Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

บุญมีหลายระดับ

อาทิตย์ 06 ก.ย. 2020 7:35 am

ถ้าหากคนเรา มองดูเห็นความตายอยู่ใกล้ตนแล้ว ก็จะรีบขวนขวายสร้างคุณงามความดีให้เกิดให้มีขึ้นแก่ตนเองได้

ถ้าบุคคลไม่เจริญมรณานุสติกรรมฐาน ไม่ระลึกถึงความตายในวันหนึ่งวันหนึ่ง ไม่รู้ว่าตนเองจะตายในวันใดวันหนึ่งแล้ว ก็ย่อมเป็นคนประมาท เป็นคนที่หลงระเริงเพลิดเพลินอยู่ว่า ชีวิตของเรานี้จะอยู่ได้ยืนยาว นานไปหลายวัน หลายเดือน หลายปี ก็จะมีความประมาท ไม่สร้างสมอบรมบุญบารมีให้เกิด ให้มีขึ้นแก่ตน

#แล้วชีวิตก็จะเสียเปล่าประโยชน์ ฯ
.
(หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป)









วันไหนถ้าประมาทก็แปลว่าไม่ดี ถ้าไม่ประมาททำแต่กรรมดีวันนั้นดีหมด มืดกับเเจ้งไม่เคยทำอะไรให้คน มีแต่คนขี้เกียจก็คือคนขี้โลภก็คือคน วันนี้มีแต่มืดกับแจ้งยี่สิบสี่ชั่วโมง ทำอะไรคนไม่ได้นี้โลกนิยม ธรรมไม่นิยมไม่มีวันนั้นวันนี้วันไหนไม่ประมาททำแต่กรรมดีวันนั้นดีตลอดนั้น วันนี้หมู่เพื่อนจะมาสวดให้ผมหมู่เพื่อนก็ว่ากันไปสิ เราไม่ได้ปรุงขึ้น ผมสวดอยู่ทุกวันๆ อยู่นี้ (ครูบาอาจารย์จุดเทียนครับหลวงปู่) พิธีผมไม่เอาจุดเทียนก็จุดเอา ผมไม่มีพิธี เวลาฉันท์ไม่เห็นมีพิธีจะมาทำพิธี วงศ์ปฏิบัติท่านไม่มีตั้งแต่ไหนมา เดี๋ยวนี้มีเรื่องโลกมาเกี่ยวข้อง วันนั้นวันนี้วันนี้วันเกิดวันนั้นวันครบรอบ วันนั้นวันเกิดมันทำอะไรให้คนหล่ะ...เอาไปคิดดูสิ ยี่สิบสี่ชั่วโมงทำอะไรให้คน กินข้าวก็คือคน ขี้เกียจก็คือคน วันหนึ่งยี่สิบสี่ชั่วโมงนั้น เนี่ยพระพุทธเจ้าท่านว่า ไม่มีวันนั้นดีวันนี้ดีไม่มีวันนี้ฤกษ์ดีไม่มีวันนั้นยามดีไม่มีมีแต่คน แล้วทีนี้สังขารร่างกายก็ไม่ฟังคน ฉันแก่ลงน่ะเธอยังบอกผมแก่แล้วนะ ผมแก่ไปทุกวันๆ นั้น ธรรมไม่มีแก่ไม่เอาความสัตย์ความจริงซื่อสัตย์สุจริตเป็นเลิศฐานมนุษย์ให้ได้ศีลห้านะ ผู้มีศีลเเท้เป็นผู้หมดเวรหมดภัย น่านฟังแต่ว่าศีลแท้รักษาให้บริสุทธิ์เถิดหมดเวรหมดภัย น่านหลวงปู่มั่นท่านว่า วันนี้อันนี้หมู่เพื่อนเจตนาดีญาติโยมก็คิดกันอย่างนั้น หมู่เพื่อนอยากสวดมนต์ถวายก็สวด ท่านไม่สวดผมว่าสวดเอาเองอยู่
ผมสวดเอาทุกวันๆ ศีลผมก็รักษามาตามกำลังของผม สติปัญญารักษามาตลอด คนประมาทคือคนตาย ตายไปทั้งวันนั่นแหละคนประมาท เป็นคนสร้างแต่กรรมดีนั้นถูกต้อง อย่าไปสร้างสิ่งที่ชั่วที่เป็นโทษ หลวงปู่มั่นว่า...ดีใดไม่มีโทษดีนั้นดีประเสริฐดีเลิศ กินเหล้าก็ดีแต่มีโทษ เล่นการพนันก็ดีเเต่มีโทษ มีแต่เรื่องยุ่งเหยินวุ่นวาย พระพุทธเจ้าท่านว่าดีใดไม่มีโทษ เที่ยวกลางคืนก็ดีมีแต่หาเรื่องราวโทษนั้น ทางสายทางทำคนให้ต่ำนั้น พระพุทธเจ้ารู้ดีรู้ชั่วรู้จริงๆ ไม่ใช่ธรรมดารู้หมด จิตพ้นจากอำนาจกิเลสหมดแล้วกลายเป็นธาตุกายสิทธิ์ดังที่เราเห็นพระบรมสารีริกธาตุ อัฐิธาตุพระอรหันต์นั้น กระดูกกลายเป็นแก้วเลยจะหามาจากไหนก็สร้างเอาสิ เราไม่สร้างเราก็ไม่เป็น ไม่เกี่ยวกับพระสงฆ์องค์เจ้า