Switch to full style
มาร่วมสนทนากันในหมู่สมาชิก แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ท่านประสบมาได้ที่นี่ครับ
ตอบกระทู้

หลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์

อังคาร 27 เม.ย. 2010 9:30 pm

พี่น้องคร้บ ใครรู้จักประวัติและเครื่องรางของท่านช่วยกันมาลงเพิ่มเติมหน่อยนะครับ เพราะท่านเป็นเกจิที่เก่งมากๆ แต่ไม่มีใครรู้จักเลยครับผม

Re: หลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์

อังคาร 27 เม.ย. 2010 11:43 pm

พ่อพลายแก้ว เขียน:พี่น้องคร้บ ใครรู้จักประวัติและเครื่องรางของท่านช่วยกันมาลงเพิ่มเติมหน่อยนะครับ เพราะท่านเป็นเกจิที่เก่งมากๆ แต่ไม่มีใครรู้จักเลยครับผม


ประวัติพอรู้จัก แต่เครื่องรางของท่านไม่มีเลยครับ
:smk: :smk:

Re: หลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์

อังคาร 27 เม.ย. 2010 11:54 pm

อันนี้เรียกว่าตอบอย่างมีนัยยะสำคัญแฝงเร้น สงสัยคุณศิษย์กวงคงเรียนทางนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์แหงม ๆ :mrgreen:

Re: หลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์

พุธ 28 เม.ย. 2010 11:57 am

ขอประวัติ หน่อยดิจ้ะ เครื่องรางเดี๋ยวเอามาลงให้ดูน่ะ พอมีอยู่บ้างเมื่อก่อนได้ไว้บ้างเล็กน้อยครับ

Re: หลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์

พุธ 28 เม.ย. 2010 2:20 pm

ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อไท วัดไทรย้อย ชะอำ หลวงพ่อไทองค์นี้เก่งมาก คุณพ่อสุข วัดโตนดหลวงชมอยู่บ่อยๆ วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นแบบใดเหนียวระดับโค-ตะ-ระ

Re: หลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์

พุธ 28 เม.ย. 2010 6:48 pm

ถ้าจะว่ากันตามจริงแล้ว วัน เวลา ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์เราสมมุติขึ้น แต่ถึงมันจะเป็นสิ่งสมมุติ มนุษย์ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า วัน เวลา ล้วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับชีวิตของเราจริงๆ
ไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกครับที่จะเลิกข้องเกี่ยวกับ วัน เวลา ยกเว้นก็แต่พระอรหันต์เท่านั้นแหละครับ ที่ วัน เวลา ไม่สามารถทำอะไรท่านได้

สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นประถม กว่าจะหาหนังสือพระอ่านสักเล่มค่อนข้างลำบาก เพราะต้องนั่งรถประจำทางออกไปหาซื้อถึงตัวอำเภอ

และที่สำคัญคือทางบ้านก็ไม่ได้ให้เงินมาใช้สำหรับสิ่งที่นอกเหนือความจำเป็น การรับรู้เรื่องราวจึงต้องใช้วิธีขอยืมหนังสือพระของผู้ใหญ่แถวบ้านมานั่งอ่าน

หนังสือพระในสมัยนั้นก็มีหลายหัวครับ เช่น ลานโพธิ์ พระเครื่องประยุกต์ ฯลฯ ซึ่งเนื้อหาในเล่มก็ดีแต่เน้นไปในทางพระเก่า สำหรับหนังสือมหาโพธิ์ ถึงขนาดจะเล็กแต่ก็หนาพอที่จะเรียกความสนใจได้ โดยเฉพาะลีลาการเขียนที่บรรยายได้อารมณ์ประมาณก๋วยเจ๋งกระแทกฝ่ามือมังกรประมาณนั้น

