Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 3:43 am

(จักรพันธุ์) re1.jpg
(จักรพันธุ์) re1.jpg (21.21 KiB) เปิดดู 5719 ครั้ง

มีคำร่ำลือมานานแล้วว่า เทวรูปพระนารายณ์เทพเจ้าแห่งการปราบยุคเข็ญ ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ กระทรวงอุตสาหกรรมนั้นเฮี้ยนนัก รัฐมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ถูกเล่นงานถึงกับพากันวิ่งวุ่น จากการขอนัดพบกับ พ.อ. สมาน วีระไวทยะ หัวหน้ากองนโยบายและแผน กรมส่งกำลังบำรุงทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ผู้เชี่ยวชาญการนั่งทางในและเป็นเจ้าตำรับ “วิทยาศาสตร์ทางจิต” เมื่อต้นเดือนธันวาคม(พ.ศ. 2506)นี้ท่านได้กรุณาเล่าถึงอภินิหารอันน่ามหัศจรรย์ของพระรูปองค์พระนารายณ์ที่ประดิษฐานอยู่บนแท่นหน้ากระทรวงอุตสาหกรรม
อดิเรกสาร.jpg
พลตรี ประมาณ อดิเรกสาร
อดิเรกสาร.jpg (6.88 KiB) เปิดดู 5723 ครั้ง

ประวัติของพระรูปองค์พระนารายณ์ก่อนที่จะถูกนำมาประดิษฐาน ณ กระทรวงอุตสาหกรรมนั้น เกิดจากเมื่อหลายปีที่ผ่านมานั้นมีงานฉลองรัฐธรรมนูญซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณสวนลุมพินี ทางกระทรวงอุตสาหรรมได้ไปเปิดร้านแสดงกิจกรรมของกระทรวงในงานนั้นด้วย และในการตบแต่งร้านค้าคราวนั้น พล.ต. ประมาณ อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงได้พิจารณาเห็นว่าบรรดาร้านค้าของกระทรวงทบวงกรมต่าง ๆ ก็ได้มีภาพอันเป็นสัญลักษณ์ของกระทรวงทบวงกรมนั้น ๆ ประดิษฐานเอาไว้เป็นที่สะดุดตาโดยทั่วกัน

.jpg
ตราราชการประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
.jpg (10.36 KiB) เปิดดู 5723 ครั้ง

1.jpg
ตราราชการประจำกระทรวงมหาดไทย
1.jpg (4.88 KiB) เปิดดู 5722 ครั้ง


อาทิ ร้านของกระทรวงเกษตรก็มีภาพของพระพิรุณทรงนาค ร้านของกระทรวงมหาดไทยก็มีภาพราชสีห์ ฯลฯ แต่ร้านของกระทรวงอุตสาหรรมยังไม่มีสัญลักษณ์ใด ๆ เลย รัฐมนตรีอุตสาหกรรมสมัยนั้นจึงดำริจะปั้นเทวรูปของเทพเจ้าสักองค์หนึ่งไปประดิษฐานที่ร้าน ในที่สุดได้ตกลงเลือกเอาภาพของ "พระวิษณุกรรม" ซึ่งเป็นเทพเจ้าทางการช่าง และได้ไปติดต่อให้กรมศิลปากรจัดการหล่อรูปพระวิษณุกรรมด้วยปูนพลาสเตอร์ขนาดเท่าคนจริงเพื่อนำไปประดิษฐานที่ร้านของกระทรวงอุตสาหรรมในบริเวณงานรัฐธรรมนูญ

แต่เนื่องจากความเข้าใจผิดของช่างปั้น แทนที่จะปั้นรูปของพระวิษณุกรรมช่างกลับปั้นเอารูป "พระนารายณ์สี่กร" ไปให้ เพราะพระนารายณ์นั้นมีชื่อเรียกในศาสนาพราหมณ์ว่า “พระวิษณุ” เช่นเดียวกัน เมื่อการณ์กลับกลายเป็นเช่นนั้นและจะแก้ไขก็ไม่ทันเสียแล้ว พล.ต. ประมาณ อดิเรกสาร จึงตกลงให้นำเอารูปพระนารายณ์ไปประดิษฐานแทนเป็นการเลยตามเลย
.gif
ตราราชการประจำกระทรวงอุตสาหกรรม
.gif (11.72 KiB) เปิดดู 5721 ครั้ง

