Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ความสรรเสริญ

พฤหัสฯ. 25 ต.ค. 2018 9:00 am

"คนอื่นเขาจะเป็นอย่างไรก็ช่างเขา
เขาจะเป็นคนดี หรือคนไม่ดีเห็นแก่ตัว
ก็ช่างเขา

เราอย่าไปรับเอามาใส่ใจของเรา
คนเราส่วนใหญ่มีทุกข์ เพราะว่า
ไปรับเอาสิ่งภายนอกมาให้ตัวเองเป็นทุกข์"

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม




"ชีวิตนี้น้อยนัก
แต่ชีวิตนี้สำคัญนัก
เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ
เป็นทางแยก จะไปสูงไปต่ำ
จะไปดี ไปร้าย
เลือกได้ในชีวิตนี้เท่านั้น
พึงสำนึกข้อนี้ ให้จงดี
แล้วจงเลือกเถิด เลือกให้ดีเถิด"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ





“คนเราเกิดมาแล้ว
มาแย่ง มาชิงกันว่ากิเลสเหล่านั้น
เป็นของดิบของดี วิเศษวิโส
แย่งแข่งดี แข่งเด่น
แย่งชิงความเป็นใหญ่เป็นโตกัน
แย่งลาภ แย่งยศ ความสรรเสริญทั้งปวง
กลัวแต่จะไม่ได้เป็นของเรา

แท้จริงแล้ว
มันเป็นของทิ้ง ของพระพุทธเจ้า
และเหล่าพระอริยะเจ้าทั้งหลาย
พระองค์ทิ้งไปแล้ว
เรายังหาว่าเป็นของดีอยู่”

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี





ตะกี้นี้รับศีลห้า จะประกาศความหมายของศีลห้าให้ฟัง ผู้รักษาจิตใจด้วยศีลจะเป็นจิตใจที่แน่นหนามั่นคง ศีลาแปลว่าหิน ศีล ๆ น่ะ ศีล ๆ แปลว่าหิน รักษาจิตใจของตนให้อยู่กับธรรม แน่นหนามั่นคง เหมือนว่าเป็นหินทั้งแท่ง เรียกว่ารับศีล คือลับจิตใจของตนให้มีความมั่นคงในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ อย่าวอกแวกคลอนแคลน ทำใจให้แน่นหนามั่นคงตรงกับเหตุกับผลกับหลักกับเกณฑ์ ไม่เหลาะแหละโยกคลอนต่างๆ ท่านเรียกว่าศีล ศีลแปลออกแล้วก็คือศีลนั้นแหละ คือทำจิตใจของเราให้เป็นเหมือนหิน ภูเขาทั้งลูกแน่นปึ๋งด้วยธรรม พากันเข้าใจนะ

ที่ว่าศีลมี ๕ ข้อ ปาณา สัตว์มีชีวิตอย่าไปฆ่าไปทำลาย อย่าเบียดเบียน ชีวิตของสัตว์กับชีวิตของเรามันเท่าเทียมกัน เมื่อหมดเครื่องสืบต่อแล้วตายได้ด้วยกันทั้งนั้น ท่านจึงให้รักษาศีล..ปาณา

อทินนา อย่าฉกอย่าลัก อย่าปล้นสะดม อย่ารีดอย่าไถ อย่าคดอย่าโกง มีเท่าไรให้หาตามเกิดตามมีของตน เรียกว่ารับศีล ศีลข้อที่ ๒ สมบัติของใครใครก็รัก เข็มเล่มหนึ่งก็รัก ถ้ายื่นให้เฉยๆ ยื่นเงินให้กันเป็นล้านๆ ก็ต่างฝ่ายต่างมีความยิ้มแย้มแจ่มใส ถ้ามาขโมยมาฉกมาลักเอานี้เสียใจมาก ฆ่ากันได้ เพราะเข็มเล่มเดียวเท่านั้นฆ่ากันได้ ถ้าให้ด้วยความเต็มใจท่านเรียกว่าสละทานต่อกัน ยิ้มแย้มทั้งสองฝ่าย

กาเมสุ มิจฉาจาร ทุกวันนี้วิชาหมามันชุมมากนะ กาเมสุ มิจฉาจาร แปลว่าวิชาหมาสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีขอบเขต ไม่มีเหตุมีผล ไม่ทราบผัวใครเมียใครสวมได้สวมใส่เรื่อยไปเลย ให้พากันลดละ เราเป็นคน เราไม่ใช่สัตว์

มุสา อย่าโกหกหลอกลวง เฉพาะอย่างยิ่งผัวกับเมียละมันหลอกลวงกันเก่ง ไปเที่ยวอีสาวมาแล้วครั้นกลับมาบ้านเมียถามว่าไปไหนมา ไปฟังเทศน์ ไปฟังเทศน์วัดไหนละ โอ๊ย ไม่บอก เดี๋ยวเขาใช้ให้เราเฝ้าบ้าน เขาจะไปฟังเทศน์ ถามว่าไปฟังเทศน์วัดไหนพระองค์ไหนเทศน์ไม่ยอมบอก กลัวจะจับเงื่อนของมันได้ มุสา มาโกหกเมียนี่สำคัญ ผัวกับเมียโกหกกันเก่ง มุสา โกหกก็โกหกเมียอย่างว่านั่นละ ไปเที่ยวสาวมาแล้วฟาดหมดทั้งคืนทั้งวัน กลับมาบ้านเมียถามไปไหนมา ไปฟังเทศน์มา เทศน์วัดไหนล่ะ ไม่บอก เดี๋ยวเมียจะให้เราเป็นกบเฝ้ากอบัวแล้วเมียจะไปฟังเทศน์ ความจริงมันจะไปอีกวันหลังเข้าใจไหม นี่ละโกหก มุสา

สุรา น้ำเมา อยู่เฉย ๆ มันก็เมาแล้ว พวกเรานี้พวกเมาเรื้อรัง เมากิเลสตัณหา เมาความโลภ ความโกรธ ความรัก ความชัง เมาไม่หยุดไม่ถอย เมาไม่มีวันสร่าง คือคนเมากิเลส เมาเหล้าเมายานี้เมาเป็นบางกาลบางเวลา แต่เมากิเลสตัณหานี้ไม่มีเมืองพอ เมาได้ทั้งหญิงทั้งชาย แม้ที่สุดนักบวชก็เมาได้ ถ้าเผลอไปตามมันเสียได้ทั้งนั้น สุรา ก็คือน้ำเมานั่นละมันเมาอย่างนั้นละ พากันจำเอานะทุกคน

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
พระธรรมเทศนา “ทำใจให้เป็นหิน”
ตอบกระทู้