Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ถ้าอยากสบายในอนาคตควรทำบุญ

พฤหัสฯ. 26 ส.ค. 2021 6:52 am

อยู่ด้วยกัน..ให้เมตตากัน

สงสารกันนะ คนทุกคนมีความทุกข์

ทุกข์จากหน้าที่การงาน ทุกข์จากครอบครัว ฯลฯ

ต้องมีน้ำใจ เห็นอกเห็นใจกัน​ อย่าเอามานะใส่กัน

โอวาทธรรม

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม​
วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม








#หน้าที่เราคือบอกบุญทำไม่ทำร่วมไม่ร่วมไม่ใช่หน้าที่เรา

พระเทพมงคลวชิรมุนี (หลวงปู่หา สุภโร)
วัดสักกะวัน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์

โยม ; กราบนมัสการหลวงปู่ครับผม คือพวกผมเดินทางมากราบถวายคารวะครูบาอาจารย์ในเทศกาลเข้าพรรษา ไปหลายวัดหลายจังหวัด ชอบเที่ยวกราบไหว้ช่วยเหลือวัดที่ขาดแคลนครับผม

หลวงปู่ ; อือ อนุโมทนานะคุณนะ คิดอย่างนี่ดีแล้ว คนดูแลช่วยเหลือผู้ขาดแคลน ให้ในสิ่งที่เขากำลังขาดกำลังต้องการ ย่อมมีอานิสงส์ คือลาภผลอันไม่คาดไม่ฝัน เวลาเราตกทุกข์ได้ยากย่อมมีคนช่วยเหลือ
...
โยม ; สาธุครับหลวงปู่ แต่ลูกทุกข์เหลือเกิน ลำพังกำลังลูกไม่สามารถทำงานอย่างนี้ได้ครับผมหลวงปู่ ต้องไปบอกบุญคนอื่นเขา แต่เวลาที่เราไปบอกบุญ บางคนก็ทำ บางคนก็ไม่ทำ บางคนหาว่าเราหลอกลวงต้มตุ๋น เพื่อนผมบางคนเคยไล่เหมือนหมูเหมือนหมาก็มี

หลวงปู่ ; เอ้า กินแม่นปาก ยากแม่นท้อง เที่ยวขี้แม่นขา หล่ะน้อบาดนี่.... มันคนละหน้าที่นะคุณ หน้าที่เราคือบอกบุญ ทำไม่ทำ ร่วมไม่ร่วม ไม่ใช่หน้าที่เรา อย่าเอาหน้าที่เขามาทุกข์สิ เราบอกบุญเราก็ทำหน้าที่ของเรา เอาบุญไปฝากเขา อย่าไปคาดหวังว่าเขาจะทำหรือไม่ทำ มันทุกข์ ทำหน้าที่ให้มันสบายใจ ให้มันสุขใจ หน้าที่ใครหน้าที่มัน หน้าที่กินเป็นของปาก ปากกินแล้วอร่อย ปากกินแล้วก็ไม่อึดอัดไม่แน่นไม่ปวด ปากไม่ทุกข์ แต่คนที่อึดอัด คนที่ปวดคือท้อง ท้องถึงจะอึดอัดถึงจะแน่นก็ไม่เมื่อย เพราะหน้าที่เมื่อยเป็นของขา เที่ยวเข้าเที่ยวออกห้องน้ำ คุณเอ้ยเห็นไหม ในตัวเรามันยังทำกันคนละหน้าที่ ไม่ก้าวก่ายงานของกันและกัน มันถึงอยู่กันได้ คนก็เหมือนกัน อย่าเอาความทุกข์ของเขามาเป็นทุกข์ของเรา มันคนละหน้าที่ เข้าใจนะ!

โอวาทธรรมหลวงปู่หา สุภโร








#นักภาวนาต้องภาวนาสู้กับวิกฤต

“…นักภาวนานั้น
เมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องเจอความทุกข์รุมเร้า
ต้องอดทนต่อทุกข์นั้น และเอาการภาวนานี่แหละ
เป็นตัวช่วยให้ผ่านพ้นไปให้ได้
ไม่ใช่ว่าพอเจอทุกข์รุมเร้า
แล้วต้องเที่ยวไปหาคนอื่นให้ช่วยอยู่ทุกทีไป

นักภาวนาต้องภาวนาสู้กับวิกฤต
ปัญหา และทุกข์ต่างๆ ถ้าจะหลบ
ก็ต้องหลบไปภาวนา ไม่ใช่หลบเพื่อหนี
ไม่ใช่หลบแบบทิ้งการภาวนา”

