Switch to full style
ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี
ตอบกระทู้

ความบังเอิญที่ไม่น่าจะบังเอิญ

ศุกร์ 05 มิ.ย. 2009 3:13 pm

วันก่อนผมพึ่งเล่าเรื่อง ลางบอกเหตุ จาก ล็อกเกตท่านย่าเฒ่าไป นึกไม่ถึงว่าผ่านมาไม่กี่วัน ผมก็มีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกจนได้

เมื่อวานนี้ผมไปช่วยงานเปิดร้านใหม่ของแฟนมาครับ มีเรื่องแปลก ๆ มาเล่าให้พี่ ๆ และเพื่อน ๆ ฟังกัน เรื่องมีอยู่ว่า.........

เมื่อหลายวันก่อนแฟนผมมาปรึกษากับผมว่า ร้านที่จะเปิดใหม่ที่บ่อวิน (จ.ระยอง) นั้น ยังไม่มีพระที่จะนำไปขึ้นหิ้งเลยไม่รู้จะเลือกพระองค์ไหนไปดี

ผมจึงแนะนำไปว่า "ไหน ๆ เธอก็นับถือท่านย่าเฒ่าอยู่แล้วนี่ ก็อัญเชิญท่านย่าเฒ่าไปซิ"

แฟนผมเห็นดีเห็นงามกับความคิดดังกล่าว จึงตัดสินใจเลือกองค์ท่านย่าเฒ่าขนาดบูชา 3 นิ้วไป

เช้าวันที่ 3 มิถุนายน 2552 เป็นฤกษ์เปิดร้านตามที่กำหนดไว้

ก่อนออกเดินทางไปที่จังหวัดระยอง ผมและแฟนได้ทำการจุดธูปเทียน อัญเชิญท่านย่าเฒ่าให้ตามไปอยู่ที่ร้านใหม่ พร้อมทั้งบอกกล่าวให้ท่านช่วยมาร่วมงานทำบุญเปิดร้านในครั้งนี้ด้วย

พอไปถึงที่ร้าน จ.ระยอง หลังจากอัญเชิญท่านย่าเฒ่าขึ้นหิ้งเป็นที่เรียบร้อย พระสงฆ์ที่แม่แฟนผมนิมนต์มาจาก จ.จันทบุรี ทั้ง 9 รูป ก็เดินทางมาถึง พร้อมเข้าประจำที่สวดมนต์แผ่เมตตา

photo.jpg
รูปพระสงฆ์ที่มาสวดในพิธี
photo.jpg (120.94 KiB) เปิดดู 2218 ครั้ง


ระหว่างที่พระท่านทำการสวดมนต์อยู่นั้น ผมซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าของพระรูปหนึ่งที่นั่งเรียงเป็นอันดับสามของแถว สายตาก็พลันสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างบนหลังมือของพระรูปนั้น

ผมเพ่งดูอยู่นาน พอผมเห็นสิ่งที่อยู่บนหลังมือของพระรูปนั้นถนัดตาแล้ว ผมก็เกิดอาการขนลุกขึ้นทันที
photo2.jpg
"พระลาย หรือ หลวงพ่อลาย" (สังเกตที่หลังมือท่านนะครับ)
photo2.jpg (17.62 KiB) เปิดดู 2215 ครั้ง


เพราะสิ่งที่ผมเห็นนั้น ก็คือ
รอยสักพระนามท่านย่าเฒ่าประจำสำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ
photo3.jpg
ตัดมาให้ดูกัน (แต่ไม่ค่อยชัด เพราะใช้กล้องมือถือถ่าย)
photo3.jpg (20.65 KiB) เปิดดู 2220 ครั้ง


ผมนึกในใจว่า เป็นไปได้ยังไงที่รอยสักนี้มาปรากฏอยู่บนหลังมือของพระที่กำลังสวดอยู่ตรงหน้าผม อีกทั้งนี่มันจังหวัดระยองหาใช่ชลบุรีไม่

ลำพังในชลบุรีเองยังไม่ค่อยเจอด้วยซ้ำ แถมนี่ยังเป็นพระสงฆ์อีกต่างหาก

ผมเก็บความสงสัยในเรื่องนี้อยู่นาน จนพระท่านสวดมนต์เสร็จผมก็ยังไม่มีโอกาสสนทนากับท่านซะที

