นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 25 เม.ย. 2024 12:42 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 17 ก.พ. 2014 10:26 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 25 พ.ย. 2008 4:49 pm
โพสต์: 210
ประวัติและอภินิหารเครื่องรางของขลัง ของ ท่านพระครูประศาสน์สิกขกิจ. (หลวงปู่พริ้ง อินทโชติ) วัดบางปะกอก

โดย ประยุทธ ศรีสวัสดิ์ คัดลอกจาก http://www.saranugrompra.com/sara_13_001.html


ท่านพระครูประศาสน์สิกขกิจ อินทโชติ (พริ้ง) อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดบางปะกอก ตำบลบางปะกอก อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดนครหลวงกรุงเทพธนบุรี (ธนบุรีเดิม) เดิมชื่อ "พริ้ง เอี่ยมทศ" บิดาชื่อเอี่ยม มารดาชื่อสุ่น ได้อุปสมบทเป็นสามเณรตั้งแต่ยังเล็กที่วัดพลับ ธนบุรี เมื่ออายุครบจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดทองนพคุณ ธนบุรี โดยมิได้อยู่ในเพศฆราวาสเลย ต่อมาจึงได้ถูกนิมนต์มาประจำพรรษาอยู่ที่วัดบางปะกอกนี้ สองสามปีต่อมาจึงได้เป็นพระอธิการเจ้าอาวาส มีพระภิกษุประจำพรรษาอยู่เพียง ๒ -๓ องค์เท่านั้น เนื่องจากวัดบางปะกอกนี้เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแต่ในสมัยใดไม่ปรากฏแน่ชัด กุฏิ โบสถ์และเสนาสนะอื่น ๆ ชำรุดทรุดโทรมมาก สันนิษฐานจากการปฏิสังขรณ์พระอุโบสถมาครั้งหนึ่ง เมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๐ และจากการสอบถามท่านผู้มีอายุหลายต่อหลายท่านซึ่งอายุใกล้ร้อยปี และท่านเหล่านั้นบางท่านก็ได้ถึงแก่กรรมไปหมดแล้ว ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ร้อยกว่าปี ท่านบอกว่าท่านเกิดมาเป็นเด็ก ๆ ก็เห็นวัดบางปะกอกนี้อยู่แล้ว ท่านเคยถามบิดามารดาก็บอกอย่างนี้เช่นเดียวกัน ผิดแต่ว่า กุฏิ โบสถ์ ชำรุดทรุดโทรมมากไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ โบสถ์โบกปูนปิดทึกแบบมหาอุตเหมือนวัดเก่า ๆ ในต่างจังหวัด ซึ่งก็คงมีมาแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นหรืออาจก่อนกรุงศรีอยุธยาก็ได้ อายุไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ ปีขึ้นไป

เดิมทีเดียวบางปะกอกนี้มีชื่อว่าบางคี่ และในสมัยก่อนที่หลวงพ่อพริ้งจะมาเป็นเจ้าอาวาสนั้นมีนักเลงอยู่มาก แม้ในเวลาที่มีการทำบุญตักบาตรในวัด จะต้องมีการตีกันอยู่เป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านที่จะมาทำบุญก็ต้องพกมีดไม้มาด้วย นับแต่ท่านได้มาประจำพรรษาเป็นพระอธิการเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดนี้ นักเลงเหล่านั้นก็เกรงกลัว ต่างมอบตัวเป็นศิษย์ของท่านหรือไม่ก็หายหน้าหายตาไปหมด ต่อมาท่านก็ได้ร่วมกับชาวบ้านบูรณะปฏิสังขรณ์ กุฏิ โบสถ์ วิหาร และเสนาสนะอื่น ๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมจนเรียบร้อยสวยงามมาจนถึงบัดนี้เป็นเวลา ๖๐ ปีเศษ