#คติธรรมหลวงปู่ไม_อินทสิริ









"มนุษย์ไม่ได้เหนือโลกด้วยความเป็นมนุษย์
แต่เหนือโลกด้วยความเป็นผู้มีศีล
มีธรรม มีเมตตาจิต
รู้จักบาป รู้จักบุญ รู้จักคุณ รู้จักโทษต่างหาก
นี่มนุษย์เราดีที่ตรงนี้ เยี่ยมที่ตรงนี้"

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน








"เมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องเจอความทุกข์รุมเร้า ต้องอดทนต่อทุกข์นั้น และเอาการภาวนานี่แหละเป็นตัวช่วยให้ผ่านพ้นไปให้ได้

ไม่ใช่ว่าพอเจอทุกข์รุมเร้าแล้วต้องเที่ยวไปหาคนอื่นให้ช่วยอยู่ทุกทีไป

นักภาวนาต้องภาวนาสู้กับวิกฤติ ปัญหาและทุกข์ต่างๆ ถ้าจะหลบก็ต้องหลบไปภาวนา"

ธรรมะคำสอน
หลวงปู่ไม อินทสิริ









..พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านสอนและย้ำอยู่เสมอว่า ถ้าอยากสบายในอนาคต ก็ควรทำบุญให้มากๆ ไม่ใช่เฉพาะบุญจากทรัพย์ แต่รวมถึงบุญในการรักษาศีล และบุญในการทำสมาธิภาวนาด้วย เหตุผลก็คือ จะได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ
การให้ทาน ส่งผลให้ มีทรัพย์มาก ทำอะไรก็รวย
การรักษาศีล ส่งผลให้ รูปร่างหน้าตาดี คนรักคนชอบ มีความสุขกายสบายใจ
การเจริญภาวนา ส่งผลให้ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ไหวพริบดี มีความคิดสร้างสรรค์
..หรือบางคนอาจจะคิดว่า ไม่ได้หวังมนุษย์สมบัติ บุญต่างๆเหล่านี้จึงไม่ต้องการ แต่คนที่เขามีปัญญาจริงๆ สิ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นคุณงามความดีนั้น เขาทำหมดนั่นแหละ แต่ไม่หวังผลตอบแทนเท่านั้นเอง
..ดังนั้นถึงแม้เราจะปรารถนาพระนิพพาน ก็ควรทำบุญให้ครบถ้วนด้วยความศรัทธา เพราะเราจะทราบได้อย่างไรว่า เราจะทำตนให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้ในชาตินี้ หากเราเป็นคนประมาทไม่ทำบุญไว้ก่อน ชาติต่อๆไปนั้นลำบากแน่นอน

..#โอวาทธรรมหลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าภูเขาหลวง จ.นครราชสีมา..








วิธีภาวนา เบื้องต้นบังคับให้หนัก

"..ความเลิศเลอที่สุดอยู่ในหัวใจนะ ความเลวร้ายที่สุดก็ไม่เกินหัวใจ ความเลวร้ายคือกิเลสพาให้เลวร้าย ความดีเลิศนี้คือธรรมพาให้ดีเลิศ ทั้งสองอย่างนี้กำลังแย่งนางงามจักรวาล คือจิต กิเลสก็จะเอาเป็นสมบัติของตัวเอง ธรรมก็จะเอาเป็นสมบัติของตัวเอง มันแย่งกันอยู่ เพราะฉะนั้นจึงมอบให้ธรรมเป็นผู้บุกเบิกนะ เราจะเห็น.."

โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน








#สมัยเด็กชายอินทร์เข้าไปกราบหลวงปู่หล้าเป็นครั้งแรก

ท่านก็สอนว่า เข้ามาสู่วัด มาอยู่ป่าดงพงไพร เทวบุตรเทวดามีทุกแห่งหนนะ ภูมิรุกขเทวดาอยู่ในภูจ้อนี่มีมาก ให้ตั้งใจภาวนา ให้ไหว้พระ ให้ยึดพระไตรสรณคมน์ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ให้แน่นหนามั่นคง ผีสางนางไม้กลัวหมด ถ้าเรายึดพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะเป็นที่พึ่งแล้วอะไรก็เข้ามาไม่ถึง