หลังจากงานรัฐธรรมนูญผ่านพ้นไปแล้ว ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้รื้อเอาไม้ที่สร้างร้านและพระรูปปูนปั้นพลาสเตอร์ "พระนารายณ์" ไปกองรวมกันไว้ที่บริเวณกระทรวงโดยปราศจากการเอาใจใส่ ตกตอนเย็นมีเด็กเล็กขึ้นไปเล่นกันเกรียวกราวบนกองไม้นั้นแล้วนำหนังสติ๊กไปยิงพระรูปปั้นของพระนารายณ์ต่างเป้ายิงด้วยความคึกคะนองและซุกซนตามประสาเด็ก ๆ ทั่วไป และนอกจากนั้นในเวลาค่ำคืนบรรดาคนงานที่พักอยู่ในบริเวณกระทรวงเมื่อกลับจากหนีเที่ยวและมึนเมากลับมา ยังอาศัยกองไม้นั้นเป็นที่ปัสสาวะเป็นประจำอีกด้วย

จากการกระทำอันเสมือนเหยียบย่ำดูหมิ่นต่อพระรูปปั้นองค์พระนารายณ์ดังกล่าว ได้เป็นเหตุให้เทพเจ้าแห่งการปราบยุคเข็ญได้ทรงมาประทับเข้าฝันเด็กชายลูกภารโรงของกระทรวงอุตสาหกรรมคนหนึ่ง แจ้งให้ทราบว่าการกระทำของเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ทั้งหลายที่บริเวณกองไม้นั้นเป็นการดูถูกต่อพระองค์ จึงทรงตักเตือนให้เลิกกระทำอย่างนั้นเสีย มิเช่นนั้นพระองค์จะมาหักคอให้ตายเสียทั้งหมด

วันรุ่งขึ้นเด็กชายนั้นก็ได้นำความฝันไปเล่าให้บิดาของตนฟัง ซึ่งภารโรงผู้นั้นเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากลูกชายแล้วก็มิได้เชื่อถือกลับหัวเราะเยาะว่าเป็นเรื่องเหลวไหล ตกค่ำวันนั้นภารโรงผู้นี้กลับจากดื่มสุราเมามายมาอีกเช่นเคย พอไปถึงกองไม้ได้แวะปัสสาวะตามปรกติ เสร็จแล้วยังกล่าวท้าทายรูปปั้นพระนารายณ์ว่า ถ้าเก่งจริงขอให้แสดงอภินิหารใด ๆ ให้เห็นกับตาทีเถอะ แล้วจึงจะยอมเคารพนับถือ เมื่อกล่าวท้าทายอยู่เป็นนานและไม่ปรากฏมีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ตาภารโรงขี้เมาคนนั้นก็กลับไปนอน

ในคืนนั้นเอง องค์พระนารายณ์ก็ไปเข้าฝันภารโรงคนนั้น แสดงอาการพิโรธโกรธเกรี้ยวที่พระองค์ทรงห้ามปรามแล้วไม่เชื่อ กลับเพิ่มความดูหมิ่นดูแคลนต่อพระองค์ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้ถ้าตาภารโรงไม่รีบจัดดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมาลาโทษเสียในตอนค่ำวันรุ่งขึ้นแล้ว พระองค์จะหักคอให้ตายหมดทั้งบ้าน

เมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนกลางดึกและอาการเมามายก็ได้สร่างไปสิ้นแล้ว ทำให้ภารโรงของกระทรวงอุตสาหกรรมผู้นั้นรู้สึกกลัวเกรงต่อองค์พระนารายณ์ขึ้นมาจนไม่อาจหลับต่อไปได้ ครั้นสว่างดีแล้วตัวแกก็รีบจวนขวายออกจากบ้านไปจัดซื้อดอกไม้ธูปเทียนกลับมาบูชาขอขมาลาโทษแต่เช้าวันนั้นโดยไม่คอยให้ถึงตอนค่ำดังรับสั่งขององค์พระนารายณ์ และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาภารโรงและครอบครัวของเขาก็มีความเคารพยำเกรงต่อองค์พระนารายณ์อย่างจริงใจ ทุกครั้งที่เดินผ่านกองไม้และพระรูปปั้นองค์พระนารายณ์ เขาจะต้องหยุดแสดงคารวะต่อองค์ท่านไม่เคยขาด

และเพราะความแร้นแค้นในการครองชีพ ภารโรงจึงคิดนึกอยากขอความช่วยเหลือจากพระนารายณ์ดูสักครั้ง ดังนั้นในตอนค่ำวันหนึ่งภารโรงผู้นั้นจึงหาดอกไม้ธูปเทียนไปบูชาพระรูปปั้น พร้อมทั้งบอกกล่าวถึงครวามทุกข์ยากลำเค็ญต่าง ๆ ในที่สุดก็ร้องขออำนาจบารมีของพระองค์ช่วยให้เขาถูกล็อตเตอรี่รัฐบาลสักครั้งเถิด

ปรากฏว่าในคืนนั้นองค์พระนารายณ์ได้ไปเข้าฝันเขาอีกครั้งหนึ่ง พระองค์กล่าวชมความเป็นคนดีของเขาเป็นอันมากและมีดำรัสว่าเพื่อตอบแทนความดีของเขา พระองค์จะช่วยให้เขาได้ลาภสักก้อนหนึ่ง ถึงจะไม่มากมายนักแต่ก็พอช่วยบรรเทาเบาบางภาระในการครองชีพได้ พร้อมกันนั้นก็ทรงแนะนำให้เขาไปซื้อล็อตเตอรี่สักใบหนึ่ง จะเป็นเลขอะไรก็ได้ แต่ขณะซื้อให้ระลึกถึงพระองค์ก็แล้วกัน ปรากฏว่าเมื่อสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดนั้นออกรางวัลแล้ว ภารโรงผู้นั้นก็ถูกรางวัลที่ 2 ทำให้เขาพอมีทุนรอนที่จะขยับขยายเปลี่ยนอาชีพไปทางอื่นได้ จึงได้ลาออกจากหน้าที่ภารโรง พาครอบครัวออกจากกระทรวงอุตสาหกรรมไปแต่บัดนั้น

แม้ผลอันเกิดขึ้นกับภารโรงจะเป็นที่รู้กันแพร่แหลายในกระทรวงอุตสาหกรรมและองค์พระนารายณ์ก็เคยมาเข้าฝันสั่งให้ภารโรงคนนั้นบอกกล่าวกับผู้ใหญ่ในกระทรวงให้จัดการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อรูปปั้นของพระองค์เสีย เพราะการนำไปทิ้งไว้โดยปราศจากความสนใจเช่นนั้นเป็นการเหยียบย่ำดูแคลนพระองค์ ถ้าไม่จัดการอย่างหนึ่งอย่างใด พระองค์ก็จะก่อความเดือดร้อนขึ้นในกระทรวงอุตสาหกรรมไม่ให้เป็นสุขได้ตลอดไป และก่อนที่ภารโรงจะลาออกไปก็ได้นำเรื่องราวที่พระนารายณ์มาเข้าฝันนั้นเสนอให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นขึ้นไปแล้ว แต่ปรากฏว่าเรื่องราวของภารโรงผู้นั้นไม่มีผู้ใหญ่คนใดเชื่อถือเลย คงเพิกเฉยและปล่อยให้พระรูปปั้นถูกทิ้งตากแดดตากฝนอยู่ต่อไปเช่นเดิม

