Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ใจอยู่กับเนื้อกับตัว

จันทร์ 05 ก.พ. 2018 7:36 am

"ถ้าใครภาวนา แล้วเบื่อหน่าย
ต่อครอบครัว อยากหนีไปบวช
มิจฉาทิฏฐิ กำลังจะกินแล้ว
ใครภาวนามีสมาธิดี
แล้วเบื่อหน่ายงาน
อยากทิ้งการทิ้งงานหนีออกไป
อันนั้น ความผิดกำลังจะเกิดขึ้น
ถ้าใครภาวนาเก่งแล้ว
สมมติว่า ครูบาอาจารย์มีลูกศิษย์
รักลูกศิษย์มากขึ้น ลูกศิษย์ภาวนาเก่ง
แล้วรักครูบาอาจารย์
เคารพครูบาอาจารย์มากขึ้น
สามีภรรยาภาวนาเก่ง แล้วรักกันยิ่งขึ้น
รักลูก รักครอบครัว รู้จักประหยัด
รู้จักสิ่งที่ควร ไม่ควรดียิ่งขึ้น อันนี้
จึงจะได้ชื่อว่า เป็นการภาวนาได้ผลดี"
-:- หลวงพ่อพุธ ฐานิโย -:-




"เงิน ไม่ใช่เรื่องใหญ่เสมอไป
ใจต่างหาก ใหญ่ที่สุดเสมอไป
ไม่ว่าคนมี คนจน ใจเป็นใหญ่
คนมีเงิน ใช้เงินในการบุญส่งๆ ไป
โดยใจมิได้ มุ่งให้เป็นบุญ มิได้มุ่งอุทิศ
ด้วยความรู้พระคุณท่านจริงใจ เช่นนี้
ก็ไม่ใช่การแสดง กตัญญูกตเวที
ส่วนคนไม่มีเงินใช้
แม้ในการทำบุญอุทิศ แต่ใจระลึกอยู่
ทำใจให้สงบ เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่อยู่
เพียงเท่านี้ ก็อุทิศให้ใครต่อใคร
ได้มากมาย โดยไม่ต้องเสียเงินเลย
สักบาทเดียวก็ได้ นี้เป็นความจริง"
-:- สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ -:-




"คนเรา ถ้าใจอยู่กับเนื้อกับตัว
เขาเรียกว่า คนมีสมาธิ
คนมีสมาธิ ก็เป็นคนที่มีความสุข
มีหัวใจติดแอร์คอนดิชั่น
อยู่ที่ไหนก็เย็น"
-:- หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม -:-



พวกเรานี่อำนาจความโลภความขี้เกียจครอบครองอยู่ มองไม่เห็นพุทธะตัวจริง จึงเตือนว่าอย่าพากันประมาท ชีวิตนี้เอาแน่นอนไม่ได้ จากแล้วไม่มีอะไรนะ สมบัติก็อย่าได้ประมาท หามาก็อย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเกินไปมันทำให้ชีวิตอับเฉา อับเฉาแล้วจะพึ่งใคร คนอื่นก็ดูแคลน ท่านจึงว่า อัตตา หิ อัตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งของตนร้อยเปอร์เซ็น ทานอาหารก็ไม่มีใครแทนให้ได้นะ รักขนาดไหนก็ไม่ได้นะ ตัวเองกินพริกตัวเองก็เผ็ดเองนะ ใครทำกรรมอันใดไว้ ดีหรือชั่ว เป็นบุญหรือเป็นบาปพากันเป็นทายาทรับผลของกรรมนั้นสืบไป พากันคิดแก้ไขเอาเอง
แต่อย่าไปน้อยเนื้อต่ำใจ โอย ทำมามากแล้วจะทำยังไง อย่าไปคำนึง สิ่งนั้นผ่านไปแล้ว ตั้งตัวในปัจจุบันนี้ ตั้งให้อยู่ในสัจในศีล เป็นคนจริง ซื่อสัตย์ คนจริงนี้ทำอะไรสำเร็จหมด แต่ต้องมีความซื่อสัตย์เป็นทุนหนุนหลัง ท่านจึงว่า กุศลมูล มูลเหตุที่จะทำให้มนุษย์ตกต่ำคือทำกรรมที่ไม่ดี และเป็นเหตุให้ทุกข์ยากลำบาก ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา เกิดมาแล้วแม้จะทำมาค้าขายหรือทำหน้าที่การงานอะไรก็ตาม ถ้าไม่มีบุญหนุนหลังย่อมลดเสื่อม ถ้ามีบุญทำอะไรเหมือนเทพบันดาล กุศลเป็นพี่เลี้ยง จิตไม่จืดจาง ไม่แห้งแล้ง ไม่ต้องเสียเงินเสียทองเลย พยายามรักษาศีลห้าให้สมบูรณ์ ท่านจึงว่า สีเลนะ สุคะติง ยันติ นี่หมายถึงสมบูรณ์แล้วนะ เหมือนทุเรียน ไม่ใช่ปลูกวันเดียวได้กินเลย ปลูกแล้วรักษาไว้ให้มันใหญ่ให้มันโต ถึงเวลาก็เป็นของมัน
จิตดวงนี้ก็เหมือนกัน รักษากุศลมูลคือสิ่งที่ดีไม่มีโทษ เกิดมาภพใดชาติใดจิตนี้จะบริสุทธ์ผุดผ่องมากขึ้นและสูงขึ้นไป เมื่อสูงพอตัวแล้วก็สีเลนะ นิพุติง ยันติ สมบูรณ์หมดทุกอย่าง ก้าวสู่แดนบรมสุข ไม่มีวันแห้งแล้ง ไม่มีวันจืดจาง ไม่มีเฒ่ามีแก่ พากันบำเพ็ญเอา
หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร




การครองเรือน มันจะไปวิเศษวิโสอะไร
มีแฟนก็ทุกข์กับแฟน ต่อให้มีอีก มากมายเท่าไร
มันก็ไม่พ้น ต้องทุกข์กับคนนั้นอยู่ดี
เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ อยู่อย่างนั้น ไม่จบไม่สิ้น
สุขแค่ประเดี๋ยวประด๋าว แต่ต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัส
อยู่ในโลกใบนี้ ตัวยังไม่รู้จักเข็ดอีกหรือ
พิจารณาดูสิ ของเหล่านี้ มันมีอยู่ประจำโลก
โลกอันจอมปลอมนี้ ล่อหลอกกันอยู่อย่างนี้
ใครมาเกิดในโลกใบนี้ ก็ต้องเจอของเก่า ๆ เดิม ๆ แบบนี้
#พิจารณาดูสิ
#สู้ฝึกจิตของเจ้าของไม่ได้หรอก
#ถ้าใครฝึกได้ถึงขั้นถึงภูมิแล้ว
#มันเหนือโลก #เหนือวัฏสงสารเลยนะ
นี่สิ #ถึงจะวิเศษของจริง หัดคิดพิจารณาดูบ้างสิ
หลวงปู่ทุย ฉันทกโร
วัดป่าดานวิเวก (วัดดงศรีชมภู) อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
ตอบกระทู้