ทาน ศีล ภาวนา

[รสมน]

“มรณสติ ช่วยเตือนให้เราเห็นคุณค่า
ของสิ่งที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน

เราไม่ค่อยเห็นคุณค่าของวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้
เพราะเราคิดว่า เรายังจะมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายปี

แต่ถ้าเรารู้ว่า เราต้องตายคืนนี้
แต่ละนาทีที่ยังมีชีวิตอยู่ จะกลายเป็นสิ่งที่มีค่าทันที
เราจะไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไป โดยเปล่าประโยชน์
หรือไร้สาระ

คนที่เป็นมะเร็งแล้วรู้ว่า จะมีเวลาอยู่ในโลกนี้
ได้อีกไม่กี่เดือน จะรู้สึกเลยว่า
แต่ละวัน มีความหมายมาก”

-:- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล -:-





“เมื่อคุณหวังแล้ว
คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วย

พร้อมทั้งสมหวัง พร้อมทั้งผิดหวัง
พร้อมทั้งหวาน พร้อมทั้งขม
สมหวังมันหวาน ผิดหวังมันขม

สมหวังแล้ว ดีใจเกินพอดี มันก็บ้า
ผิดหวังแล้ว เสียใจเกินพอดี มันก็บ้า

ชีวิตน่ะ มันก็ต้องหวัง แต่เมื่อหวัง
ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม
ทั้งสมหวัง ทั้งผิดหวัง
มันเป็นธรรมดาโลก”

-:- หลวงปู่หา สุภโร -:-





"กรรมดี หรือชั่ว ถ้าได้ทำลงไปแล้ว
ถึงแม้คนอื่น จะไม่รู้เรื่องที่เราทำ
ตัวเรานั่นแหละ รู้ตัวเองดีที่สุด

ถึงจะโกหก คนทั้งโลกได้
แต่เรา จะโกหกความจริงไม่ได้
ปากคนเราพูดจริง พูดเท็จได้
แต่จิตไม่เคยบอกเท็จในเรื่องของกรรม

พอตายไปแล้ว
ยมบาลไม่ต้องถามให้ยาก
จิตเราที่บันทึกกรรมดีชั่ว
จะอธิบายบอกเล่า ให้ฟังเอง"

-:- หลวงปู่ชอบ ฐานสโม -:-





"ไม่ภาวนาดูให้แจ้งในใจ
ก็ได้แต่ร้องไห้น้ำตาไหล
ลูกของเราตาย
ผัวของเราตาย
เมียของเราตาย
เราก็จะตายวันไหน เวลาใด
รู้ได้ที่ไหน"

-:- หลวงปู่สิม พุทธาจาโร -:-





ทาน ศีล ภาวนา

"... ทาน มีความหมายเป็นการสละ ให้มีเมตตากรุณา ไม่เบียดเบียน ขูดเกลากิเลสออก บางคนผัดวันประกันพรุ่งว่า รวยเสียก่อนจึงจะทาน เราไม่จำเป็นต้องคอยให้รวย มีอะไร กินอะไร ก็ทานสิ่งนั้น ทานเพื่อให้เบา ให้สบาย

ศีลคือไม่เป็นบาป ไม่ห่วงกังวลในทางบาป ละความชั่วออกจากเรา ภาวนาคือการค้นหาถึงที่สุดของความแก่ ความเจ็บ ความตาย..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ชา สุภัทโท

- จากหนังสือ : สุภัททานุสรณ์ หน้าที่ ๑๓๒ (เทศน์เมื่อ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปี ๒๕๑๑)