ระยะนั้นนับได้ว่าความเป็นไปในกระทรวงอุตสาหกรรมยุ่งเหยิงและอลเวงถึงขนาดหนัก ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ผู้น้อยนับแต่ พล.ต.ประมาณ อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการลงไปประสบความยุ่งยากและเกิดเรื่องราวนานาประการ ดังเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วในสมัยนั้น จากความอลเวงดังกล่าวนี้สืบเนื่องจากอำนาจอภินิหารที่องค์พระนารายณ์ได้แสดงให้ปรากฏนั่นเอง
.ร.ต. หลวงสุวิชาญแพทย์ re1.jpg
พล.ร.ต.หลวงสุวิชาญแพทย์ (อั๋น สุวรรณภานุ)
.ร.ต. หลวงสุวิชาญแพทย์ re1.jpg (21.77 KiB) เปิดดู 5719 ครั้ง

และเพราะความยุ่งเหยิงที่ไม่อาจแก้ให้ตกได้นี้ ทำให้ พล.ต.ประมาณ ต้องนำความไปปรึกษากับ พล.ร.ต. หลวงสุวิชาญแพทย์ อดีตนายแพทย์ใหญ่ผู้เชี่ยวชาญการนั่งตรวจทางใน ซึ่งคุณหลวงสุวิชาญฯ ก็ได้แนะนำว่า ภายในบริเวณกระทรวงอุตสาหกรรมนั้นมีรูปปั้นที่เป็นของศักดิ์สิทธิ์อยู่สิ่งหนึ่ง ถ้าไม่จัดการบวงสรวงและเคลื่อนย้ายไปประดิษฐานในที่อันสมควรแล้ว ความยุ่งเหยิงต่าง ๆ ก็ไม่เสื่อมคลายได้

แต่จะเป็นด้วยการลืมนึกถึงรูปองค์พระนารายณ์เสียสนิทหรือเพราะความไม่เชื่อถือในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ก็ไม่อาจเดาได้ เมื่อได้รับคำแนะนำจากอดีตนายแพทย์ใหญ่ทหารเรือผู้เชี่ยวชาญการนั่งทางในจนเป็นที่เชื่อถือของคนทั้งบ้านทั้งเมืองมาแล้ว พล.ต. ประมาณ ก็ยังคงเพิกเฉยไม่ได้ปฏิบัติอย่างใดกับพระรูปปั้นนั้น ซึ่งความยุ่งเหยิงอลเวงก็ยังคงมีอยู่ตลอดไปและกลับทับทวีรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ จนในที่สุด พล.ต. ประมาณ เองต้องหลุดพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไป โดยมี พล.ท. บัญญัติ เทพหัสดินทร์ ณ อยุธยา ได้รับการแต่งตั้งเข้าดำรงตำแหน่งแทน

เมื่อ พล.ท. บัญญัติ เข้าไปบริหารงานในกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว เหตุการณ์อันชุลมุนวุ่นวายในกระทรวงก็ยังคงดำเนินอยู่เช่นเดิม เป็นเหตุให้ท่านรัฐมนตรีต้องสอบถามจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ดูด้วยความสงสัย ครั้นได้ทราบถึงความเป็นมาโดยตลอดแล้ว พล.ท. บัญญัติ ซึ่งเป็นคนที่เชื่อถือในเรื่องโชคลางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่บ้างจึงดำริที่จะตั้งพิธีบวงสราวงและอัญเชิญพระรูปปั้นขององค์พระนารายณ์ขึ้นประดิษฐานบนแท่นหน้ากระทรวงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป

แต่เนื่องจากรูปปั้นนั้นทำด้วยปูนพลาสเตอร์ซึ่งไม่ใช่วัตถุที่คงทนถาวรนัก อีกทั้งประกอบกับรอยแตกร้าวและชำรุดอยู่มากอันเนื่องจากถูกเด็กซุกซนยิงด้วยหนังสติ๊กดังกล่าวมาแล้ว พล.ท. บัญญัติ จึงได้สั่งให้นำรูปปั้นพระนารายณ์นั้นไปให้กรมศิลปากรทำเป็นแบบหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์เสียใหม่ โดยให้มีขนาดและลักษณะท่าทางเหมือนเดิมทุกอย่าง