สร้างจิตดวงเดียวให้ดีแค่นั้น ฆราวาสเป็นคนจริงศีลห้าได้เลิศที่สุด นอกนั้นช่วยอะไรไม่ได้ สีเลนะ สุคติง ยันติ นั้น รักษาให้สมบูรณ์แล้ว เวลาตายก็มีความสุขเพราะไม่มีเวรไม่มีภัยในใจ ความเอาเปรียบเอารัดก็ไม่มีคนดูถูกดูแคลนไม่มี จิตดวงนี้ชำระเสร็จหมดสังวรทุกวันๆ ไม่ให้เกิดบึ้นมีอะไรที่จะพาให้เราเศร้าหมองชีวิตนี้ถ้าเรานึกถึงธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้พอดีแต่เรื่องจริงๆ ไม่บังคับใครให้ได้ใครอยากดีนำไปปฏิบัติเถิดดีหมด ไม่มีใครจะไม่ดีแต่ธรรมให้พอเพราะอำนาจกิเลสมันมากมายกายกองหัวใจเราหัวใจท่าน จะชำระให้หมดมลทินไม่ธรรมดา ถ้าไม่มีศรัทธาไม่มีความเชื่อมั่นเสร็จหมด เราจึงทำฝึกจิตฝึกใจของเราน้อมธรรมของพระพุทธเจ้า มาสู่หัวใจของเรา แล้วก้าวเดินระวังสังวร บาปธรรมของฆราวาสก็บอกแล้วสัตย์จะความซื่อสัตย์สุจริตเดี๋ยวให้เราก้าวขึ้นศีลสี่ห้า นิพพุติง ยันติ ถึงนิพพานเหมือนกันหมดไม่ใช่พูดนะ เราไปทำไม่ใช่ง่ายๆ ท่านจึงเทียบให้ว่า คนตกนรกเท่าขนโค คนอื่นขึ้นสวรรค์เท่าเขาโค นั่นดูสิเขาโคกับขนโค....โอ้คนตกนรกเท่าขนโค คนขึ้นสวรรค์นิพพานเท่าเขาโค ก็ดูทุกวันนี้คนมีความซื่อสัตย์สุจริตมีมากไหมหล่ะ ล้มเหลวๆๆๆ รู้จักความล้มเหลวเราก็ตั้งขึ้นมาสิ ธรรมก็มีอยู่แล้วสายทางก้าวเดินพระพุทธเจ้าตรัสไว้ชอบแล้ว ขึ้นชื่อว่ากิเลสมีแต่หลอกล่อให้ล้มเหลวทำให้เราผิดหวังทำให้เราเป็นทุกข์เรื่องกิเลสล้วนๆๆๆ หมด ธรรมไม่มีน้อมเขามารู้เอง รวมสงบลงไปแล้วสว่างจ้าเป็นสมาธิ สันฐิถิโกไม่ต้องไปถามใครรสชาติของธรรมเป็นยังไง รสแห่งธรรมชนะรสทั้งปวงเลิศหมด รสลิ้นปากที่โลกนิยมเป็นแค่นี้นแหละ พวกเราน้อมเอาธรรมของพระพุทธเจ้าไปปฎิบัติตามธรรมของฆราวาสเราก็ดีเป็นคนจริงเป็นคนซื่อสัตย์พอเอาตรงนี้ให้ได้ ถ้าไม่ได้เราจะเอาอะไร ไม่ซื่อสัตย์แล้วทำงานก็ล้มเหลวๆๆๆ ล้มละลายๆๆๆ นี้ท่านสอนพระสงฆ์ไม่ต้องแล้วธรรมวินัยของเลิศของประเสริฐคุ้มครองป้องกันหมด ถ้าปฏิบัติตามตามสายทางนั้นแล้วเป็นสุคโต จิตนั้นกว่าจะคลายออกมานักปราชญ์ท่านว่ารอดตายนี้จะมาเอาดื้อๆมาหังเอาง่ายๆ ลองไปแก้ดูไปชำระความขี้เกียจมักง่ายดูลองดูมันง่ายไหนนั้น อันที่พูดนี้พูดง่ายกว่าทำพูดนี้ง่ายแหม๋อยากมีความสุขนั้น ไม่เอาไหนเลยมีความสุขได้ยังไง ไม่เดินตามสายทางของพระพุทธเจ้า สายทางของพระพุทธเจ้าคือสายทางเดินของชีวิตนั้น แล้วเป็นแนวทางของจิตที่จำดำเนินไปด้วยความปลอดภัยนั้น แนวทางเเห่งชีวิตยกขึ้นมาได้เลยขยันหมั่นเพียรในหน้าที่การงานที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ ถ้าเป็นโทษอย่าทำนั่น ไปไหนหลวงปู่ก็พูดบุญไม่ต้องเสียเงินยกจิตตรงนี้มาชำระให้มีหลักมีเกณฑ์นั้น หลวงปู่มั่นท่านว่าได้สมบัติทั้งปวงไม่ประเสริฐเท่าได้ตน เพราะตนเป็นบ่อเกิดเเห่งสมบัติทั้งปวงนั้นชัดเจนมาก เนี่ยพากันมาท่านเจตนามาสวดมนต์ให้หลวงปู่ ไม่เท่าไรหรอกอย่างมากก็ถึงวันตาย ก็แล้วแต่พระสงฆ์ท่านจะทำเราไม่ได้คิดขึ้น จบแค่นี้พอ

โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์
หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร
วัดป่าดานวิเวก (ดงศรีชมภู) ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
พระธรรมเทศนาก่อนสวดมนต์บูชาธาตุขั้นหลวงปู่
๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๓
เนื่องในโอกาสหลวงปู่เจริญอายุวัฒนมงคล ๘๘ ปี ๖๘ พรรษา
๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๓










".. บางคนมีความทุกข์ ความป่วย แทบจะตาย แต่พอหายทุกข์หายป่วย​ ก็ลืมทุกข์ลืมป่วย​ พอลืมทุกข์ลืมป่วย​ ก็เลยลืมตัว​ เลยประมาท​ ลืมตาย ใช้ชีวิตอย่างประมาทอีก.."

หลวงพ่อเพชร​ วชิรมโน
วัดป่ากล้วยไม้ดิน​ อ.ปากช่อง​ จ.นครราชสีมา









"มีรักที่ไหน มีทุกข์ที่นั้น
ความรักความใคร่ มันโตขึ้นมาได้
รักน้อยๆ ต่อไปมันก็รักมากเข้าๆ
เมื่อไรจะออกจากกันได้
ถ้าจะออกจากกัน ก็เป็นห่วง เป็นทุกข์
ความผูกความพัน มันเหนียวแน่นมาก
เหนียวแน่นจนลืมตัวเอง"

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร










" อย่าเห็นว่าเคราะห์กรรม
เป็นของเลว ไม่น่าปรารถนา
ควรคิดว่าเป็นของดีที่ทำให้
เราเข้มแข็งมั่นคงขึ้น

ให้รู้สึกเสมอว่า เราเกิดมา
เรียนทั้งเคราะห์ร้ายและ
เคราะห์ดี เคราะห์เป็นบทเรียน
ของเรา ที่จะทำให้เราแจ้งโลก
แล้วจะได้พ้นโลก

ดังนี้ จะไม่รู้จักเคราะห์ร้าย
เลยในชีวิต "

โอวาทธรรม
เจ้าคุณนรรัตนราชมานิต








" ให้เราพยายามสร้าง
ความดีไว้ภายในใจของเรา

เกิดมาชาตินี้เราไม่ได้
เสียชาติเป็นมนุษย์
ได้พบพระพุทธศาสนา
นับว่าเป็นบุญลาภ
อันประเสริฐของเราแล้ว

