ชื่อทางการของสำนักคืออะไรครับ
พฤหัสฯ. 23 ต.ค. 2008 8:28 am
- noon.jpg (46.2 KiB) เปิดดู 2870 ครั้ง
ส่วนที่เหรีญของผมก็เขียนว่า "ปรมาจารย์สักยันต์บัวแปดกลีบ ท่านปู่พ่วง พงษ์แพทย์"
- puang.jpg (23.16 KiB) เปิดดู 2866 ครั้ง
Re: ชื่อทางการของสำนักคืออะไรครับ
ศุกร์ 24 ต.ค. 2008 8:21 pm
เรียนคุณจิ้งจกและทุกท่าน
เมื่อคุณจิ้งจกตั้งคำถามขึ้นมาก็นับเป็นการดีครับ เพราะผมเองยังไม่เคยหารือกับอาจารย์ถึงเรื่องนี้เลย เนื่องจากว่าสำนักเรานั้นไม่ได้คิดประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงเรียงนามกันขึ้นมาอย่างเป็นทางการเพื่อหวังความเด่นดังหรือโฆษณาหวังผลประโยชน์ใด ๆ ฉะนั้นจึงไม่เคยคิดตั้งชื่อให้ดูอลังการ เก๋ไก๋ โดยประการทั้งปวง
แต่เมื่อคุณจิ้งจกสร้างคำถาม ผมก็ต้องสร้างคำตอบ เมื่อวานผมจึงโทรไปหาอาจารย์ตอน 22.33 น. แต่ท่านเข้าพักแล้วเพราะตรากตรำมาทั้งวัน วันนี้ตอนห้าโมงเย็นจึงโทรไปเรียนสายใหม่และปรึกษากันถึงชื่อสำนัก โดยเป็นการปรึกษาซึ่งรวมไปถึงศิษย์รุ่นใหญ่ด้วย เพราะการเรียกชื่อสำนักเราไม่อยากจะ "ทิ้ง" ความสำคัญในครูบาอาจารย์ไม่ว่าจะรูปใดองค์ใดทั้งสิ้น แต่ด้วยความจำเป็นที่ว่า ชื่อสำนักจะยาวมากก็ไม่เป็นการสมควร ต้องให้สั้น กระชับ และได้ใจความมากที่สุด
หลังจากหารือกันแล้วจึงได้คำตอบอย่างเป็นทางการว่าควรเรียกชื่อสำนักว่า...
"สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ"
เนื่องจากว่าท่านปู่พ่วง พงษ์แพทย์ เป็นปรมาจารย์ท่านแรกสุด ถือเป็นปฐมกำเนิดแห่งการสักยันต์ "บัวแปดกลีบ" และที่สำคัญยังเป็นบิดาของท่านอาจารย์ทองหล่อ พงษ์แพทย์ ผู้เป็นครูโดยตรงของอาจารย์ธรรมนูญ
ทว่าเรื่องราวของท่านปู่พ่วงนั้นมีหลายสายได้อ้างอิงถึงชื่อมาก่อนแล้วอย่างเป็นทางการ เช่น สายหลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ก็ได้เอ่ยถึงอยู่ในประวัติของหลวงพ่อพรหมว่าท่านเคยไปเรียนวิทยาคุณกับอาจารย์ฆราวาสชื่อ อาจารย์พ่วง แม้ว่าจะมิได้บอกนามสกุลแต่ก็เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์แห่งโลกขลังของบรรดาอาจารย์ผู้ทรงพระเวทย์ว่าย่อมหมายถึง ท่านปู่พ่วง พงษ์แพทย์ ไม่เป็นอื่น เพราะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีอาจารย์สักที่โด่งดังลือลั่นและมีนามว่า พ่วง อยู่เพียงท่านเดียวไม่มีสองที่ไหนอีก
ส่วนสายของ หลวงปู่ทอง อายะนะ แห่ง วัดราชโยธา มีนบุรี กรุงเทพ ก็มีศิษย์ขลังอยู่หลายท่านด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ อาจารย์เจ็ก ซึ่งท่านอาจารย์เจ็กก็ได้บอกศิษย์ใกล้ชิดของท่านหลายคนว่าอาจารย์ของท่านนอกจากหลวงปู่ทอง อาจารย์แถวแล้วก็ยังมี ท่านปู่พ่วง อาจารย์สักชื่อดังในอยุธยารวมอยู่ด้วย
เมื่อชื่อเสียงกิตติคุณของท่านปู่พ่วงเริ่มเป็นที่รู้จักขึ้นมาอีกครั้งในปัจจุบันสมัย จึงเป็นเหตุให้ศิษย์ของอาจารย์เจ็กเดินทางมาพิสูจน์สอบทานกับอาจารย์ธรรมนูญที่สำนักว่าท่านปู่พ่วงคนที่ว่านี้เป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ?