เมื่อกรมศิลปากรจัดการหล่อรูปองค์พระนารายณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พล.ท. บัญญัติ จึงตั้งพิธีบวงสรวงและอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้บนแท่นหน้ากระทรวงอุตสาหกรรมแต่บัดนั้นมา และหลังจากได้ทำพิธีบวงสรวงกับได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนแท่นเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์วุ่นวายภายในกระทรวงก็ค่อยทุเลาเบาบางลงจนเป็นปกติตราบเท่าทุกวันนี้ สำหรับพระรูปองค์พระนารายณ์นั้นก็ปรากฏว่าได้เป็นที่เคารพสักการะของบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ผู้น้อยในกระทรวงอุตสาหกรรมโดยทั่วกัน ผู้ใดมีความทุกข์ร้อนสิ่งใดก็นิยมไปบนบานกราบไหว้ขอความช่วยเหลือจากองค์ท่าน กลายเป็นประเพณีเนื่องกันมาจนปัจจุบัน
.ท. สมาน วีระไวทยะ saman re1.jpg
.ท. สมาน วีระไวทยะ saman re1.jpg (11.13 KiB) เปิดดู 5717 ครั้ง

พ.อ. สมาน วีระไวทยะ เล่าอีกว่า สำหรับตัวของท่านนั้นก็เป็นผู้หนึ่งที่เคารพสักการะองค์พระนารายณ์อยู่ทุก ๆ วัน สาเหตุที่นายพันเอกแห่งกองทัพบกเลื่อมใสในเทพเจ้าองค์นี้นั้น ท่านได้บอกให้ทราบว่า เนื่องจากวันหนึ่งที่ท่านได้นั่งวิปัสสนาอยู่ในบ้าน ขณะที่จิตเป็นสมาธิดีแล้ว ท่านมองเห็นแสงประหลาดแสงหนึ่งพวยพุ่งเข้ามาตรงหน้า และพร้อมกันนั้นดวงจิตของท่านก็ล่องลอยไปตามแสงนั้นและได้ไปหยุดที่เกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่
re1.jpg
re1.jpg (29.52 KiB) เปิดดู 5717 ครั้ง

ในนิมิตนั้นนายพันเอกได้มองเห็นชายผู้หนึ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนกับคนธรรมดา ทว่าทรงเครื่องด้วยสร้อยสังวาลแบบเดียวกับรูปเทวดาที่เห็นทั่ว ๆ ไป ชายคนนั้นมีเพียงสองมือ แต่มีท่าทางสง่าน่าเลื่อมใสมาก พ.อ. สมาน จึงตรงเข้าไปนมัสการและถามว่าท่านคือใคร ? บุรุษผู้นั้นหัวเราะอย่างอารมณ์ดีและไม่ตอบคำถามตรง ๆ แต่ย้อนถามขึ้นว่า

“เอ็งลองทายดูสิว่า ข้าคือใครกัน”

นายพันเอกแห่งกองทัพบกจึงตอบไปว่า โดยสภาพที่เห็นแล้วท่านน่าจะเป็นองค์พระนารายณ์ แต่ยังสงสัยว่าเหตุใดจึงมีพระกรเพียงสองข้างเท่านั้น บุรุษผู้นั้นหัวเราะขึ้นอีกและกล่าวว่า

“เอ็งเข้าใจถูกแล้ว ข้านี่แหละคือพระนารายณ์”

พร้อมกันนั้นก็รับสั่งถึงสาเหตุที่ไปเรียกตัว พ.อ. สมาน มาพบว่า เพราะท่านได้เห็นถึงความอุตสาหะวิริยะของนายพันเอกที่ได้ตั้งอกตั้งใจทำสมาธิอยู่ทุก ๆ วัน จึงทรงพระกรุณาให้มาเฝ้าสักครั้ง เพื่อจะได้ทรงแนะนำถึงบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่ทราบให้ทราบไว้ และในท้ายสุดองค์พระนารายณ์ได้แนะนำให้ พ.อ. สมาน จัดหารูปของพระองค์ไว้บูชาทุก ๆ วัน จะได้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวสืบไป หากเมื่อใดมีทุกข์ร้อนด้วยประการใด ๆ ก็ดี ให้กราบไหว้บอกกล่าวแก่ท่าน ๆ จะช่วยเหลือปัดเป่าให้บรรเทาเบาบางลงเป็นครั้งคราวไป