ในหนังสือมหาโพธิ์สมัยนั้นแหละครับที่มีเรื่องราวและประวัติของหลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์ ซึ่งท่านจะเกิดวันไหนหรือเป็นมาอย่างไรจำไม่ได้เลยครับ จำได้เพียงแต่ว่าหลวงปู่เป็นพระที่เก่ง อาคมขลัง เครื่องรางที่ท่านสร้างและมีประสบการณ์มากที่สุดคือ “ปลัดขิก” ในหนังสือบรรยายว่าปลัดขิกของท่านมีคุณภาพไม่แพ้พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าเลย อ่านแล้วก็ต้องเชื่อครับ เพราะในหนังสือมีภาพประกอบชัดเจน เช่น นาย ก. โดนยิงไม่เข้า นาย ข.เผลอเหยียบงูแต่งูอ้าปากไม่ขึ้น ฯลฯ

ต้องบอกว่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ ประกอบกับอารมณ์เด็ก คราวนี้เลยกลายเป็นว่าหลวงปู่ฟักท่านเก่งไปหมด หลังจากที่เพื่อนบ้านทนการขอยืมอ่านหนังสือไม่ไหวและย้ายไปอยู่ที่อื่น
เขาคงไม่รู้หรอกครับว่าการย้ายไปของเขาได้พรากเรื่องราวของหลวงปู่ฟักไปจากผมด้วย เพราะผมครบถ้วนไปด้วยความด้อยปัญญาและไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปซื้อหนังสือ

คนจีนสมัยโบราณมีความเชื่อกันว่า อ่านหนังสือหมื่นเล่ม เดินทางหมื่นลี้ คบคนหมื่นคน ฯลฯ หากใครสามารถทำได้จะทำให้กลายเป็นคนฉลาด
แต่การอ่านหนังสือหมื่นเล่ม มันก็ไม่เหมือนไปสัมผัสกับของจริง สถานที่จริง ขอถามพ่อพลายแก้วว่าเชื่อไหมครับว่า “พรหมลิขิต” ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับทุกๆ เรื่อง ลองอ่านเรื่องนี้ดูครับ

เอ็ดเวิร์ด นับถือหลวงปู่ฟักมาก ได้ถวายตัวเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งเรื่องราวของพระกับลูกศิษย์คู่นี้ก็ได้ดำเนินไปตามกาลเวลา จนอยู่มาวันหนึ่ง เอ็ดเวิร์ดมีอาการหายใจไม่ออกและได้หมดสติไป เอ็ดเวิร์ดเล่าว่าเขารู้สึกเหมือนกับว่ามีคนมาตะโกนเรียกเขาที่หน้าบ้าน เอ็ดเวิร์ดตัดสินใจเดินลงไปเปิดประตูบ้าน เขาพบว่ามีบรรดาญาติพี่น้องของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว มายืนรอรับและเรียกให้เอ็ดเวิร์ดไปอยู่ด้วยกัน

เอ็ดเวิร์ดตกลงใจเดินไปหาญาติกลุ่มนั้น ฉับพลันก็ปรากฏภาพของหลวงปู่ฟัก ยืนขึ้นขวางหน้าเอาไว้และไล่ให้เอ็ดเวิร์ดกลับเข้าไปในบ้าน
หลังจากที่เอ็ดเวิร์ดฟื้นคืนและมีสติอีกครั้ง เมื่อเขาก้าวลงจากเตียงก็พบว่า เท้าของเขาทั้งสองข้างเปื้อนไปด้วยดินโคลน จากภาพเหตุการณ์ครั้งนั้น เอ็ดเวิร์ดตัดสินใจขับรถจากบ้านที่กรุงเทพ ไปกราบหลวงปู่ฟักที่วัดนิคมประชาสรรค์ หลังจากที่เอ็ดเวิร์ดก้มลงกราบและเงยหน้าขึ้นมองท่าน หลวงปู่ฟักได้ยิ้มและพูดว่า

วันนั้นถ้ากูไปช่วยมึงไม่ทัน มึงแย่แน่ๆ

ถึงตอนนี้คงต้องบอกว่า โดยส่วนตัวแล้วยอมรับว่าหลวงปู่ฟัก วัดนิคมประชาสรรค์ ท่านเก่งจริงๆ แล้วพ่อพลายแก้วล่ะครับ คิดเหมือนผมหรือเปล่า....ถามใจตัวเองดู
ถึงวัน เวลา จะผ่านไปนานแสนนาน สำหรับผมแล้ว ยังรอคอยวัตถุมงคลของท่านอยู่เสมอ ด้วยความหวังว่า “พรหมลิขิต” จะให้โอกาสกับผมบ้าง

