็ม
โอ่งได้

ฉันใดก็ดี
การทำบุญทีละน้อย ทีละน้อย ก็สามารถเป็น
บุญกองใหญ่ได้

อยากได้รั้งรอ...
วันนั้น วันนี้ ให้ค่อยทำไปเรื่อย ๆ
เพราะความตาย...
มันอยู่ใกล้ชิดเรา เราไม่รู้ว่า จะไปวันไหน ?

ควรรีบสร้าง...
คุณงามความดีเอาไว้ เป็นที่พึ่งของตน."

หลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป.






“ ลูกเอ๋ยบุญเจ้าไม่สร้าง แล้วใครจะช่วยเจ้า ”

“ลูกเอ๋ย ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยไปขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอดเพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนล้นตัว เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดิน จะช่วยเอง… ”

“จงจำไว้นะ… เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลาทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า”

#สมเด็จพระพุฒาจารย์โต (โต)พรหมรังสี





….… " กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบันจะช่วยเจ้าเอง ” ..
......... จงจำไว้ลูกเอ๋ย ... กรรมที่ทำด้วยเจตนาไม่ว่าดีหรือชั่ว ย่อมมีผลต่อผู้กระทำทั้งสิ้น ไม่มีพรหมเทพองค์ใด จะช่วยเจ้าลบล้างกรรมนั้นได้ …….
….… เจ้าจะต้องช่วยเหลือตนเอง ด้วยการสวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ผลแห่งบุญอันเป็นกรรมปัจจุบันจะช่วยเจ้าเอง " ........
........ " มนุษย์รู้จักอาบน้ำชำระร่างกายวันละหลายๆ ครั้ง ทุกวัน ... เพื่อกำจัดเหงื่อไคลสิ่งสกปรกโสโครกที่ติดเกาะเรือนร่างตน ... แต่มนุษย์ไม่เคยที่จะคิดชำระล้างจิตใจให้สะอาดแม้เพียงหนึ่งนาที ... ด้วยเหตุนี้จิตใจของมนุษย์จึงมีแต่ ความโลภ โกรธ หลง อันเป็นตัณหาเพิ่มพูนตลอดเวลา ........
........ ถ้ามนุษย์รู้จักการชำระล้างจิตใจ ด้วยการมีทาน ศีล ภาวนา ทุกๆ วัน ... ความโลภ โกรธ หลง ก็จะค่อยหมดไปเอง .........
....... ถ้าละได้ทั้งสุขและทุกข์ เมื่อนั้นเราก็จะไม่สุขไม่ทุกข์ จิตก็จะเป็นอรหันต์ " ……..

...... “ อมตะธรรม สมเด็จโต ... คำสอนของสมเด็จโตที่ท่านได้บันทึกไว้ในคัมภีร์พรหมรังสี ด้วยลายมือของท่าน ”.......








จิตที่ส่งออกนอกเพื่อรับสนองอารมณ์ ทั้งสิ้น
. เป็นสมุทัย
ผลที่เกิดจากจิตส่งออกนอกแล้วหวั่นไหว
. เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง
. เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง
. เป็นนิโรธ

...โอวาทธรรมจาก หลวงปู่ดูลย์ อตุโล...
ตอบกระทู้