ภายหลังจากได้นิมิตถึงการเข้าเฝ้าองค์พระนารายณ์แล้ว พ.อ. สมาน ก็ได้พยายามหารูปปั้นหรือภาพของพระนารายณ์เพื่อเก็บไว้บูชา แต่ปรากฏว่าหาไม่ได้เลยทั้งรูปปั้นและรูปเขียน เพราะไม่มีใครคิดปั้นหรือเขียนไว้จำหน่าย พอดีกับวันหนึ่งนายพันเอกแห่งกองทัพบกได้มีโอกาสพบกับ นายชาญชัย ถาวรธาร ข้าราชการชั้นพิเศษของกระทรวงอุตสาหกรรมและมีตำแหน่งเป็นนายช่างพิเศษประจำกระทรวง

พ.อ. สมานจึงปรารภถึงเรื่องที่อยากได้ภาพพระนารายณ์ไว้บูชา เมื่อนายช่างพิเศษชาญชัยได้ทราบดังนั้นก็บอกให้ทราบว่า เขามีภาพถ่ายรูปปั้นพระนารายณ์อยู่ โดยได้ถ่ายไว้เมื่อคราวทำพิธีบวงสรวงภาพปั้นพระนารายณ์ที่กระทรวงอุตสาหกรรม และรับปากว่าในวันหลังจะนำมามอบให้ พ.อ.สมาน สักรูปหนึ่ง

ปรากฏว่าเมื่อ นายชาญชัย ถาวรธาร นำภาพถ่ายพระนารายณ์มามอบให้ตามที่รับปากไว้ พ.อ.สมาน ก็ต้องตกตะลึงเมื่อมองเห็นภาพคทาลอยอยู่เหนือรูปปั้นนั้น และเมื่อสอบถามจากนายช่างพิเศษแห่งกระทรวงอุตสาหกรรมว่า ได้มีการตบแต่งฟิล์มหรือไม่ ซึ่งนายชาญชัยก็ยืนยันว่าไม่เคยแตะต้องกับฟิล์มเลย และเพิ่งสังเกตเห็นภาพคทาเมื่อ พ.อ. สมาน ถามขึ้นนี่เอง

ต่อข้อถามว่าทำไมพระนารายณ์บางรูปจึงถือคันศร พ.อ. สมาน ตอบว่า ตามปกติองค์พระนารายณ์จะทรงอาวุธประจำพระองค์สี่อย่าง คือ ตรี คทา จักร และสังข์ หากยามใดที่โลกเกิดยุคเข็ญ พระองค์ก็จะเปลี่ยนจากคทาเป็นศรแทน และแม้จะทรงศรเช่นนั้นก็จะมีคทาลอยเป็นสัญลักษณ์ประจำองค์ท่านอยู่เหนือเศียรเสมอไป สำหรับภาพปั้นที่กระทรวงอุตสาหกรรมนั้นเป็นภาพที่องค์พระนารายณ์ทรงศร ดังนั้นเมื่อนายชาญชัยนำกล้องถ่ายรูปไปบันทึกภาพรูปปั้นพระนารายณ์ พระองค์จึงทรงแสดงเทวานุภาพให้ติดรูปคทาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ท่านให้ปรากฏมาด้วย

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 7:50 am

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 9:14 am

ขอบคุณครับผมพี่ต่อ เรื่องราวเยี่ยมยอดเช่นเคยตรับ :grt:

