“การรัก อีกอย่างหนึ่งเรียกว่า เมตตาตัว คือ หมั่นประกอบบุญกุศล และคุณงามความดี ให้มีขึ้นในตน
ขณะใดที่จะเกิดประโยชน์จาก ตา หู จมูก ปาก มือ เท้า ของตนเองแล้ว ก็ไม่ยอมปล่อยโอกาส ให้เสียไป
มือของเรา ที่จะให้ทาน ก็ไม่ถูกตัด ตาที่จะได้พบเห็นของดีๆ ก็ไม่ถูกปิดมิด เราก็จะได้รับผลรายได้อันดี จากตัวของเรา อย่างเต็มที่ อย่างนี้เรียกว่า เมตตาตัว เป็นการรักที่ถูกทาง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุข”
-:- ท่านพ่อลี ธมฺมธโร -:-
บรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้น เมื่อไม่มีทุกข์ มาถึงตัว มักไม่เห็น คุณพระศาสนา
มัวเมาประมาท ปล่อยกาย ปล่อยใจ ให้ประพฤติทุจริต ผิดศีลธรรม อยู่เป็นประจำนิสัย เห็นผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
ต่อเมื่อได้รับทุกข์เข้า ที่พึ่งอื่นไม่มี นั่นแหละ จึงได้คิดถึงพระ คิดถึงศาสนา แต่ก็เป็นเวลาที่สายไปแล้ว"
-:- หลวงปู่แหวน สุจิณโณ -:-
“ระลึกถึงความตาย บ่อยๆ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ก็จะทำให้บุคคลนั้น ได้สร้างคุณงามความดีได้มาก ตามกำลังความสามารถของตน
จึงจะเป็นผล เป็นประโยชน์แก่ชีวิต ของบุคคลนั้น ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์”
-:- หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป -:-
"ความอยาก เป็นทุกข์ อยากน้อย ทุกข์น้อย อยากมาก ทุกข์มาก ไม่อยาก ไม่ทุกข์ ผู้มีสุข คือ ผู้หมดความอยาก"
-:- หลวงปู่สาย เขมธัมโม -:-
"เราเกิดมาเพื่อประสบกับความทุกข์ คนที่เกิดมาแล้วทุกคน จะไม่มีทุกข์ เป็นไม่มี ถ้าหากว่าเรา ยังยึดถือว่าร่างกายเป็นของเรา ทรัพย์สินเป็นของเรา ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง เป็นของเรา อารมณ์ทุกข์มันก็เกิด
เกิดเพราะว่าเราเกาะ ที่เรียกว่า อุปาทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โลกธรรม 8 ประการ คือ
มีลาภดีใจ ลาภสลายตัวไปเสียใจ มียศดีใจ ยศสลายตัวไปเสียใจ มีความสุขในกามดีใจ ความสุขหมดไปร้อนใจ ได้รับคำนินทาเดือดร้อน ได้รับคำสรรเสริญมีสุข
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แนะนำให้พวกเรา ใช้อารมณ์คิดอยู่เสมอว่า ทุกข์ นี้เป็นกฎธรรมดาของโลก”
-:- พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) -:-
"ความผูกพันนั่นแล พาให้โลกเป็นทุกข์กันมากน้อย ถ้าความผูกพันในใจไม่มี ก็ไม่เป็นทุกข์ ธรรมท่านจึงสอนให้รู้เท่าทัน และปล่อยวางความผูกพัน อันเป็นตัวการ ให้ทุกข์ทั้งหลายเกิด"
-:- หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน -:-
|