และคำตอบก็คือ...
ใช่
ทำให้อาจารย์ธรรมนูญได้รู้ว่าแท้แล้วท่านปู่พ่วงยังมีศิษย์ขยายตัวออกไปในวงกว้างอีกมากต่อมาก เพียงแต่เมื่อแตกแขนงกันออกไปแล้วก็มิได้มีการติดต่อกัน จึงไม่อาจทราบได้ว่าศิษย์ในท่านปู่พ่วงมีใครบ้างและไปอยู่ที่ใดกันบ้าง
ทีนี้เมื่อชื่อเสียงของท่านปู่พ่วงขจรขจายเพียงนี้ อาจารย์ธรรมนูญก็ไม่อยากให้เราต้องกล่าวอ้างถึงท่านปู่พ่วงบ่อยเกินไปนัก เพราะจะกลายเป็นว่าเรา "อ้าง" นามท่านด้วยหวังประโยชน์ ทั้งที่สำนักเราสายตรงโดยแท้ แต่ว่าเราไม่เคยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ก่อน เมื่อมาพูดทีหลังแม้จะมีมาก่อน...รู้มาก่อน... ก็อาจถูกมองอย่างดูแคลนได้ว่า "ล้อพิมพ์" อย่างเลี่ยงไม่ได้
อาจารย์จึงห้ามเสีย เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม
ท่านว่า ของจริง ไม่จำเป็นต้องคุย
ดังนั้น แม้อยากให้ชื่อสำนักอย่างเป็นทางการว่า "สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ ปรมาจารย์พ่วง พงษ์แพทย์" ก็จึงมิอาจทำได้
และชื่อสำนักว่า "สำนักสักยันต์ท่านย่าเฒ่านันทมาตา" อาจารย์ก็อยากจะตั้ง แต่นึกไปคิดมาก็เสียดายนามอันเป็นเอกลักษณ์ของท่านปู่พ่วง ด้วยนับวันก็จะเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน วิตกวิจารณ์แล้วได้เหตุผลว่า ยันต์บัวแปดกลีบ เกิดก่อนโดยท่านปู่พ่วงเรียนมาจากพระธุดงค์ผู้ทรงอภิญญาจิตอย่างล้ำเลิศ แต่ท่านย่าเฒ่าเรารู้จักกันในสมัยอาจารย์ทองหล่อ แม้องค์ท่านย่าจะเป็นบรมครูของสำนัก เป็น "ท่านผู้สำเร็จ" ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จหลายต่อหลายอย่างในสำนักดุจเดียวกับเสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาสิต แต่ท่านก็ไม่ปรากฏองค์อย่างเป็นประวัติศาสตร์ให้จับต้องได้ดังเช่นท่านปู่พ่วง ดังนั้นหากเราทอดธุระห่างออกจากท่านปู่เกินไป เรื่องราวของท่านก็จะยิ่งลบเลือน
คิดได้ดังนั้นจึงสรุปชื่อสำนักออกมาเป็นดังที่เห็นนี่แล
ต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม ที่ไม่เคยละเลยศิษย์แม้ข้อสงสัยเพียงเล็กน้อยก็ยังนั่งตอบให้ความกระจ่าง
และเหนืออื่นใดต้องขอบคุณคุณจิ้งจกที่ตั้งข้อสังเกตแม้กระทั่ง "ชื่อเรื่อง" สายตาว่องไวเยี่ยงนี้คงไม่พลาดรับประทานแมลงตัวเล็กตัวน้อยแน่นอนครับ
เมื่อคุณจิ้งจกตั้งคำถามขึ้นมาก็นับเป็นการดีครับ เพราะผมเองยังไม่เคยหารือกับอาจารย์ถึงเรื่องนี้เลย เนื่องจากว่าสำนักเรานั้นไม่ได้คิดประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงเรียงนามกันขึ้นมาอย่างเป็นทางการเพื่อหวังความเด่นดังหรือโฆษณาหวังผลประโยชน์ใด ๆ ฉะนั้นจึงไม่เคยคิดตั้งชื่อให้ดูอลังการ เก๋ไก๋ โดยประการทั้งปวง