เราอย่าปล่อยอย่าวางชีวิตนี้
ให้กิเลสเอาไปถลุงเสียเปล่าๆ
ไม่เกิดประโยชน์อะไร "

โอวาทธรรม
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสมฺปนฺโน










" เมืองสวรรค์​นี้บ่มีเขต
แบ่งกันปันต่อ มีแต่ยอดช่อฟ้า
มณีเลื่อมส่องใส ว่ะซั่น

บ่ได้ทำไร่ฮั่วนาสร้างสิ่งสวน
มีแต่กินของทิพย์​ล้วน
บ่รู้แหล่งทำนา บ่ได้พากัน
ปลูกตูบตอเรือนเย้า
สวรรค์​ถึงขนาดนั้นละ
ยังบ่เที่ยง กะคิดเบิ่งเอา​

๘๔,๐๐๐ กัป
พวกอาฬารดาบส​ อุทกดาบส​
อยู่​บนพรหม​โลก
ยังสิมาได้เกิดแก่เจ็บ​ตาย
ในวัฏสงสารอีก "

โอวาทธรรม
หลวง​ปู่​หล้า​ เ​ขม​ปั​ต​โต










#อาศัยความเพียรเท่านั้นแหละ

เราจะเพียรอยู่นี่ เกิดภพไหนชาติไหนก็จะเพียรอยู่นี่แหละ เราไม่ประมาทแหละ เรารักษาศรัทธาความเชื่อของเรา

#เพราะอะไรทุกอย่างก็ล้วนแต่ของเก่าทั้งหมด

สาวกพระพุทธเจ้าที่ว่าง่าย ก็ท่านฝึกฝนมายากมาก่อนแล้ว เอาชีวิตแลกเอาก็ยังไม่ได้ในอดีตชาติ ปัจจุบันจึงได้ง่ายน่ะ..

#โอวาทธรรมคำสอน
#หลวงปู่อว้าน #เขมโก
#วัดป่านาคนิมิตต์
บ้านโคกมน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร










#เร่งความเพียรเข้าไป

เส้นเอ็น กระตุก ปีติไล่กิเลสออกจากดวงจิต อำนาจวิปัสสนาฟอกหัวใจให้สะอาด

#อุบายกิเลสมีนานาประการ

มรรคทำให้มาก ให้รู้เท่าทันกับกิเลส ไตรลักษณ์ตัดกระแสกิเลสทั้งหลายให้ขาดจากดวงจิต หัวใจเปลี่ยนแปลงอวิชชาให้เป็นวิชชา เรื่องนี้ควรสนใจ เพราะมันเดินถูกมรรค

#ชอบสวยงาม

พิจารณาให้เป็น อสุภะ- ไม่งาม ของอวัยวะทุกส่วน ดำเนินเข้าไปดู จักเห็นความเป็นจริงของอริยสัจ

รู้แจ้งอวัยวะของร่างกายยิ่งกว่าเก่า ละเอียดกว่าเก่า ด้วยไตรลักษณ์ ทุกฺขํ อนิจฺจํ อนตฺตา ขยายธรรมะรู้ทั่วไป ระงับนิวรณ์ได้ รู้เองเห็นเอง เป็นปัจจัตตัง ปฏิภาคและวิปัสสนาผสมกัน แต่วิปัสสนามากกว่าสมถะ

#พิจารณาการตาย

เกิดสะกิดใจว่าจะต้องตายง่าย อายุไม่ยืนนาน บอกมาเรื่อย ๆ เริ่มความเพียรมากก่อนตาย เพื่อให้ชำนิชำนาญ เพื่อเข้าจิตสู้การตาย ข้อนี้สำคัญมากกว่าอย่างอื่น

#ทำวิปัสสนามากกว่าทำปฏิภาคนิมิต

ให้จิตรู้เองเห็นเอง ไม่มีความอาลัยในชีวิต พิจารณาความตายอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้ชำนาญเข้าสู่อารมณ์แห่งความตาย

หลวงปู่หลุย จันทสาโร












#โลก คือ #โลภ #โกรธ #หลง
....

การที่บอกว่าคนปฏิบัติธรรมนี่
ไม่ทันโลก จริงหรือเปล่า?

“โลก” คืออะไร? อะไรคือ “โลก”?

#อาตมาว่า “โลก” ก็คือ “โลภ โกรธ หลง”

เป็นโลกที่สร้างขึ้นมาด้วยโลภ โกรธ หลง

ดังนั้นถ้าเราทันโลภ ทันโกรธ ทันหลง

นี้แหละคือ “ทันโลก” เข้าใจโลก
...........