หลวงพ่อพริ้งซึ่งชาวบางประกอบและชาวตำบลใกล้เคียงเรียกท่านว่า "หลวงปู่" ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาคาถาอาคมจนแก่กล้ามาตั้งแต่เป็นสามเณรอยู่ที่วัดพลับ แต่ท่านจะศึกษาเล่าเรียนมาจากพระอาจารย์องค์ใดนั้นไม่ปรากฏแน่ชัด มีท่านผู้มีอายุหลายท่านเล่าว่าท่านชอบธุดงค์จาริกในป่าต่าง ๆ หลายครั้งหลายหน แต่ก็มีบางท่านเล่าให้ฟังว่าท่านเคยเรียนร่วมอาจารย์เดียวกับหลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า เลยไม่ได้ความแน่ชัดว่าท่านศึกษามาจากสำนักใด พระอาจารย์องค์ใด เข้าใจว่าท่านคงจะศึกษาเล่าเรียนชั้นแรกกับพระอาจารย์ที่วัดพลับตอนที่ท่านอุปสมบทเป็นสามเณรนั่นเอง ท่านผู้ใหญ่หลายท่านซึ่งเคยอุปสมบทและเคยใกล้ชิดกับหลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า ท่านได้สนใจศึกษาเล่าเรียนวิชาล่องหนหายตัวและคงกระพันชาตรีตั้งแต่เป็นสามเณร และสามารถทำได้โดยไม่ยาก

_________________
ร้านข่วงสิงห์ : ร้านพระคุณภาพสำหรับทุกคน
http://www.web-pra.com/Shop/kuangsingha

หรือกดไลท์ ใน Facebook ได้ที่

https://www.facebook.com/kuangsingha/likes

เข้าชมร้านข่วงสิงห์ใน Facebook

ได้ที่ https://www.facebook.com/kuangsingha


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 17 ก.พ. 2014 10:29 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 25 พ.ย. 2008 4:49 pm
โพสต์: 210
ต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูประศาสน์สิกขกิจ เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๙ มีประชาชนเคารพนับถือทั่วไป ตลอดจนบรรดาเจ้านายเชื้อพระวงศ์ที่อยู่ในรั้วในวังต่างก็รู้จักท่านดี ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะข้าราชการทหารเรือในสมัยนั้น ทุกวันเสาร์อาทิตย์ทหารเรือทั้งนายพลจะพากันมาขอของดี ลงกระหม่อมกันแน่นกุฏิ บรรดาท่านผู้มีชื่อเสียงที่ไปมาหาสู่ท่านอย่างใกล้ชิดสนิทสนม เท่าที่พอจะรวบรวมได้ก็มี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือ ตลอดจนพระโอรส พระธิดาของท่าน เสด็จกรมหลวงชุมพรฯ มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่อมาก ถึงกับนำพระโอรสมาอุปสมบทเป็นสามเณรอยู่ที่วัดนี้ถึง ๓ องค์ด้วยกันคือ พลเรือเอก หม่อมเจ้าครรชิดพลอาภากร (ท่านน่วม) อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ หม่อมเจ้าสมรบรรเทิง (ท่านขรัว) และหม่อมเจ้าดำแคงฤทธิ์ (ท่านบ๊วย) โดยที่เสด็จในกรมฯ และหม่อมเจ้าหญิงเริงจิตแจรง พระธิดา ตลอดจนข้าราชบริพารได้มาถือศีลประจำอยู่ที่วัดนี้จนพระโอรสครบกำหนดลาสิกขา และอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งในอดีตก็เคยเป็นศิษย์ของท่าน พระชายาของกรมหลวงลพบุรีราเมศร์และพระโอรสก็เคยไปมาหาสู่ท่านเป็นประจำ โดยเฉพาะเสด็จกรมหลวงชุมพระเขตรอุดมศักดิ์ นั้นเคารพนับถือเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งเท่าเทียมหลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า และเข้าใจว่าคงจะได้ของดีจากหลวงพ่อไปมิใช่น้อย เพราะเท่าที่ทราบกันทั่ว ๆ ไป เสด็จในกรมฯนั้น เมื่อทราบว่าพระอาจารย์องค์ไหนมีชื่อเสียงแล้วมักจะทรงไปลองดีอยู่เสมอ ๆ และถ้าไม่แน่จริงแล้วท่านก็ไม่เคยให้ความเลื่อมใสศรัทธา