หลังจากพระท่านฉันภัตตาหารเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม่แฟนผมก็ให้ผมไปขอความเมตตาจากพระรูปหนึ่งที่นั่งสวดเป็นประธานในพิธีให้ท่านช่วยทำการเจิมป้ายร้านให้หน่อย

พอผมคลานเข้าไปแจ้งความจำนงค์ดังกล่าวกับพระรูปนั้นกลับได้รับการปฏิเสธ พร้อมกับชี้มือให้เข้าไปนิมนต์พระที่นั่งถัดไปรูปที่สาม ซึ่งชื่อว่า "พระลาย" ให้เป็นผู้ทำการเจิมป้ายให้

ผมได้ยินดังนั้นก็ยิ่งรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นอีกครั้ง เพราะว่าพระลายก็คือ พระที่มีรอยสักพระนามท่านย่าเฒ่าที่หลังมือนั่นเอง

ผมรีบคลานเข้าไปกราบและนิมนต์พระลายทันที ท่านก็รับนิมนต์ด้วยความเต็มใจทันทีเช่นกัน

ระหว่างที่ผมเดินนำพระลายไปที่ป้ายหน้าร้าน ผมก็ถือโอกาสถามท่าน ถึงรอยสักที่หลังมือท่านว่าเป็นรอยสักอะไร

ท่านหันมามองหน้าผมด้วยความประหลาดใจในคำถาม

ผมจึงรีบบอกท่านว่า รอยสักดังกล่าวนั้นเหมือนกับรอยสักที่ข้อมือของผม ผมพูดพร้อมกับยื่นรอยสักสีแดงบนข้อมือให้ท่านดู

พอพระลายเห็นรอยสัก ท่านก็ถามผมว่า "อ้าว เราเป็นศิษย์ที่สำนัก อ.นูญ เหรอ งั้นเราก็สำนักเดียวกันน่ะสิ"

ผมตอบรับทันทีด้วยความดีใจมากที่ผมเข้าใจไม่ผิด นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอเรื่องแบบนี้ที่นี่

พอผมยื่นแป้งเจิมและแผ่นทองให้แก่ท่าน ท่านก็บอกว่า "ถ้าอย่างงั้นไม่เจิมดีกว่า เจิมไปไม่นานเดี๋ยวก็หลุด เดี๋ยวเขียนยันต์ให้เลยละกัน"

ท่านพูดจบก็ดึงปากกาเคมีออกมาจากในย่าม แล้วก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงลงมือลงอักขระยันต์เหนือป้ายร้านทันที พอท่านเขียนยันต์เสร็จท่านนำมือทาบลงที่ป้ายนั้นแล้วบริกรรมคาถาพร้อมเป่าให้เสร็จสรรพ
Image(1592).jpg
ยันต์ที่พระลายเขียนให้หน้าร้าน
Image(1592).jpg (30.5 KiB) เปิดดู 2219 ครั้ง


หลังจากนั้นผมก็ถือโอกาสสนทนาปราศรัยกับท่านต่อ ท่านเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานนี้ อ.นูญ พึ่งไปหาเราที่สำนักสงฆ์เอง อ.นูญท่านเก่งมาก ท่านเป็นอันดับหนึ่งของสำนักเรา แล้วท่านย่าเฒ่าก็ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ด้วย ให้หมั่นสวดและระลึกถึงท่านย่าบ่อย ๆ แล้วจะเจริญเอง

ก่อนท่านจะกลับ ผมจึงไม่ยอมพลาดโอกาสรีบยื่นหัวหลิม ๆของผมเข้าไปหาท่านทันที พร้อมขอความเมตตาจากท่านให้ช่วยเป่ากระหม่อมให้หน่อย

ท่านไม่มีอาการปฏิเสธใด ๆ (หรือท่านเลี่ยงไม่ได้ก็ไม่รู้ เพราะเล่นเสือกหัวเข้าไปหาซะขนาดนั้น)

ท่านบริกรรมคาถาอยู่นาน ก่อนที่จะเป่าไล่ตั้งแต่กระหม่อมไปถึงท้ายทอยจนผมขนลุกไปหมด

ตอนนั้นทุกสายตาของพระทั้ง 8 รูปที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถึงกับงงไปเหมือนกันว่าผมรู้จักพระลายได้อย่างไร พระที่เป็นประธานสวดในพิธีถึงกับบอกผมว่า นี่เราโชคดีมากนะ เพราะปกติแล้วพระลายท่านไม่ค่อยเป่าหัวให้ใคร

