"ตอนเราเข้าไปอยู่ที่บ้านตาดใหม่ๆ"
...เวลาหลวงตาจะอบรมพระนั้น แล้วแต่ท่านจะสะดวก ช่วงนั้นประมาณสัก ๔-๕ วันครั้ง ตอนเย็นๆ ตอนเกือบพลบๆ ท่านจะบอกให้พระรูปหนึ่งไปบอกพระมาประชุม ไม่มีการตีกลอง ตีระฆัง ตีอะไรทั้งสิ้น ท่านจะบอกพระที่ใกล้ชิดที่ปฏิบัติท่าน ให้ไปบอกพระมาประชุมกัน แล้วพระท่านก็จะไปบอกต่อๆ กัน
.พอบอกประชุมปั๊บ ต้องรีบ มาเลย กําลังทําอะไรอยู่ต้องวางไว้หมด เอาผ้าอาสนะ เอาไฟฉาย เอาจีวร แล้วก็รีบมา เพราะถ้ามาช้านิดหนึ่งนี่ ท่านจะนั่งรอเราอยู่แล้ว
.สมัยที่เข้าไปอยู่ไม่มีไมโครโฟน ก็เหมือนตอนนี้ มีพระเณรประมาณ ๑๐ กว่ารูป ท่านก็นั่งอยู่ตรงนี้ พระเณรก็นั่งอยู่ข้างหน้าท่าน ท่านก็พูดเสียงดังพอได้ยินกัน เวลาหลวงตาเทศน์ พูดครั้งแรกก็ประมาณสักชั่วโมงหนึ่ง หรือ ๔๕ นาทีเสร็จแล้วท่านก็พักฉันน้ำ เคี้ยวหมาก
.แล้วทีนี้ก็จะเล่าเรื่องราวสมัยที่อยู่กับหลวงปู่มั่น สมัยที่ท่านปฏิบัติ เช่น ตอนที่ท่านนั่งภาวนาทั้งคืน เป็นต้น ก็จะแบ่งเป็นสองภาค เทศน์แต่ละครั้งก็ประมาณสัก ๒ ชั่วโมง ฟังแล้วก็จะได้กําลังจิตกําลังใจ พอกลับไปแล้ว ก็ขยันหมั่นเพียรขึ้นเยอะ มีกําลังใจนั่งสมาธิได้นาน เดินจงกรมได้นาน เป็นเครื่องกระตุ้น ให้เราเร่งความเพียรอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้นิ่งนอนใจ
.การฟังเทศน์ถึงต้องฟังอยู่เรื่อยๆ "กาเลน ธัมมัสสวนัง" พอฟังเทศน์ ของท่านแล้ว มีกําลังใจ บางทีกลับไปนั่งภาวนา เดินจงกรมจนถึงสว่างเลย เหมือนกับท่านอัดฉีดกําลังใจให้เต็มที่เลย
.การได้อยู่กับครูบาอาจารย์แบบนี้ถือว่าโชคดี เป็นบุญมาก เพราะ โดยปกติตัวเราเองจะไม่ค่อยมีกําลังที่จะขับตัวเราเท่าไร ไม่มีธรรมะที่จะ ล่อด้วย ท่านมีทั้งลูกล่อและลูกผลัก ลูกล่อ ก็คือ ธรรมะอันวิเศษที่ได้จาก การปฏิบัติเอาออกมาอวดมาโชว์ .. "เหมือนกับท่านมีแหวนเพชรสวยๆ ท่านก็เอามาโชว์" ถ้าปฏิบัติอย่างนี้ก็จะได้แหวนอย่างนี้ "พอเห็นแหวนสวยๆ เราก็อยากจะได้ ก็มีกําลังจิตกําลังใจที่จะปฏิบัติ"
.แล้วท่านก็จะบอกวิธีการปฏิบัติว่า จะต้องทําอย่างไร จะต้องอดทนขนาดไหน จะต้องทุ่มเทอย่างไร มันก็ทําให้เรามีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติมากขึ้น.