แต่เมื่อคุณจิ้งจกสร้างคำถาม ผมก็ต้องสร้างคำตอบ เมื่อวานผมจึงโทรไปหาอาจารย์ตอน 22.33 น. แต่ท่านเข้าพักแล้วเพราะตรากตรำมาทั้งวัน วันนี้ตอนห้าโมงเย็นจึงโทรไปเรียนสายใหม่และปรึกษากันถึงชื่อสำนัก โดยเป็นการปรึกษาซึ่งรวมไปถึงศิษย์รุ่นใหญ่ด้วย เพราะการเรียกชื่อสำนักเราไม่อยากจะ "ทิ้ง" ความสำคัญในครูบาอาจารย์ไม่ว่าจะรูปใดองค์ใดทั้งสิ้น แต่ด้วยความจำเป็นที่ว่า ชื่อสำนักจะยาวมากก็ไม่เป็นการสมควร ต้องให้สั้น กระชับ และได้ใจความมากที่สุด
หลังจากหารือกันแล้วจึงได้คำตอบอย่างเป็นทางการว่าควรเรียกชื่อสำนักว่า...
"สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ"
- poopuag re1.jpg (27.68 KiB) เปิดดู 2792 ครั้ง
เนื่องจากว่าท่านปู่พ่วง พงษ์แพทย์ เป็นปรมาจารย์ท่านแรกสุด ถือเป็นปฐมกำเนิดแห่งการสักยันต์ "บัวแปดกลีบ" และที่สำคัญยังเป็นบิดาของท่านอาจารย์ทองหล่อ พงษ์แพทย์ ผู้เป็นครูโดยตรงของอาจารย์ธรรมนูญ
ทว่าเรื่องราวของท่านปู่พ่วงนั้นมีหลายสายได้อ้างอิงถึงชื่อมาก่อนแล้วอย่างเป็นทางการ เช่น สายหลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ก็ได้เอ่ยถึงอยู่ในประวัติของหลวงพ่อพรหมว่าท่านเคยไปเรียนวิทยาคุณกับอาจารย์ฆราวาสชื่อ อาจารย์พ่วง แม้ว่าจะมิได้บอกนามสกุลแต่ก็เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์แห่งโลกขลังของบรรดาอาจารย์ผู้ทรงพระเวทย์ว่าย่อมหมายถึง ท่านปู่พ่วง พงษ์แพทย์ ไม่เป็นอื่น เพราะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีอาจารย์สักที่โด่งดังลือลั่นและมีนามว่า พ่วง อยู่เพียงท่านเดียวไม่มีสองที่ไหนอีก
- หลวงพ่อพรหม ถาวโร
- luangporprom re1.jpg (13.65 KiB) เปิดดู 2792 ครั้ง
ส่วนสายของ หลวงปู่ทอง อายะนะ แห่ง วัดราชโยธา มีนบุรี กรุงเทพ ก็มีศิษย์ขลังอยู่หลายท่านด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ อาจารย์เจ็ก ซึ่งท่านอาจารย์เจ็กก็ได้บอกศิษย์ใกล้ชิดของท่านหลายคนว่าอาจารย์ของท่านนอกจากหลวงปู่ทอง อาจารย์แถวแล้วก็ยังมี ท่านปู่พ่วง อาจารย์สักชื่อดังในอยุธยารวมอยู่ด้วย
- หลวงปู่ทอง อายะนะ
- luangpootong re1.jpg (9.71 KiB) เปิดดู 2788 ครั้ง
- อาจารย์เจ็ก
- ajarnjeg re1.jpg (18.27 KiB) เปิดดู 2789 ครั้ง
เมื่อชื่อเสียงกิตติคุณของท่านปู่พ่วงเริ่มเป็นที่รู้จักขึ้นมาอีกครั้งในปัจจุบันสมัย จึงเป็นเหตุให้ศิษย์ของอาจารย์เจ็กเดินทางมาพิสูจน์สอบทานกับอาจารย์ธรรมนูญที่สำนักว่าท่านปู่พ่วงคนที่ว่านี้เป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ?