หลังจากท่านกลับไปแล้วผมรีบไปเล่าให้แฟนผมฟังทันที

แฟนผมถึงกับงง อย่าว่าแต่พระนามท่านย่าเฒ่าที่คนเฉพาะกลุ่มรู้จักเท่านั้น นี่ยังมีรอยสักพระนามท่านอีกต่างหาก ขนาดแฟนผมนับถือท่านย่าเฒ่าเหมือนกัน ยังไม่รู้เลยว่ารอยสักที่หลังมือพระลายนั้นเป็นรอยสักอะไร

แฟนผมถามด้วยความตื่นเต้นว่า "หรือจะเป็นท่านย่าดลใจให้พระลายมาทำพิธีให้ร้านเรา ดังที่เราอธิษฐานขอให้ท่านย่าเฒ่ามาช่วยในพิธี"

ผมก็ตอบคำถามนี้ไม่ถูกเหมือนกัน ว่านี่เป็นความบังเอิญหรือเปล่า ถ้าใช่ "ก็โค-ตะ-ระ บังเอิญ เลยแหละ" เพราะทุกคนที่มาร่วมในงาน หรือแม้กระทั่งแม่แฟนซึ่งเป็นผู้นิมนต์ท่านมา ก็ไม่มีใครรู้จักพระลายเลยแม้แต่คนเดียว

แฟนผมเล่าให้ฟังอีกว่าระหว่างพิธีนั้นยังมีเรื่องแปลก ๆ อีก คือ ตอนที่พระท่านสวดพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง-มหากาฯ) นั้น แฟนผมได้ยินเสียงผู้หญิงสะอื้น ส่วนพี่สาวแฟนนั้นได้ยินเสียงผู้หญิงสวดคาถาตาม ซึ่งทั้งแฟนผมและพี่สาวแฟนต่างก็งง เพราะด้านข้างเขามีเพียงพ่อและแม่ของเขาเท่านั้นที่นั่งอยู่ ซึ่งทั้งคู่ก็นั่งพนมมืออยู่ด้วยอาการปกติ แถมทั้งสองก็สวดคาถาบทนี้ไม่เป็นอีกต่างหาก

เอาแล้วมั้ยล่ะ เรื่องประหลาดชักเยอะซะแล้ว ผมตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องกลับไปถาม อ.นูญ ให้ได้ ว่าเรื่องดังกล่าวนี้ คืออะไรกันแน่

วันที่ 4 มิถุนายน 2552 ผมรีบบึ่งเข้าสำนักทันที เพราะต้องการคลายข้อข้องใจที่ค้างคาอยู่ให้ได้

พอไปถึงผมก็ยิงคำถามใส่ อ.นูญ ทันที ว่า “อาจารย์รู้จัก พระที่ชื่อ “พระลาย” หรือเปล่าครับ”

อาจารย์ “รู้จักซิ ทำไมเหรอ”

ผม “แล้วเมื่อวานซืนอาจารย์ไปสำนักสงฆ์ที่จันทบุรีมาหรือเปล่าครับ”

อาจารย์ “ใช่ พอดีเราว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยตัดสินใจไปที่นั่นโดยบังเอิญ ว่าแต่มีอะไรเหรอ”

หลังจากนั้นผมก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดของพระลายที่ผมได้พบเมื่อวานนี้ให้อาจารย์ฟัง

อาจารย์ฟังแล้วก็อธิบายคลายข้อข้องใจให้ผมฟังว่า “ถ้าหากจะกล่าวถึง ลูกศิษย์ลูกหม้อดั้งเดิมขนานแท้ของเราแล้วก็คงเป็น พระลายนี่แหละ สมัยก่อนท่านชื่อพระนิยมแต่เนื่องจากตัวท่านมีรอยสักเต็มไปหมดคนอื่นก็เลยเรียกท่านว่าพระลาย ส่วนรอยสักทั้งหมดนั้นก็เป็นรอยสักที่เราเป็นคนสักให้เองตั้งแต่เขายังไม่บวชเลย”

อาจารย์ยังกล่าวต่ออีกว่า “พระลายท่านเป็นพระที่เก่งและมีความรู้มาก พูดได้หลายภาษา เพราะเคยไปทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน ท่านได้เรียนวิชาจากเราไปก็มากโขทีเดียว อีกทั้ง หากจะกล่าวว่ายุคนี้ถ้าจะหาใครจานอักขระเลขยันต์ได้สวยเหมือนพระลายล่ะก็ยาก เพราะท่านเขียนและจารได้สวยจริง ๆ เมื่อวันก่อนเรายังไปหาท่านให้ท่านช่วยจารปลักขิกให้เลย แต่ท่านออกจะเป็นพระแปลก ๆ ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร แถมนักเลงอีกต่างหาก ผีสางเข้ามาหลอกท่าน ๆ เตะกลิ้งหมด”

อาจารย์บอกว่า “ก็เป็นเรื่องแปลกที่บังเอิญพระลายไปร่วมในพิธีเปิดร้านของโจ้ แต่จากที่ฟังโจ้เล่ามาทั้งหมดก็เป็นไปได้ว่า
อาจจะเป็นความเมตตาจากท่านย่าเฒ่าดลใจให้พระลายไปทำพิธีให้ ส่วนเรื่องที่แฟนและพี่สาวแฟนโจ้ได้ยินเสียงผู้หญิงในระหว่างพิธีนั้น ก็เป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นเทพารักษ์ที่สิงสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนั้นมาร่วมพิธีด้วย ไม่ต้องตกใจกลัวไปเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีทั้งสิ้น”


เป็นยังไงครับ เรื่องที่ผมเล่ามานี้แปลกไหมล่ะครับ ยังไงผมก็ขอทิ้งให้เป็นปริศนาละกันครับ ว่า เรื่องนี้เป็น “ความบังเอิญ” หรือไม่

Re: ความบังเอิญที่ไม่น่าจะบังเอิญ

ศุกร์ 05 มิ.ย. 2009 8:18 pm

อ.โจ้
เห็นสมควรให้รวมเล่ม
ออกเป็นเรื่องสั้นดีมะ
เพราะมันส์ เร้าใจ
ชวนให้ติดตาม
ในทุกเรื่องราวจริงๆ

Re: ความบังเอิญที่ไม่น่าจะบังเอิญ

ศุกร์ 05 มิ.ย. 2009 11:40 pm

ชอบจังเรื่องนี้ คุณโจโจ้ครับในโลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอกครับ ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยของมันทุกประการอยู่แล้วและเรื่องราวทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ไปวัีฏจักรของกฏแห่งกรรมทั้งสิ้น คุณโจโจ้อธิฐานบอกท่านย่าเฒ่ายังงัยก้อเป็นไปตามนั้นท่านรู้ล่วงหน้าว่าคุณจะต้องเป็นอย่างนี้แบบนี้ท่านก้อเลยดลบันดาลจัดสรรให้เป็นไปตามเหตุปัจจัยของมันก้อเท่านนั้นเอง

บอกเล่าได้สนุกอย่างเคยเลยเชียว!
thanks.gif
thanks.gif (20.96 KiB) เปิดดู 2120 ครั้ง

Re: ความบังเอิญที่ไม่น่าจะบังเอิญ

เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 12:22 am

แวะมาอ่านครับ เป็นความบังเอิญที่ไม่น่าบังเอิญจริง ๆ ครับ

ขอให้กิจการร้านใหม่เจริญก้าวหน้า เฮง ๆ ๆ น๊ะครับผม

Re: ความบังเอิญที่ไม่น่าจะบังเอิญ

เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 12:49 am

ยินดีด้วยครับพี่โจ้ที่ประสบแต่เรื่องดีๆทีนี้ก็หายห่วงได้แล้วน่ะครับได้อ่านจากที่เขียนเล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องมงคลทั้งนั้นเลยครับ ผมเองอ่านแล้วยังเสียดายเลยที่ไม่ได้เจอและ อยากขอเมตตาจากท่านอาจารย์ลาย ช่วยเป่ากระหม่อมให้ด้วยจริงๆเพื่อเป็นสิริมงคลน่ะครับ ก็ขอให้กิจการก้าวๆหน้าไม่มีถอยหลังน่ะครับ

Re: ความบังเอิญที่ไม่น่าจะบังเอิญ

เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 1:14 am

ขอบคุณครับ แหม ยิ่งเล่ายิ่งมันส์ สงสัยต้องชวนมาเขียนหนังสือซะแล้ว

เลิกทำโรงเรียนซะเถอะ :lol: :lol: :lol:

Re: ความบังเอิญที่ไม่น่าจะบังเอิญ

เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 9:55 am

มีอีกไหมครับ :lcky:
ตอบกระทู้