........................................ มหาเศรษฐีที่แท้จริง หน้า 82-83 ธรรมะบนเขา ณ เขาชีโอน พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
วันเวลาล่วงพ้น ใกล้ความตายมาทุกที วันเวลาไม่รอใคร ใกล้ความตายมาทุกขณะ
ด้วยเหตุนี้เราทั้งหลาย อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงพ้น อย่าประมาทในชีวิต ให้มีน้ำใจดี ปฏิบัติตามคำสอน องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้รีบพากันสร้างคุณงามความดี ไว้เยอะ ๆ ให้สร้างบารมี ทาน ศีล ภาวนา สมถะวิปัสสนา มหาสติปัฏฐานสี่ ให้พากันเข้าหาธรรมะเพื่อผลแห่งพระนิพพาน เมื่อเรายังไม่ตายยังมีลมหายใจเข้าออกอยู่นี้ ให้พากันค้ำจุนพระพุทธศาสนาสืบยาวไปให้ถึง 5,000 พระวัสสา ให้พากันรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มีใจรักและเมตตาต่อทุกศาสนาเสมอกัน
ขอท่านให้เจริญรุ่งเรือง ทุกอย่าง ทั้งทางโลกและทางธรรม ให้รอดพ้นปลอดภัย อยู่ดีมีสุข ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ให้ถึงซึ่งพระนิพพาน ขอให้เหมือนดังคำเราอธิฐาน ปรารถนาทุกประการเทอญ
นิพพานปัจจัยโย โหตุ สาธุ สาธุ #ธรรมะจากถ้ำเมืองแก็ด ปีธรรม 2564 (ไทใหญ่) 24/9/2563 #ข้อธรรมะเมตตา(บางส่วน) จาก พระครูบาพ่อบุญชุ่ม ญาณสํวโร
“เราป่วยเข้าโรงพยาบาล คิดในใจไม่อยากตาย อยากหายเท่านั้น คิดอย่างนั้นไม่ถูก เป็นทุกข์ ต้องคิดว่า หายก็หาย ตายก็ตาย เพราะเราแต่งไม่ได้ นี่เป็นสังขาร คิดอย่างนี้ถูก ตายก็สบาย หายก็สบาย ต้องได้อย่างหนึ่งจนได้”
หลวงปู่ชา สุภทฺโท
"อะไรที่ดีงาม ให้รีบทำเสีย อย่าผัดวันประกันพรุ่ง เมื่อโอกาสที่ทำได้ผ่านพ้นไป จะไม่มีโอกาสเช่นนั้นอีก"
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
“อะไรก็ตามที่เราหนีไม่พ้น เราควรจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้ นี่คือศิลปะการที่จะอยู่โลกนี้อย่างไม่ทุกข์”
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
มีสติฝึกภาวนา เป็นอริยทรัพย์ ติดตัวไป ได้หลายหมื่นชาติ ส่วนทรัพย์สมบัติทางโลก ชาติเดียวยังเอาไปไม่ได้
หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต
ภาวนาเป็นนะ สดใส แช่มชื่น เบิกบาน แล้วก็สงบ
สังเกตไหม ? จิตใจพวกเรา... มีความสุข แต่สงบ นี่ล่ะ! .. ลักษณะธรรมะ ของพระพุทธเจ้านะ ............ สงบ แต่ ร่า เริง
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
#คนทำทานสักแสนครั้ง #ถ้าไม่มีศีลแล้วก็ช่วยไม่ให้ตกนรกไม่ได้
พระโมคคัลลานะเคยทูลถามพระพุทธเจ้าว่า มีเปรตตนหนึ่งในวิมานจกเปรต เขามีสมบัติมาก แต่ทำไมร่างกายจึงวิปริตดังนี้?
พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า เพราะเขาทำทานไว้มาก แต่ไม่มีศีล นี่แหละ คนมีทรัพย์มาก แต่กินอะไรไม่ได้ มันจะมีประโยชน์อะไร?
ข้าวของต้มแกงมีเยอะแยะ แต่ปากเท่ารูเข็ม จะกินเข้าไปทางไหน? เหตุนั้นจึงเรียกว่า ศีลเป็นส่วนสำคัญ
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
#ชาวพุทธในปัจจุบันอยู่ในขั้นอนุบาลมาก
ไปไหนก็เห็นแห่กันไปทำบุญ หิ้วของสังฆทานเหมือนจะบุญมาก แต่ไม่เคยไปรักษาศีล วัดแต่ละวัดก็ว่างเว้น โบสถ์ศาลาแทบจะไม่มีอุบาสกอุบาสิกามารักษาศีลเลย ยิ่งภาวนายิ่งไม่เอา จะมีบ้างก็ที่แห่ไปทำบุญเฉย ๆ
บุญในส่วนทานมันเป็นปกติของชาวพุทธอยู่แล้ว แต่บุญรักษาศีล บุญภาวนา นี่ บุญใหญ่ บุญจะเข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บุญจะเข้าถึงมรรคถึงผล มันต้องบุญที่เกิดจากจิตตภาวนาเท่านั้น ไม่ใช่จะไปอ่าน ไม่ใช่จะไปฟัง ไม่ใช่จะไปจำธรรมะ ความจำจะมีประโยชน์อะไร มีประโยชน์ก็แค่เอามาเป็นคติเฉย ๆ ความจริงต่างหากที่จะแก้กิเลส ถึงบอกให้พวกเรายกระดับให้ถึงความจริงให้ได้ พวกเราต้องพยายาม อย่าคว้าแต่น้ำเหลว พุทธศาสนาไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่ตุ๊กตา ต้องจริงต้องจัง ถึงจะเข้าสู่ความจริง ถ้าเราเหลาะ ๆ แหละ ๆ ไม่มีวันจะเข้าถึงความจริง คนที่จะเข้าถึงความจริงต้องเป็นคนที่จริงจัง เรามีแต่ความจอมปลอมอยู่ในใจ แล้วจะได้ความจริงได้ยังไง
ดูครูบาอาจารย์แต่ละองค์สิ ท่านเดนตายมาแล้วทั้งนั้น ท่านไม่เคยได้อรรถได้ธรรมด้วยความสุขสบายที่ไหน นั่งหามรุ่งหามค่ำ เดินจงกรมตลอดทั้งคืน ไอ้เรานั่งสมาธินิด ๆ หน่อย ๆ ก็บ่นนั่นบ่นนี่ จะทนแค่นี้ก็ทนไม่ได้ เพราะความจริงมันไม่ปรากฏ มีแต่ความจอมปลอม กลัวนั่นกลัวนี่ กลัวยากลำบาก ธรรมถ้าไม่เอาความทุกข์ไปแลก ยังไงก็ไม่ได้ เราจะเอาแต่สบาย จะเอากิเลสไปแก้กิเลสเหรอ มันเป็นไปไม่ได้ ต้องเอาทุกข์เข้าไปสู้ นี่อะไร พอทุกข์เกิดขึ้นก็ พอแล้ว ๆ
พระอาจารย์โสภา สมโณ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๑
|