ผู้เขียนขอคัดลอกข้อความตอนหนึ่งในหนังสือพระประวัติของกรมหลวงชุมพรฯ ซึ่งเขียนโดยชัยมงคล อุดมทรัพย์ มีข้อความตอนหนึ่งว่า

"ผู้เขียนได้ถามนายเทียบ อุทัยเวช (นายเทียบฯ นี้เป็นน้องของหม่อมเมี้ยนซึ่งเป็นหม่อมของเสด็จในกรมฯ) ว่าเสด็จในกรมฯ นั้นทรงเคารพเลื่อมใสหลวงพ่อศุของค์เดียวหรือ หรือมีองค์อื่นอีก นายเทียบเล่าว่ามีอีกองค์หนึ่งอยู่วัดบางปะกอกธนบุรี ชื่อพระอาจารย์พริ้ง ท่านอาจารย์พริ้งองค์นี้มาหาเจ้าพ่อที่วังเสมอ แต่ท่านอาจารย์พริ้งจะให้ของหรือประสิทธิ์ประสาทวิชาคาถาอาคมอะไรให้กับท่านเจ้าพ่อยังไงผมไม่ทราบ แต่ท่านเจ้าพ่อเคารพนับถือเป็นพระอาจารย์

นายเทียบเล่าต่อไปว่า พระอาจารย์พริ้งองค์นี้มีคนนับถือมาก เล่าลือกันว่าเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญวิชาทางไสยศาสตร์ไม่แพ้หลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่าเหมือนกัน น้องชายของผมชื่อจำเรียง ทัศนเวช บวชเป็นพระครูเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดส้มเกลี้ยง ตำบลสามเสน พระนคร (ปัจจุบันนี้เป็นพระวิบูลย์ธรรมาภรณ์ อยู่วัดราชาธิวาส) ได้นิมนต์พระอาจารย์พริ้งไปปลุกเสกองค์เดียว เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ ปรากฏว่าผ้ายันต์ที่กองอยู่นั้นกระพือพรึบเหมือนลมกระทบคลื่นอยู่ไปมา ทั้ง ๆ ที่การกระทำพิธีก็กระทำอยู่ในพระอุโบสถของวัดชนะสงคราม หน้าต่างประตูก็ปิดหมด พัดลมก็ไม่มีสักอัน และมีผู้ร่วมเป็นสักขีพยานอยู่หลายท่าน กองผ้ายันต์เคลื่อนไหวเป็นอยู่พักหนึ่งจนเสร็จพิธี"


แนบไฟล์:
image.jpg


_________________
ร้านข่วงสิงห์ : ร้านพระคุณภาพสำหรับทุกคน
http://www.web-pra.com/Shop/kuangsingha

หรือกดไลท์ ใน Facebook ได้ที่

https://www.facebook.com/kuangsingha/likes

เข้าชมร้านข่วงสิงห์ใน Facebook

ได้ที่ https://www.facebook.com/kuangsingha
ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 17 ก.พ. 2014 10:31 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 25 พ.ย. 2008 4:49 pm
โพสต์: 210
หลวงพ่อพริ้งเป็นอาจารย์สักและหมอยา มีเครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงมากทางคงกะพันและเมตตามหานิยมในสมัยนั้น หากใครไม่รู้จักหลวงพ่อพริ้งก็อาจจะเรียกได้ว่ายังไม่ได้เป็นนักเลงพระอย่างแท้จริง ประชาชนทั่ว ๆ ไป ให้ความเคารพเลื่อมใสกันอย่างมาก นอกจากนั้นท่านยังดูฤกษ์ยามทายโชคชะตาได้แม่นยำ ท่านได้สร้างเครื่องรางของขลังขึ้นครั้งแรก เท่าที่ทราบกันดีคือ ลูกอมดำ ซึ่งมีชื่อเสียงในทางคงกระพันเมตตามหานิยมและอาราธนาทำน้ำมนต์ให้คนป่วยรับประทานเป็นที่รู้จักกันทั่ว ๆ ไปอย่างกว้างขวาง และสร้างลูกอมสีขาวปนเทา พระสมเด็จผงใบลานสีเทา สีปูน แหวนปลอกมีดขึ้นอีกซึ่งก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน และในโอกาสต่อมาท่านก็ได้สร้างเหรียญรูปท่านขึ้นอีกใน พ.ศ. ๒๔๘๓ โดยคุณหลวงพัสดุฯ เป็นผู้จัดทำถวายให้หลวงพ่อปลุกเสก