:shhy: :shhy:

Re: หลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์

พุธ 28 เม.ย. 2010 7:15 pm

ขอบคุณพี่ศิษย์กวงครับ :grt:
ส่วนตัวแล้วเชื่อ พรหมลิขิต + คนลิขิต ครับ

:shhy:

Re: หลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์

พฤหัสฯ. 29 เม.ย. 2010 12:01 am

มันเหมือนกับประสบการณ์ที่ผมเจอมาเลยครับ เรื่องนี้ผมเคยเล่าให้พี่ต่อ ฟังแล้วครับ มีอยู่ว่า เมื่อประมาณปี 2525ที่ผ่านมา ผมได้รู้จักกับหลวงปู่ฟักครับ เนื่องจากอาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมของผม เป็นลูกศิษย์ ของท่านครับ จัดผ้าป่าสามัคคี สร้างโบสถ์ โดยที่บริจาคปูน เท่าไรผมจำไม่ได้แล้ว จะได้รับปลัดขิก 1 ตัว ราคาประมาณ 3500 บาท สมัยนั้น แพงมากครับ แต่อาศัยคุณพ่อผมช่วย ก้อเลยรู้จักท่านและก้อได้ไปมาหาสู่กับท่านหลายครั้ง ท่านก้อมอบของมาให้หลายอย่างครับ แต่ที่ติดตัวผมคือปลัดอันใหญ่มากคาดติดตัวตลอด หลังจากนั้นผ่านไป ผมก้อได้ไปต่างจังหวัดกับพ่อของผม และได้ติดเชื้อไข้ป่ามาทำให้เป็นไข้นอนอยู่ที่บ้านชั้นบน ไปไหนไม่ไหวเลยครับ มีอยู่คืนหนึ่ง ดึกแล้วล่ะ ผมได้ยินเสียงมโหรีเล่นอยู่ที่บริเวณนอกบ้าน หน้าบ้านของผมน่ะครับ ก้อเลยเปิดหน้าต่างออกไปดู เห็นคนกวักมือเรียก ก้อเลยลงไป (ในฝันนะครับ)ปรากฏว่า ไอ้คนที่เห็นเมื่อสักครู่ มันกลายเป็นผีทั้งหมดและมีเสลียง มาคอยรับผม ทันใดนั้น หลวงปู่ก้อมาปรากฏหน้าประตู และโบกมือไล่ผมให้กลับไปนอน และพูดว่า ไปนอนเสียลูก หลังจากนั้น ผมก้อตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว และอาการไข้ก้อหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ผมนึกว่าเราฝันไปหรือเปล่า พอเอามือลูบที่เท้า ปรากฏว่าเท้าผมเปื้อนดินครับ วันรุ่งขึ้น ผมก้อไปบอกพ่อว่า อยากไปหาหลวงปู่ พ่อเห็นว่าหายดีแล้ว ก้อเลยพาไป พอเจอหน้าหลวงปู่ ท่านก้อพูดว่า เกือบไม่ทันแล้วลูก เขาจะเอาไปเป็นหัวหน้าเขา เรื่องของผมมีอยู่เท่านี้และครับ :pry:

Re: หลวงปู่ฟัก อินทวังโส วัดนิคมประชาสรรค์

พฤหัสฯ. 29 เม.ย. 2010 12:40 am

:grt:

ขอบพระคุณมากครับ สุดยอดเลยครับเรื่องราวประสบการณ์พ่อพลายแก้ว อ่านแล้วสนุกได้อารมณ์ พร้อมกับเพิ่มความศรัทธาในองค์หลวงปู่ฟักมากยิ่งขึ้นไปอีก


มันมากเสียจน...


อยากได้โน่นได้นี่ไปหมดเลย.. ว้าแย่จัง :mrgreen:
ตอบกระทู้