ท่านพูดเรื่องชาดกเป็นนิทานว่า มีพ่อลูกไปหาฟืนอยู่นอกกรุงสาวัตถี พอหาฟืนใส่ล้อเต็มแล้วก็มาพักอยู่นอกเมือง วัวมันตามกันเข้าไปในเมือง ผู้เป็นพ่อก็ตามวัวเข้ามาในเมือง เมื่อได้เวลาเขาปิดประตูเมืองก็ออกมาไม่ได้ ลูกชายตัวเล็กๆไม่รู้จะไปนอนที่ไหน ก็มุดเข้าใต้ท้องเกวียน เพราะมืดค่ำไม่รู้จะไปที่ไหน

เมื่อนอนก็มีอมนุษย์ ๒ ตน คือพวกผีกระสือพวกผีอะไรก็ไม่รู้ล่ะ อมนุษย์ตนหนึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิ เห็นเด็กนอนอยู่ใต้ถุนเกวียน ก็ไปกระตุกขาดูว่ามันจะเป็นยังไง แต่อมนุษย์ตนที่เป็นสัมมาทิฏฐิ บอกว่าอย่าไปทำนะ เด็กคนนี้เขาเป็นสัมมาทิฏฐิ พ่อของเขายึดพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะเป็นที่พึ่ง

ตัวที่เป็นมิจฉาทิฏฐิไม่เชื่อ จึงทดลองดูว่าจะเป็นยังไง เด็กคนนั้นพ่อแม่ได้สอนว่าก่อนหลับก่อนนอนให้ภาวนาพุทโธ ๆ หรือ อะระหัง สวากขาโต สุปฏิปันโน พุทธัง ธัมมัง สังฆัง

เมื่ออมนุษย์ไปกระตุกขาเท่านั้นแหละ ก็กระโดดเหยงเลย อมนุษย์ที่เป็นสัมมาทิฏฐิบอกว่า ถ้าเธอทำอย่างนี้เมื่อกลับไปเจ้าต้องมีโทษแน่ เจ้าต้องหาวิธีแก้นะ คือทำความดีทดแทนจึงจะถูก

อมนุษย์ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิถามว่า จะให้ทำยังไง บอกว่าเข้าไปเอาอาหารในเมืองมาให้เด็กกิน คืออมนุษย์หายตัวได้แสดงฤทธิ์ได้ มันไปหาอาหารที่ไหนไม่ได้ ก็ไปเอาสำรับของพระเจ้าปเสน เมื่อได้มาแล้วก็ปลุกให้เด็กกิน เด็กมันหิวอาหารเพราะไม่ได้ทานอาหารเย็น ก็ลุกขึ้นมากินอาหาร พอกินเสร็จแล้วก็นอนต่อ อมนุษย์ก็ทิ้งสำรับทองคำไว้ที่นั่น จากนั้นก็ต่างคนต่างไป

พอรุ่งเช้า พ่อก็รีบออกมาพร้อมกับวัวล้อ พวกในเมืองเขาว่าถาดทองคำของพระเจ้าปเสน หายไปไม่รู้หายไปไหน คนทั้งหลายก็ออกตามหาคนละทิศละทาง พวกตำรวจออกไปก็ไปเห็นถาดทองคำอยู่ใต้ถุนเกวียน เขาก็จะจับผู้เป็นพ่อไปลงโทษ โทษประหารอีกต่างหาก

ทางผู้พ่อก็บอกว่า ผมเพิ่งออกมาจากในเมืองเดียวนี้ ก็ถามเด็กว่ามันเป็นยังไง เด็กก็บอกว่าพ่อเอาอาหารมาให้กินเมื่อคืนนี้ ฝ่ายพ่อก็ยืนยันว่าไม่ได้ออกมาเพราะประตูเมืองปิด ตำรวจก็ไม่รู้จะเอาโทษยังไง ก็เลยไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกว่า เป็นพวกอมนุษย์นะ

นี้ก็คือตัวอย่างหนึ่ง ถ้าผู้ใดก็ตามยึดพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะเป็นที่พึ่งแล้ว ภูตผีปีศาจเขาให้ความเคารพ หลวงปู่หล้าท่านสอนเด็กชายอินทร์ในสมัยนั้นนะ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัว ให้ภาวนาพุทโธ ยึดพุทโธเข้าไว้เป็นหลักนะ ถ้าคนมีพุทโธแล้วพวกอมนุษย์ พวกผีปีศาจกลัวทั้งนั้น

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ผีชั่ว กลัวพุทโธ”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ตอบกระทู้