โดยเฉพาะลูกอมดำซึ่งเป็นเครื่องรางชนิดแรกที่ท่านสร้างขึ้น มีอภินิหารทางคงกะพันมาก ซึ่งมีผู้ประสบเหตุมาแล้วจำนวนมากบอกกับผู้เขียนว่าจะให้ราคากี่พัน กี่หมื่นก็ให้ไม่ได้ เพราะถ้าไม่ได้ลูกอมดำของท่านแล้ว คงไม่มีโอกาสให้สัมภาษณ์แก่คุณในขณะนี้แน่ ลูกอมดำนี้มีชื่อเสียงโด่งดังเลื่องลือไปไกล เหตุที่มีผู้นำติดตัวไปแล้วประสบภัยต่าง ๆ หลายต่อหลายสิบรายแต่ก็รอดชีวิตมาได้ เป็นเหตุให้มีผู้ต้องการมาก หาเช่าได้ยากจึงมีผู้รู้จักลูกอมดำมากกว่าเครื่องรางชนิดอื่น ๆ ที่หลวงพ่อสร้าง

ในตอนต้นสงครามอินโดจีน ท่านก็ได้สร้างเสื้อยันต์ผ้ายันต์และปลุกเสกเครื่องรางชนิดอื่น ๆ อีกหลายอย่างเพื่อมอบให้กับทหารที่ไปราชการสงครามและลูกศิษย์ในครั้งกระนั้น และในโอกาสที่ทางราชการทำพิธีจัดส่งทหารไปราชการสงคราม ท่านก็ได้รับนิมนต์จากทางราชการให้ไปประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลเป็นที่เลื่องลือในครั้งกระนั้น

ในอดีตหลวงพ่อพริ้งท่านได้เข้าร่วมพิธีนั่งปรกปลุกเสกตามวัดใหญ่ ๆ หลายครั้ง เช่น วัดราชบพิธ และวัดสุทัศน์เทพวราราม โดยเฉพาะที่วัดสุทัศน์ ฯ นี้ท่านได้เข้าพิธีทุกครั้งที่สมเด็จพระสังฆราชแพ จัดทำในครั้งหลัง ๆ ก็เช่นกัน ท่านเป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น บรรดาพระชั้นผู้ใหญ่ที่ประจำพรรษาอยู่ที่วัดสุทัศน์ ฯ รู้จักหลวงพ่อดีแทบทุกองค์ ผู้เขียนได้ไปขอสัมภาษณ์จากท่านเจ้าคุณหลายองค์ที่วัดสุทัศน์ ต่างก็เล่าเป็นเสียงเดียวกันว่าหลวงพ่อพริ้งขณะนั้นโด่งดังมากกว่าพระอาจารย์ อื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นจริง ๆ รูปร่างลักษณะของท่านเป็นคนที่ท่วงทีสง่างามสมกับเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีคนเคารพนับถือ นี่เป็นคำกล่าวของท่านเจ้าคุณพระญาณโพธิ กับท่านเจ้าคุณพระศรีสัจจญาณมุนี และท่านเจ้าคุณพระวิบูลย์ธรรมาภรณ์

ในบรรดาพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนี้ หลายต่อหลายองค์ก็เคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ ผู้เขียนของดที่จะกล่าวนามพระอาจารย์เหล่านั้น เพราะยังมิได้ติดต่อขออนุญาตจากท่าน เนื่องจากผู้เขียนไม่มีเวลาและโอกาสที่จะไปติดต่อ จึงขอกล่าวเพียง ๒-๓ องค์