และคำตอบก็คือ...
ใช่
ทำให้อาจารย์ธรรมนูญได้รู้ว่าแท้แล้วท่านปู่พ่วงยังมีศิษย์ขยายตัวออกไปในวงกว้างอีกมากต่อมาก เพียงแต่เมื่อแตกแขนงกันออกไปแล้วก็มิได้มีการติดต่อกัน จึงไม่อาจทราบได้ว่าศิษย์ในท่านปู่พ่วงมีใครบ้างและไปอยู่ที่ใดกันบ้าง
ทีนี้เมื่อชื่อเสียงของท่านปู่พ่วงขจรขจายเพียงนี้ อาจารย์ธรรมนูญก็ไม่อยากให้เราต้องกล่าวอ้างถึงท่านปู่พ่วงบ่อยเกินไปนัก เพราะจะกลายเป็นว่าเรา "อ้าง" นามท่านด้วยหวังประโยชน์ ทั้งที่สำนักเราสายตรงโดยแท้ แต่ว่าเราไม่เคยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ก่อน เมื่อมาพูดทีหลังแม้จะมีมาก่อน...รู้มาก่อน... ก็อาจถูกมองอย่างดูแคลนได้ว่า "ล้อพิมพ์" อย่างเลี่ยงไม่ได้
อาจารย์จึงห้ามเสีย เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม
ท่านว่า ของจริง ไม่จำเป็นต้องคุย
- 3 saksit re1.jpg (25.84 KiB) เปิดดู 2795 ครั้ง
ดังนั้น แม้อยากให้ชื่อสำนักอย่างเป็นทางการว่า "สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ ปรมาจารย์พ่วง พงษ์แพทย์" ก็จึงมิอาจทำได้
- tanyatoa re1.jpg (18.04 KiB) เปิดดู 2789 ครั้ง
และชื่อสำนักว่า "สำนักสักยันต์ท่านย่าเฒ่านันทมาตา" อาจารย์ก็อยากจะตั้ง แต่นึกไปคิดมาก็เสียดายนามอันเป็นเอกลักษณ์ของท่านปู่พ่วง ด้วยนับวันก็จะเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน วิตกวิจารณ์แล้วได้เหตุผลว่า ยันต์บัวแปดกลีบ เกิดก่อนโดยท่านปู่พ่วงเรียนมาจากพระธุดงค์ผู้ทรงอภิญญาจิตอย่างล้ำเลิศ แต่ท่านย่าเฒ่าเรารู้จักกันในสมัยอาจารย์ทองหล่อ แม้องค์ท่านย่าจะเป็นบรมครูของสำนัก เป็น "ท่านผู้สำเร็จ" ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จหลายต่อหลายอย่างในสำนักดุจเดียวกับเสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาสิต แต่ท่านก็ไม่ปรากฏองค์อย่างเป็นประวัติศาสตร์ให้จับต้องได้ดังเช่นท่านปู่พ่วง ดังนั้นหากเราทอดธุระห่างออกจากท่านปู่เกินไป เรื่องราวของท่านก็จะยิ่งลบเลือน
คิดได้ดังนั้นจึงสรุปชื่อสำนักออกมาเป็นดังที่เห็นนี่แล
ต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม ที่ไม่เคยละเลยศิษย์แม้ข้อสงสัยเพียงเล็กน้อยก็ยังนั่งตอบให้ความกระจ่าง
- ajannoon re1.jpg (32.08 KiB) เปิดดู 2785 ครั้ง
และเหนืออื่นใดต้องขอบคุณคุณจิ้งจกที่ตั้งข้อสังเกตแม้กระทั่ง "ชื่อเรื่อง" สายตาว่องไวเยี่ยงนี้คงไม่พลาดรับประทานแมลงตัวเล็กตัวน้อยแน่นอนครับ
Re: ชื่อทางการของสำนักคืออะไรครับ
เสาร์ 25 ต.ค. 2008 1:57 am