เมื่อเราภาวนามันไม่ใช่ว่าจะสงบง่าย มันยาก

ดังนั้นใน #การภาวนาต้องใช้เวลานาน ในการเรียนรู้จากความไม่สงบ สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่างๆ

ฉะนั้น #นักภาวนาต้องมีความรู้เรื่องความโลภ #เรื่องความโกรธ #เรื่องความหลง มากทีเดียว

#เพราะต้องเจอทุกครั้ง
..........

#การนั่งสมาธิภาวนา
คือ #การยอมเผชิญหน้ากับตัวเอง

ไม่ใช่ว่าไม่สบายใจมีทุกข์ใจก็ไปดูของ ไปซื้อของ ไปบันเทิง หนีจากปัญหา

แต่นักภาวนา เวลาไม่สบายใจ
ต้องมาดูตรงนี้ และไม่ใช่เพราะไม่สบายใจ เลยนั่งสมาธิไม่ได้ อันนั้นคิดผิดมากนี้คือเวลาที่จะดูตัวปัญหา

#พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าทุกข์เกิดเพราะกิเลส ไม่ใช่ทุกข์เกิดเพราะสิ่งอื่นไกล จริงหรือเปล่า...

ไม่ต้องเชื่อท่านหรอก เรามาดู
เราภาวนาเพื่อดูปัญหา ว่ากิเลสอยู่ตรงไหน มันเป็นเพราะโลภไหม

เรากำลังอยากได้อะไรสักอย่าง แล้วไม่ได้สิ่งที่อยากได้ไหม

หรือเราต้องอยู่กับคนที่เราไม่ชอบ พลัดพรากจากคนที่ชอบ หรือมันอยู่ตรงไหน อย่างไร

เราไม่ได้ภาวนาเพื่อที่จะไม่ต้องคิดเรื่องนี้ จะได้ bypass ปัญหาทั้งหลายไปอยู่อีกโลกหนึ่ง
.............

#การเจริญสติมีไว้เพื่อ
#ให้เรามีกำลังที่จะมาดูอะไรต่ออะไรในจิตใจ

ดูว่าตอนนี้เรากำลังสร้างทุกข์ให้ตัวเองตรงไหนอย่างไร
.............

#นี่คือแนวทางปฏิบัติ

ให้เห็นว่านี่มันตัวความโลภนี่เอง มันตัวความโกรธนี่เอง มันตัวความน้อยใจนี่เอง หรือตัวความอิจฉานี่เอง

#นี่มันตัวนี้แท้ๆ
...

โอ...มันเกิดตรงนี้ มันเป็นอย่างนี้ๆ

เราจะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น
เหมือนเป็น database file ใหญ่เลย

เมื่อเราได้ดูความโลภ ความโกรธ ความหลง อยู่ในจิตใจเรา พอเราเจอในคนรอบข้าง

#เจอในสังคมทั่วไป ก็ #อ๋อ! #ตัวนี้เคยเห็น!

#ตัวนี้เคยเห็นในตัวเราเอง!

#แต่เรายังไม่ด่วนสรุป

ปล่อยให้ความรู้สึก “แน่นอน”
หรือ “โอ้ ใช่แน่” ควบคุมจิตใจ อย่างนั้นจะขาดสติเหมือนกัน
...................

"ไม่แน่"
พระเทพพัชรญาณมุนี
พระอาจารย์ชยสาโร










#บุญมีหลายระดับ

บุญที่ประกอบด้วย #ปัญญา
#เป็นบุญที่ใหญ่ที่สุด
ลดละกิเลสได้ เจริญกุศลได้

บุญของ #สมาธิ ก็ #รองลงมา
ทำยากกว่า ดีกว่าการถือศีล

#จิตใจที่ทรงฌานทรงอยู่
มันก็ไม่อยากไปทำความชั่วอะไร
ไม่อยากเบียดเบียนใคร มันมีเมตตา
กรุณา มุทิตา อุเบกขาขึ้นมา
#เป็นจิตของพรหม

ถ้าทำทาน ถือศีล
เป็นจิตของมนุษย์
จิตของเทวดา

ถ้าทำสมาธิได้
เป็นจิตของพรหม

ถ้าเจริญปัญญาไป
สุดท้ายมันจะถึงโลกุตตระ พ้นจากโลก

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
ตอบกระทู้