คือ หลวงพ่อพระร่วง พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงองค์หนึ่งแห่งวัดยางสุทธาราม บางกอกน้อย ธนบุรี ในอดีต พระอาจารย์เฉลิม เกตุแก้ว ที่วัดยางสทธารามปัจจุบันนี้เล่าให้ฟังว่า อาจารย์ของท่านคือหลวงพ่อพระร่วง ได้เล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อพริ้งเคยเป็นอาจารย์ของท่าน เครื่องรางของขลังของหลวงพ่อพริ้งท่านก็มีแทบทุกชนิด และเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดคนหนึ่งทีเดียว แต่เนื่องจากปัจจุบันนี้หลวงพ่อพระร่วงได้มรณภาพไปแล้ว ผู้เขียนจึงไม่ทราบรายละเอียดที่เกี่ยวกับหลวงพ่อพริ้งมากกว่านี้

พระอาจารย์อีกองค์หนึ่งแห่งถ้ำคูหาทองในจังหวัดลพบุรี คุณพิทักษ์ ฯ เล่าให้ฟังว่าเมื่อ ๒-๓ ปีที่แล้วมีพรรคพวกซึ่งเป็นคนจีนได้ชวนไปเที่ยวที่จังหวัดลพบุรี และเดินทางไปยังสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งซึ่ออยู่ในถ้ำบนภูเขาห่างจากตัวเมืองโคกกระเทียมไปหลายสิบกิโลเมตร ณ สำนักสงฆ์แห่งนั้นได้มีพระอาจารย์องค์หนึ่งซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงมากองค์หนึ่งในจังหวัดลพบุรี และใกล้เคียง ได้นำเครื่องรางของขลังชนิดต่าง ๆ ที่ท่านสร้างขึ้นให้คนได้เช่าบูชา เพื่อนำรายได้สร้างพระอุโบสถที่กำลังก่อสร้างอยู่


แนบไฟล์:
image.jpg


_________________
ร้านข่วงสิงห์ : ร้านพระคุณภาพสำหรับทุกคน
http://www.web-pra.com/Shop/kuangsingha

หรือกดไลท์ ใน Facebook ได้ที่

https://www.facebook.com/kuangsingha/likes

เข้าชมร้านข่วงสิงห์ใน Facebook

ได้ที่ https://www.facebook.com/kuangsingha
ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 17 ก.พ. 2014 10:34 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 25 พ.ย. 2008 4:49 pm
โพสต์: 210
คนจีนที่ไปด้วยเช่ากันเป็นจำนวนมาก ราคาค่าเช่าบูชาก็ราคาสูง แต่คุณพิทักษ์เองมิได้เช่าเพราะเห็นว่ามีอยู่มากแล้ว แต่ท่านอาจารย์องค์นั้นได้ถามคุณพิทักษ์ว่าทำไมไม่เอาไว้บ้าง ซึ่งคุณพิทักษ์ก็ตอบว่ามีอยู่แล้วทำให้พระอาจารย์องค์นั้นขอดู คุณพิทักษ์ก็จำเป็นต้องถอดสร้อยคอซึ่งมีลูกอมดำของหลวงพ่อรวมอยู่ด้วยออกมาให้ดู

ทันทีที่ท่านอาจารย์องค์นั้นเห็นลูกอมดำ ก็ยกสร้อยพระขึ้นพนมมือเหนือศีรษะ และกราบลงบนอาสนะเบื้องหน้าท่าน พร้อมกับพูดว่า โยมไม่ต้องเอาของอาตมาแล้วเพราะมีของดีอยู่แล้วนี่ไง พร้อมกับชี้ที่ลูกอมดำ

คุณพิทักษ์ก็เลยเรียนถามว่าท่านทราบหรือว่าเป็นของพระอาจารย์องค์ใด ท่านอาจารย์องค์นั้นตอบว่า