ดีใจครับที่ได้ชื่อทางการซะที เพราะว่า จากประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านๆ มาของผมทำให้ผมเกิดความสงสัยในเรื่องนี้ เพราะในเรื่องของงานฐานข้อมูลนั้น หลายครั้งเราจะเจอปัญหาเรื่องคำค้นหาเรื่องที่ต้องการ คือ หัวเรื่อง (Subject Heading) หรือ Keyword ถ้าเราไม่ทำให้เป็นหลักเป็นฐานที่ถูกต้องเสียแต่ตอนนี้ ลูกหลานในกาลข้างหน้าต้องปวดหัวมานั่งเถียงกันแน่นอนว่า ชื่อสำนักคืออะไร อาจถึงขั้นต้องเอาหนังสือ จดหมาย แผ่นพับ ที่พิมพ์ออกมาต่างกรรมต่างวาระมานั่งเถียงกันเพื่อหาข้อยุติการที่เราได้ชื่อที่เป็นทางการของสำนัก ผมถือว่า เราได้ช่วยลดปัญหาที่จะเกิดในอนาคตลงไปได้เยอะเลยครับ
Re: ชื่อทางการของสำนักคืออะไรครับ
จันทร์ 27 ต.ค. 2008 2:04 am
ของจริงไม่จำเป็นต้องคุย
นึกถึงคำพูดของครูบาอาจารย์เลยฮะ ของจริงต้องนิ่งใบ้
แล้วอีกอย่าง กลองดีต้องตีถึงจะดัง
หรือให้ใหม่หน่อยก็ ของดีเทคนิคไม่ต้อง คริ คริ คริ
ความเป็นของจริง ของแท้ ไม่ว่าจะเป็นยังไง ผ่านเวลาไปนานแค่ไหน สิ่งเหล่านั้นก็ย่อมทนทานต่อการพิสูจน์เสมอฮะ
คำถามนี้คงเป็นคำถามประวัติศาสตร์ของสำนักเลยก็ว่าได้ เพราะผ่านเป็นร้อยปีชื่อที่เรียกขานก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป
ขอบพระคุณท่านผู้ตั้งคำถาม ท่านผู้หาคำตอบ และท่านผู้กรุณาให้คำตอบทุกๆท่านฮะ
นึกถึงคำพูดของครูบาอาจารย์เลยฮะ ของจริงต้องนิ่งใบ้
แล้วอีกอย่าง กลองดีต้องตีถึงจะดัง
หรือให้ใหม่หน่อยก็ ของดีเทคนิคไม่ต้อง คริ คริ คริ
ความเป็นของจริง ของแท้ ไม่ว่าจะเป็นยังไง ผ่านเวลาไปนานแค่ไหน สิ่งเหล่านั้นก็ย่อมทนทานต่อการพิสูจน์เสมอฮะ
คำถามนี้คงเป็นคำถามประวัติศาสตร์ของสำนักเลยก็ว่าได้ เพราะผ่านเป็นร้อยปีชื่อที่เรียกขานก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป
ขอบพระคุณท่านผู้ตั้งคำถาม ท่านผู้หาคำตอบ และท่านผู้กรุณาให้คำตอบทุกๆท่านฮะ
Re: ชื่อทางการของสำนักคืออะไรครับ
จันทร์ 27 ต.ค. 2008 2:57 am
จิ้งจก เขียน::D ดีใจครับที่ได้ชื่อทางการซะที เพราะว่า จากประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านๆ มาของผมทำให้ผมเกิดความสงสัยในเรื่องนี้ เพราะในเรื่องของงานฐานข้อมูลนั้น หลายครั้งเราจะเจอปัญหาเรื่องคำค้นหาเรื่องที่ต้องการ คือ หัวเรื่อง (Subject Heading) หรือ Keyword ถ้าเราไม่ทำให้เป็นหลักเป็นฐานที่ถูกต้องเสียแต่ตอนนี้ ลูกหลานในกาลข้างหน้าต้องปวดหัวมานั่งเถียงกันแน่นอนว่า ชื่อสำนักคืออะไร อาจถึงขั้นต้องเอาหนังสือ จดหมาย แผ่นพับ ที่พิมพ์ออกมาต่างกรรมต่างวาระมานั่งเถียงกันเพื่อหาข้อยุติ
การที่เราได้ชื่อที่เป็นทางการของสำนัก ผมถือว่า เราได้ช่วยลดปัญหาที่จะเกิดในอนาคตลงไปได้เยอะเลยครับ
ลดปัญหาโลกร้อนด้วยไหมครับ
Re: ชื่อทางการของสำนักคืออะไรครับ
จันทร์ 27 ต.ค. 2008 2:16 pm
ลดความร้อนใจของคนอยากรู้ครับ