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 10:22 am

นารายณ์ นารายณ์

ขอบพระคุณค้าบบบบ

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 10:46 am

ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

พฤหัสฯ. 05 มี.ค. 2009 4:49 pm

1209522335761gp0.gif
1209522335761gp0.gif (91.87 KiB) เปิดดู 5635 ครั้ง

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

ศุกร์ 06 มี.ค. 2009 1:38 am

อืมมม เยี่ยมมมครับ

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

จันทร์ 13 เม.ย. 2009 9:50 pm

ขออนุญาตถามครับ

พอดีเพื่อนคนนึงไปดูดวงมา เขาทักว่าควรจะบูชาพระนารายณ์คู่กับพระลักษมีเป็นการเสริมดวง
มาถามผมว่าจะบูชาได้ที่ไหน กระผมก็ใบ้กินอ่ะครับ

ขอผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

จันทร์ 13 เม.ย. 2009 9:55 pm

อู๊ด แนะนำว่าให้เพื่อนคุณ monny ลองถามหมอดูท่านนั้นดู อาจจะมีก็ได้นะครับ :D

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

พฤหัสฯ. 16 เม.ย. 2009 7:40 am

ที่วัดแขกสีลม ก็มีครับคุณ Monny

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

พฤหัสฯ. 16 เม.ย. 2009 8:34 pm

ขอบคุณครับ

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

ศุกร์ 17 เม.ย. 2009 1:07 am

ด้วยความยินดีครับ

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

จันทร์ 20 เม.ย. 2009 7:57 am

Monny เขียน:ขออนุญาตถามครับ

พอดีเพื่อนคนนึงไปดูดวงมา เขาทักว่าควรจะบูชาพระนารายณ์คู่กับพระลักษมีเป็นการเสริมดวง
มาถามผมว่าจะบูชาได้ที่ไหน กระผมก็ใบ้กินอ่ะครับ

ขอผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ


ถ้าจะเอาแบบจำหน่ายจริง ๆ ก็ต้องวัดแขกสีลมนั่นแหละครับ แต่ ณ วันนี้ ตั้งแต่คุณอาวันดี ธรรมปรีดา ผู้ดูแลคนสำคัญดั้งเดิมเสียชีวิตไป วัดแขกสีลมก็กลายเป็นแหล่งทำกินของผู้ไม่รู้บาปรู้บุญตั้งแต่ "แขก" จริง ๆ ไปจนถึงไทยและจีนที่กลายร่างเป็นแขก ผู้ซึ่งเข้ามากลุ้มรุมเหล่าศรัทธาที่เข้าวัดกัน คนไปก็เบื่อเป็นอันมาก แต่เพราะความศรัทธาจึงยังคงต้องไป เนื่องจากวัดที่เป็นศักตินิกายในไทย ดู ๆ แล้วคงจะเหลือแต่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือ วัดแขกสีลมที่นี่แห่งเดียวแล้วกระมัง

แต่ถ้าไม่อยากวุ่นวายใจ ลองไปติดต่อที่วัดเทพมณเฑียรใกล้ ๆ เสาชิงช้าดูก็ได้ครับ ที่นั่นเป็นวัดฮินดูเหมือนกัน ถึงจะไม่มีของให้เช่าบูชา แต่ลองขอความกรุณาให้พราหมณ์ที่นั่นทำพิธีเบิกเนตรรูปหล่อพระนารายณ์และพระแม่ลักษมีที่เราหาซื้อมาเองก็ได้นะครับ แต่ก่อนซื้อให้ลองไปติดต่อสอบถามดูก่อนนะครับ เมื่อเขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะประกอบพิธีให้แล้วจึงค่อยไปหาซื้อจะถูกว่าเอาที่วัดแขกสีลมเยอะครับ

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

จันทร์ 20 เม.ย. 2009 9:50 pm

โอ้ ขอบคุณมากครับ อ.ต่อ นี่กี่ทีก็สุดยอดเหมือนเดิม :rbb:

Re: อภินิหาร แห่ง พระนารายณ์มหาเทพ

อังคาร 21 เม.ย. 2009 4:58 pm

ไม่ต้องเอา "ลูกยอ" มาฝากผมหรอกครับ เพราะเค้าตัดต้นเอาไปทำ "พระเศรษฐีนวโกฏิ" กันหมดแล้ว :lol: :lol: :lol:
ตอบกระทู้