นี่คือลูกอมดำของหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ธนบุรีและเป็นอาจารย์ของอาตมาด้วย พร้อมกับบอกว่าได้ของดีของอาจารย์ของอาตมามาแล้ว ไม่ต้องเอาของอาตมาหรอก

คุณพิทักษ์กล่าวว่าจำชื่ออาจารย์องค์นั้นไม่ได้เพราะเป็นเวลา ๒-๓ ปีแล้วแต่รู้สึกว่าดังมากจากคำบอกเล่าของพรรคพวกที่ไปด้วย

พระอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่เคยมาศึกษากับหลวงพ่ออีกก็คือ "หลวงพ่อปาน ผู้มีชื่อเสียงแห่งวัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา"

พระภิกษุเชื้อ วิสุทธสีโล วัดบางปะกอก ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่าเมื่อตอนเป็นเด็กอายุ ๑๒-๑๓ ปี ได้ติดตามพระจำรัส ประสารเกตุ พี่ชายของนายแจ่ม ประสารเกตุ (คนเก่าแก่ตำบลบางปะกอก) ไปหาหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคเพื่อขอของดีของท่านซึ่งกำลังเริ่มจะมีชื่อเสียง เมื่อเข้าไปถึงวัดก็เข้าไปกราบมนัสการท่าน

หลวงพ่อปาน จึงได้ถามว่ามาทำไม พระจำรัส ฯ จึงตอบว่ามาขอของดีจากหลวงพ่อท่านจึงได้ถามว่าอยู่กันที่ไหนล่ะ

พระจำรัสฯ จึงตอบว่าอยู่วัดบางปะกอก ธนบุรี หลวงพ่อปาน จึงบอกว่าไม่มีหรอกของดีที่นี่น่ะ พระภิกษุเชื้อฯ ตอนนั้นยังเป็นเด็กอยู่และยังไม่ได้บวชเรียน จึงพูดว่าที่หน้าหลวงพ่อมีตั้ง ๕ บาตรแน่ะ

ท่านจึงหัวเราะและกล่าวว่าอยู่วัดบางปะกอกก็มีของอาจารย์ฉันอยู่แล้วนี่นา จะมาเอาของฉันทำไมอีก "หลวงพ่อพริ้งไงล่ะ" และท่านก็ได้มอบให้มาคนละ ๕ องค์ พร้อมกับฝากมาให้หลวงพ่อพริ้งอีกจำนวนหนึ่ง

เมื่อกลับมาถึงวัดก็มีมีความสงสัย เพราะหลวงพ่อปานท่านบอกว่าเคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อพริ้ง แต่ทำไมเราไม่เคยเห็นหน้าสักที เราก็อยู่เป็นเด็กวัดมานาน จึงได้ถามหลวงพ่อพริ้งว่า "หลวงลุง หลวงพ่อปานเขาบอกว่าเคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงลุง ผมไม่เคยเห็นหน้าสักที"

หลวงพ่อจึงกล่าวว่า เขาไม่ได้เป็นลูกศิษย์แบบเองนี่ เขามาเรียนกับข้าเพียงคืนเดียว เท่านั้น สอบถามต่อจึงได้ความว่าหลวงพ่อปานขณะนั้นมีอายุมากกว่า หลวงพ่อ ได้มาขอเรียนวิปัสสนาธุระ โดยบอกว่าทราบว่าอาจารย์สำเร็จวิปัสสนา ผมขอสมัครตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนด้วย เพราะเรียนมาหมดธูปเป็นกระบุงๆ แล้วไม่สำเร็จสักที

หลวงพ่อจึงดำเนินการสอนให้ ซึ่งหลวงพ่อปานศึกษาเพียงคืนเดียวเท่านั้นก็สำเร็จ โดยบอกกับหลวงพ่อปานว่า "เอาละท่านเรียนสำเร็จแล้ว"

เรื่องนี้ผู้เขียนขอยืนยันอีกคนหนึ่งว่าในสมัยที่ผู้เขียนอายุ ๑๗-๑๘ ปี คุณลุงแจ่ม ประสารเกตุ ขณะนั้นยังมีชีวิตอยู่ได้เคยเล่าให้ฟังเหมือนกัน แต่ขณะที่เขียนเรื่องนี้คุณลุงแจ่ม ได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว เลยหมดโอกาสที่จะสอบถามให้ได้เรื่องราวมากกว่านี้

ปัจจุบันนี้ ท่านผู้มีความต้องการที่จะได้เครื่องรางของขลังที่ท่านสร้างขึ้นยังพอมีให้เช่าไปบูชาอยู่บ้างเพียงเล็กน้อย เช่นลูกอมสีเทาและพระสมเด็จผงใบลานอันขึ้นชื่อของหลวงพ่อ

อนึ่ง เมื่อวันที ๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ทางวัดได้ร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์ สมาคมผู้ปกครองและครูวัดบางปะกอกสมาคมนักเรียนเก่าบางปะกอก และสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนประชาบาล จัดพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ ปลุกเสกเครื่องรางของขลังหลายชนิด อาทิเช่นรูปหล่อเหมือน เหรียญทองนาคเงิน เหรียญทองแดงรมดำ พระพิมพ์ผงชนิดต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาได้มีไว้ติดตัวสักการะบูชา โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาน สมเด็จพระสังฆราชเป็นองค์ประทานเททอง สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพน เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย ร่วมด้วยพระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายองค์นั่งปรกปลุกเสกตลอดราตรี

อาทิเช่น หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี หลวงพ่อมุ่ยวัดดอนไร่ สุพรรณบุรี หลวงพ่อเย่อ วัดอาสาสงคราม พระประแดง หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี พระครูอนุรักษ์วรคุณ วัดหนองม่วง ราชบุรี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อมิ่ง วัดกก หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร นครหลวงกรุงเทพธนบุรี ฯลฯ เป็นต้น ณ พระอุโบสถวัดบางปะกอก

ของบางชนิดที่จัดสร้างหมดไปในเพียงวันเดียวที่เปิดให้เช่าบูชา ของที่จัดสร้างได้ผสมผงเดิมของท่านไปด้วย พร้อมทั้งผงจากพระอาจารย์ต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากหลายจังหวัด เช่นจังหวัด สุพรรณบุรี สิงห์บุรี เพชรบุรี ราชบุรี สระบุรี นนทบุรี ธนบุรี พร้อมด้วยดินและอิฐ จากสถูปอนุสาวรีย์อนุสรณ์ดอนเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีผงสุพรรณของแท้อันขึ้นชื่อผสมอีกส่วนหนึ่ง จึงกล่าวได้ว่าถึงแม้หลวงพ่อจะมิได้สร้างด้วยตนเอง แต่ก็จะไม่ทำให้ผู้ที่มีติดตัวไว้ผิดหวังในคุณวิเศษในของที่จัดสร้างขึ้นใหม่เลย นอกจากนั้นคณะกรรมการยังได้ทำพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของหลวงพ่ออัญเชิญเป็นประทานนั่งปรกปลุกเสกของในพิธีดังกล่าวด้วย

สำหรับรายได้จะจัดตั้งเป็นมูลนิธิ "หลวงปู่พริ้ง" นำดอกผลช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของโรงเรียนวัดบางปะกอก (ประถม) และโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม (มัธยม) อีกส่วนหนึ่งจะนำไปขยายบริเวณที่ประดิษฐานพระรูปหล่อจำลองของหลวงพ่อให้กว้างขวางสวยงามเหมาะสมต่อไป


แนบไฟล์:
image.jpg


_________________
ร้านข่วงสิงห์ : ร้านพระคุณภาพสำหรับทุกคน
http://www.web-pra.com/Shop/kuangsingha

หรือกดไลท์ ใน Facebook ได้ที่

https://www.facebook.com/kuangsingha/likes

เข้าชมร้านข่วงสิงห์ใน Facebook

ได้ที่ https://www.facebook.com/kuangsingha
ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO