Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 3:39 pm

1.jpg
1.jpg (26.63 KiB) เปิดดู 8609 ครั้ง

หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร

ถ้าพูดถึงพระที่เคยไปศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่น และยังดำรงค์ธาตุขันธอยู่ในปัจจุบัน ต้องมีชื่อหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร อยู่ในรายชื่อนั้นด้วย

ชื่อเสียงหลวงปู่อ่อนสา ดูเงียบไป อาจด้วยเพราะท่านค่อนข้างเก็บตัวไม่ค่อยได้รับกิจนิมนต์ไปไหน ประกอบกับการใช้ภาษาของท่านที่ออกจะลูกทุ่ง เหมือนหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
หรืออาจเป็นเพราะวาสนาบารมีของแต่ละองค์ทำมาไม่เหมือนกัน

อย่างหลวงปู่แหวนและหลวงตามหาบัว ท่านทั้งสององค์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
แต่ถ้ากล่าวถึง หลวงปู่อุ่น ชาคโร วัดดอยบันไดสวรรค์ จ.อุดรธานี
ร้อยละเก้าสิบเก้าก็ต้องสายหัว เพราะไม่เคยได้ยินชื่อ แต่วันนี้อัฐิหลวงปู่อุ่นได้กลายเป็นแก้วใสแล้ว

พระอรหันต์เหมือนกันแต่บารมีไม่เหมือนกัน

สำหรับหลวงปู่อ่อนสาแม่จะไม่โด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วไป แต่คุณธรรมและอำนาจจิตท่านไม่เงี่ยบเลย
ในหมู่ลูกศิษย์หลวงปู่เคารพและเทิดทูนท่านเหมือนเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งทีเดียว

หลวงปู่แนน สุภัทโธ วัดซำขามถ้ำยาว จ.ขอนแก่น ศิษย์องค์ท้ายสุดของหลวงปู่คำดี ปภาโส แห่งวัดถ้ำผาปู่
เคยบอกว่า ถ้าอยากกราบพระอรหันต์ ให้ไปกราบหลวงปู่อ่อนสาโน่น

เมื่อไม่นานนี้หลวงตาบัวท่านไปเปิดเจดีย์หลวงปู่แนน และถ้าใครดูภาพถ่ายอัฐิหลวงปู่แนน จะเห็นได้ว่ากลายเป็นแก้วไปทั้งชิ้นเลย

นอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว คนที่จะรับรองคุณธรรมของพระอรหันต์ได้ก็คงต้องเป็นพระอรหันต์ด้วยกันเท่านั้น

ผมเองเคยไปกราบหลวงปู่อ่อนสานับครั้งได้เลย อาจเป็นเพราะไม่ได้มีวาสนากับองค์หลวงปู่ ดังนั้นเรื่องราวของหลวงปู่จึงไม่ค่อยมี

ปัจจุบันหลวงปู่อ่อนสา อายุก็94ปี จะ95ก็เดือนกรกฎาคมนี้ครับ
ท่านอยู่ที่ วัดประชาชุมพลพัฒนาราม บ้านหนองใหญ่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 3:44 pm

nan1.jpg
nan1.jpg (144.29 KiB) เปิดดู 8599 ครั้ง

หลวงปู่แนน สุภัทโธ
nan2.jpg
nan2.jpg (137.51 KiB) เปิดดู 8589 ครั้ง

อัฐิธาตุหลวงปู่แนน

ใครอยากชมภาพแบบเต็มๆตามไปดูได้ที
http://www.luangta.com/info/news_text.php?cginews_id=285&type=

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 3:51 pm

เมื่อช่วงปีใหม่ผมไปเที่ยววัดป่ามัชฌิมวาส ที่กาฬสินธุ์มา เพื่อขอปฐวีธาตุที่ท่านเจ้าอาวาสเคยอธิฐานไว้(ตามลายแทงที่อ.ต่อเคยมอบให้ไว้ที่นวรัตน์แห่งนี้)
แต่ท่านเจ้าอาวาสก็ตอบเลี่ยงโดยบอกปฐวีธาตุ เห็นหลวงปู่อ่อนสาท่นแจกอยู่ นัยว่าใครอยากได้ปฐวีธาตุที่กาฬสินธุ์ไม่มีแล้ว ให้ไปเอาที่หลวงปู่อ่อนสา

งานนี้ใครไปกราบหลวงปู่แล้วขอมาได้อย่าลืมเอามาเผื่อแหล่งข่าวด้วยเน้อ

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 3:59 pm

เผื่อสักองค์นะคับ

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 4:06 pm

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 4:21 pm

thanx008[1].gif
thanx008[1].gif (85.57 KiB) เปิดดู 8542 ครั้ง

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:04 pm

ต่อจากนี้จะนำเอาบทความที่อ.นก เริงลม เขียนถึงหลวงปู่อ่อนสาไว้ที่webอุดร108 มาลง
สำหรับอ.นกนั้นผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่หลังจากอ่านที่อ.นกโพสไว้โดยตลอด ทำให้เชื่อว่าอ.นกเป็นวงในของสายกรรมฐานอย่างแท้จริง

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:08 pm

1หน้า.jpg
1หน้า.jpg (94.01 KiB) เปิดดู 8517 ครั้ง

เหรียญรุ่นรุ่นแรก ด้านหน้า

มีสมาชิกข้องใจใคร่ถามว่า ทำไมเรียกพระเครื่องของหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโรว่า บินเดี่ยว

ฉายานี้ อาจารย์สวาท ศรีคัฒฑพรหม อำเภอหนองหาน เป็นคนตั้ง จากประสบการณ์
ที่เกิดขึ้น ไม่ว่า กับ อาจารย์สวาท หรือ กับตัวกระผมเอง พระเครื่องของหลวงปู่อ่อนสา ท่าน
ไม่ชอบเข้าสร้อยกับพระเครื่ององค์อื่น จะเห็นได้ว่า หากเอาเข้ากับพระเครื่ององค์อื่น สร้อยมักจะขาด
หรือพระหลุดออกจากสร้อย ซึ่งจะเกิดเรื่องเช่นนี้ กับศิษย์ของท่านเรียกได้ว่า เกือบทุกคน คนละครั้ง


1หลัง.jpg
1หลัง.jpg (90.27 KiB) เปิดดู 8517 ครั้ง

เหรียญรุ่นรุ่นแรก ด้านหลัง

ลูกสาวคนเล็กซึ่งปัจจุบัน เรียนและทำงานอยู่ที่ประเทศออสเตเลีย ประสบกับบารมีของหลวงปู่อย่างจัง

จำได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นวันที่ NIDA จังหวัดอุดรธานี จัดสัมนาหัวข้อเรื่อง อิสานจะมั่งคั่งได้อย่างไร?

ก่อนเกิดเหตุสองสามวัน ผมและแม่บ้านพร้อมลูกสาวคนเล็ก ที่หลวงปู่มักจะเรียกด้วยความเอ็นดูว่า e อ้วน
ไปกราบหลวงปู่ที่กุฏิเก่าริมน้ำ นั่งเล่นคุยกับหลวงปู่อยู่นาน สังเกตุวันนั้น หลวงปู่จะมองหน้า e อ้วนบ่อยมาก
ก่อนกราบลา ท่านก็เรียกมาพรมน้ำมนต์ แล้วท่านก็เอาน้ำอ้อยที่ท่านฉันเหลือครึ่งขวด ส่งให้ผม และ บอกว่า เอาให้ e อ้วนกิน

eอ้วน ก็ยังเรียนอยู่ชั้นประถมสี่ ยังเด็ก ไม่รู้ประสา มันขี้เดียด( รังเกียจ ) น้ำลายหลวงปู่ แต่ก็อุตสาห์ดิ่มน้ำอ้อยที่เหลือจนหมดขวด

วันเกิดเหตุ เสมียนที่ทำงาน ขับมอเตอร์ไซค ฮอนด้าดรีมสีขาว ของคุรุสภา ไปรับeอ้วน ที่โรงเรียนอนุบาลจังหวัด
พอมาถึงปากซอยสิทธิพร มีรถเก๋งวอลโว ของอาจารย์ที่สอนที่โรงเรียนสตรีราชินูทิศ พุ่งชนเข้าอย่างแรง จนมอเตอร์ไซค์
งอหักเป็นหัวลูกศร

ผมกลับจากงาน มาถึงที่ทำงาน ทนายสุรสิทธิ์บอกผมว่า เมื่อกี้นี้ รถปอเต๊กตึ้ง มาบอกว่า เขาเอา e อ้วนไปโรงพยาบาลอุดร
อยู่ห้อง ICU ให้ผมรีบตามไป แค่ได้ฟัง กำแพงห้องก็เปิดโล่ง สว่างไสวไปหมด ไปไม่ถูก ตั้งสติได้ รีบขับตามไปถึง
โรงพยาบาลจังหวัดอุดร ตรงดิ่งไปห้องดับจิตเลย ชนจนรถหักเป็นหัวลูกศร คงไม่มีอะไรเหลือแล้ว ไม่มี

เดินกลับมาที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน ก็ไม่มี ตัดสินใจ ถามเจ้าหน้าที่ คุณพยาบาลว่า เมื่อครู่ใหญ่ รถสว่างเมธาธรรมเอาคนป่วยมาส่งแล้ว คนป่วยอยู่ที่ไหน

คุณพยาบาลตอบว่า เห็นเดินเล่นอยู่แถวนี้ แค่นี้ ก็โล่งอกไปเยอะแล้ว ลูกเอ่ย ขอให้เจ้าปลอดภัยนะลูก

เดินออกมานอกตึก เห็น eอ้วน นั่งกินไอสครีม ที่หัวเข่า ทายาแดงนิดหน่อย ไม่เจ็บอะไรมาก
ส่วนเสมียน สาวตุ่น บาดเจ็บเล็กน้อยเช่นกันทายาแดงที่ศอกและฝ่ามือ แล้วให้กลับบ้านได้

โชคดี ที่รถชนเข้าระหว่างหัวเข่าของคนทั้งสอง ไม่โดนคนทั้งสอง หากโดน บอกได้ว่า ต้องบาดเจ็บไม่น้อย
เพราะเฉพาะซ่อมรถที่อาจารย์ท่านออกให้ ก็ร่วมหมื่น กว่าจะดัดตัวถังรถ ล้อพับงอทั้งสองล้อ บอกได้ว่าชนแรงมาก

เลยพา e อ้วนไปกราบหลวงปู่ในเย็นนั้น
ท่านก็หัวเราะด้วยอารมณ์ดี แล้วบอกว่า พระที่มึ งแขวนอยู่ ไม่ได้ให้มึ งไส่ไปให้รถชนเล่นนะ
แล้วผมก็ปลดรูปหล่อรุ่นแรกของท่านที่ eอ้วนแขวนที่คอ ส่งให้หลวงปู่ ท่านก็เมตตารับและเป่าให้พร้อมส่งคืน
ให้กับผมเพื่อคืนให้ eอ้วนต่อไป

หลวงปู่อ่อนสา ท่านเมตตา eอ้วนมาก ตอนไปเรียนหนังสือที่นิวซีแลนด์ ท่านก็ไปทางจิต ไปเล่นกับ
eอ้วน บอกให้ eอ้วนอ่านหนังสือ หน้านั้น หน้านี้เด้อ ครูฝรั่งจะออกข้อสอบตรงนั้นตรงนี้ และ ก็ออกจริงๆ

พระคุณของหลวงปู่ไม่เคยลืมเลือนสำหรับเมตตาของหลวงปู่ที่มีต่อกระผมและครอบครัว

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:24 pm

ขอบคุณมากครับ อ.bon ชอบจริง ๆ เรื่องนี้มันส์ดีแฮะ :P

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:28 pm

คุณBakhamnoi โพสต์

สำหรับหลวงปู่แล้ว ผมเคยไปกราบท่านช่วงเทศกาลสงกรานต์ (หลายปีแล้ว)
เคยเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเอาขวดน้ำดื่มมาให้หลวงปู่ทำน้ำมนต์ให้เพื่อไปให้ลูกดื่ม
โดยบอกว่าครั้งที่แล้วเอาไปให้ดื่มแล้วอาการดีขึ้นมาก (เห็นว่าเป็นปากเปื่อยว่างั้น)
ผมเห็นหลวงปู่ยกขวดน้ำดื่มขึ้นมาแล้วเป่าปากขวดพรวด แค่นั้นแหละ แล้วคืนให้
ผู้หญิงคนนั้นก็ยกมือไหว้ สาธุ รับขวดน้ำไปด้วยความดีใจ

ท่านพรมน้ำมนต์ตอนสงกรานต์ให้ด้วยการเอาสายยางต่อจากก๊อกน้ำฉีดให้เลย
ทุกคนเปียกน้ำมนต์ท่านด้วยความเต็มใจและดีใจ เห็นท่านฉันท์อ้อย (อ้อยควั่น)
ฉันท์ไปสองสามก้อนท่านก็โยนให้ชาวบ้านหมด ชาวบ้านแย่งกันชุลมุนไปหมด
แสดงว่ากิตติศัพท์ของหลวงปู่ท่านเนี่ยไม่ใช่เล่น ให้อะไรมาชาวบ้านจ้องเต็มที่
(เมื่อก่อนผมยังไม่ค่อยรู้จักหลวงปู่มากนัก)

จนหลังๆมาเนี่ยผมถึงค่อยทราบเรื่องราวของท่าน โดยเฉพาะได้อ่านในเวปนี้
ซึ่งท่านนก ท่านเมตตานำประสบการณ์จริงมาเล่าให้ฟัง
พวกห่างวัดห่างสงฆ์อย่างผมก็พลอยได้ฟังเรื่องดีๆมีประโยชน์มั่ง
วันนี้ก็พึ่งได้มาทำงานที่หนองหานเป็นวันแรก ยังเก้ๆกังๆอยู่เลย
ว่าจะไปเดินสายกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของหนองหานก็ยังไม่ทราบว่าที่ใดบ้าง
ท่านนก ช่วยแนะนำด้วยครับว่าควรจะไปฝากเนื้อฝากตัวกับสถานที่ใดบ้าง

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:31 pm

อ.นกโพสต์ตอบ

ที่หนองหาน ก็มีศาลเจ้าปู่หอคำ ที่ตลาดแลง( ตลาดเย็น ) เป็นศาลเจ้าเมืองเก่า หนึ่ง
เจ้าปู่เจ้าฟ้า หนึ่ง และ ที่โรงเรียนหนองหานวิทยา ประตูด้านบ้านท่าน
สส. วิชัย หอเจ้าปู่ขุนหาญทะลุฟ้า
จากนั้น ก็หอแม่นางไอ ที่บ่อเสวยครับ
ผมกลับบ้านคงเย็นๆ โน้นแหละครับ
กว่าจะสอนเสร็จ คงถึงบ้านประมาณหกโมงเย็นร่วมทุ่ม
ยินดีต้อนรับสู่อำเภอหนองหาน
บ้านผมอยู่ติดกับร้านครัวกานดาครับ

ส่วนพระสงฆ์องค์พระเจ้า ถ้าจะกราบจริงๆ ต้องเดินทางไปทางสว่างแดนดิน
จะมีหลายวัด กราบได้สนิทใจ ส่วนในตัวอำเภอแล้ว ก็พอได้ตักบาตรทำบุญ แต่
จะยึดเป็นสารณะนั้น ยังสู้เส้นสว่างแดนดินไม่ได้

พูดถึงหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร กับชาวอำเภอหนองหานแล้ว
หลวงปู่จะเมตตามากยิ่งกว่าลูกหลานของหลวงปู่เอง เพราะเมื่อสีห้าสิบปีก่อน ท่านเคยธุดงค์
มาปักกรดที่วัดป่านาข่าปัจจุบัน เดิม เป็นป่ารกชัฎ ก็ได้คุณพ่อของคุณพี่สันทัด
ชีพสุวรรณ ( คุณตาล่ำ ชีพสุวรรณ หนึ่งในสองคนที่ยืนถ่ายรูปกับกรมหลวงประจักษ์ ฯ )
ระดมชาวบ้านมาบุกเบิกที่ดิน พอให้ท่านได้มีที่พัก และ ต่อมา ก็มีการพัฒนาเป็น
วัดป่านาข่าในปัจจุบัน คอยอุปถากท่านมาตลอด จนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน

เมื่อยี่สิบปีก่อน เมื่อหลวงปู่ยังแข็งแรง ท่านจะเมตตาไปบิณบาตรที่อำเภอหนองหานบ่อยๆ
ชาวบ้านเรียกหลวงปู่ว่า หลวงปู่ฝรั่ง เพราะท่านผิวขาว ตัวสูงใหญ่เหมือนฝรั่ง เวลาไปบิณบาตร
ก็จะมีเด็กชายอ้น หรือ ไม่ก็ลูกชายของผม เป็นเด้กถือกระแป่งเดินตามหลวงปู่ค่อยถ่ายบาตร
ชาวอำเภอหนองหาน คุ้นเคยกับภาพหลวงปู่ฝรั่งเดินบิณบาตรลำพังแต่องค์เดียว

ท่านจะสนิทกับลูกหลานคุณตาล่ำ มาก เช่น ครอบครัวชีพสุวรรณที่หน้าโรงเรียนวันครู
ครอบครัวอาจารย์สวาท ศรีคัฒฑพรหม ซึ่งเป็นเขยคนเล็กของคุณตาล่ำ หากมาหนองหาน
ท่านก็จะแวะบ้านคุณป้าบุญลือ ชีพสุวรรณ เพราะสะดวกและติดถนน

ส่วนบ้านผม ท่านจะมาแวะ เพื่อเอาข้าวสาร น้ำตาล และอาหารแห้ง ฝากท่านไปถวาย
หลวงปู่หล้า วัดภูจ้อก้อ เดิม ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรในตัวหลวงปู่เท่าใดนัก

ทราบเพียงว่า ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นองค์หนึ่ง
( กราบแทบเท้าขออภัยหลวงปู่ ในสิ่งที่ลูกหลานจะพิมพ์ต่อไปนี้ และ ขออโหสิกรรมต่อหลวงปู่ด้วย )

กริยาท่านโผงผาง ตรงไป ตรงไม่ มีแต่คำว่า กู กับ มึ ง ศรัทธาก็ไม่ค่อยเกิดเท่าใด
เพราะเราก็ยึดอัตตาว่า เราก็เป็นถึงศิษย์รุ่นใหญ่ของหลวงปู่มั่น กราบมาแล้วทั่ว เช่น
หลวงปู่เทศก์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่บุญมา หลวงปู่ฝั้น และอีกหลายๆ สิบองค์ ซึ่งล้วนแต่
อาวุโสกว่าท่านมาก ประกอบกับ เมื่อท่านเดินเข้ามาที่ร้านค้า ( เดิมเป็นพ่อค้าขายเหล้า )
ท่านจะเดินมาที่โต๊ะทำงาน แล้วจะถามว่า ใสละ ของซิฝากไปวัดภูจ้อก้อ แล้วท่านก็เมตตา
นั่งบึบลงที่โต๊ะทำงานของผม

แม่บ้านผมก็จะรีบเอากะทิงแดง ( สมัยนั้น มีขวดจัมโบ้ ขนาด 250 ซีซี )ขนาดเดียวกับ
ขวดยาธาตุ ๔ ถวายท่าน ครั้งละสองขวด ก็ครึ่งลิตร ผมเลยแอบเรียกท่านว่า
หลวงปู่กะทิงแดง เพราะท่านฉัน กะทิงแดงราวกับดื่มน้ำ แม่บ้านผมเตือนว่า อย่าไปเรียกท่านอย่างนั้น
มันจะเป็นบาป

ต่อมา ได้ทราบว่า ท่านเป็นศิษย์รุ่นเสือน้อย คือ เป็นรุ่นที่เกิดปีเสือรุ่นเล็ก อันมี หลวงตามหาบัว
วัดปาบ้านตาด หลวงปู่หลอด วัดเสนา ฯลฯ ความกลัวและขยาดก็เริ่มปรากฏ เริมสำรวมมากขึ้น
เมื่อท่านมาแวะที่ร้าน และ ไปหาท่านที่วัด

เวลาอยู่กับท่านตามลำพัง หลวงปู่จะใช้คำแทนตัวเองว่า เรา และเรียกผมว่า บักทนาย
เคยถามหลวงปู่ว่า ทำไมหลวงปู่ไม่เทศน์โปรดสัตว์เอาบุญบ้าง?

หลวงปู่เมตตาตอบว่า กูสอนคนมาเป้นแสน ๆ คนแล้ว ไม่เห็นมันได้ซักคนเดียว
( หลวงปู่เคยเป็นพระธรรมทูต มาก่อน )
ดีแต่คุยจนน้ำลายแตกฟอง สมาธิแค่ช้างดิกหู งูแลบลิ้น มันก็ยังทำไม่ได้ ไม่เคยเจอะ
โน้น....เวลามันคุย ถึงสวรรค์ชั้นเก้า ชั้นสิบโน้น

สอนตัวเองยังยากเลย จะไปสอนคนอื่น ที่มันไม่ได้รักตัวมันเองให้เหนื่อยทำไม
มึ ง อยากรู้อะไร มึ ง ถามมา กูจะตอบให้
ทุกครั้งที่อยู่กันตามลำพัง เมื่อสอบถามเรื่องปัญหาในการนั่งสมาธิ
หลวงปู่จะสำรวม และ ตอบให้เป็นฉากๆ
ใช้คำพูดสุภาพ ไมมีกูมึ ง มีแต่เฮา กับ โต เท่านั้น

มีเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโรอีกเยอะ
จะให้คุยให้ฟัง ต้องกินเวลาหลายชั่วโมง เอาไว้ท่านบักหำใหญ่ไป
เล่นบ้าน ให้แม่บ้านอยู่ด้วย ยิ่งสนุก
ยังกับนิทาน

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:33 pm

อย่าว่าแต่อ้อยควั่นเลย
ทุกครบครอบวันเกิดหลวงปู่ จะมีลูกศิษย์หลวงปู่จากสุพรรณบุรีท่านหนึ่ง
อ้วนๆ เตี้ยๆ เป็นคนจีนผิวคล้ำ สวมเสื้อฮาวายที่คอจะแขวนเมล็ดน้อยหน่า
ที่หลวงปู่ฉันเสร็จและโยนให้กับญาติโยม เลี่ยมทอง ยังเห็นรากงอกจากเมล็ดที่เลี่ยมทองอยู่

ถามแล้ว

แค่เมล็ดน้อยหน่า รถพลิกคว่ำหลายสิบตลบ ไม่ได้เลือด ไม่มีแตก
ไม่มีหัก ลองพระของหลวงปู่องค์อื่นไปแลกแลกคุณลุงคนนี้ดูซิ จ้างแกก็ไม่แลก

สอบถามเพื่อนแล้ว ได้ความว่า พี่ท่านชื่อ นายคงศักดิ์ แซ่เอี้ยบ เป็นคนสุพรรณบุรี

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:35 pm

สมัยไปเป็นศิษย์รุ่นบุกเบิกกับพระอาจารย์เจริญ ฐานยุตโต วัดโนนสว่าง
มีคณะที่ไปด้วย ประกอบด้วย สารวัตร....วิเศษโถและคุณนาย นายศุภกร หอมระรื่น
ผมและแม่บ้าน ได้พระปิดตารุ่นแรกของพระอาจารย์เจริญ พากันดีใจสุดๆ ขากลับ
เลยมาแวะกราบวหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร เป็นตอนเย็นๆ แล้ว หลวงปู่นั่งรถก๊อฟตรวจวัดอยู่
พอเห็นคณะของผมเข้าไป ท่านก็หยุด พากันกราบท่านที่ลานปูนซิเมนต์ข้างศาลาใหญ่
คำแรก ที่ท่านทัก คือ ใส่ พระขี้ครั่ง เอามาให้เบิ่งดู๊?
( พระขี้ครั่ง หมายถึง พระที่ทำจากครั่ง หามีฤทธิ์ มีเดชอะไรไม่ - นก เริงลม )
เมื่อจำเลย จำนนต่อหลักฐาน ก็พากันควักพระปิดตาเนื้อว่านกระจายออกมา คนละองค์
สององค์ให้หลวงปู่ดู ท่านหยิบมาพิจารณา( คิดว่า ท่านคงแผ่เมตตาให้ ) แล้วท่านก็ส่งคืน

" ประสาพระขี้ครั่ง " คือคำตอบของหลวงปู่อ่อนสา

หันมาทางแม่บ้านของผม แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า
" ใสเบิ่ง ตะกรุดปืนบ่ไร ไกบ่ลั่น นางมัณทรี เป็นจังได๋ "

ท่านทราบได้อย่างไรว่า แม่บ้านผมไปฝังตะกรุดทองคำ และ เรียกชื่อตะกรุดเหล่านั้นได้ถูกอย่างน่ามหัศจรรย์

เช่นเดียวกัน หลังจากท่านพิทักษ์ คงจันทร์ ขอประทานอนุญาตเอ่ยนามท่าน
ย้ายจากตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุดรธานี ไปประจำที่ศาลอุทธรณ์
วันหนึ่ง ท่านโทรฯมาบอกผมว่า คุณแม่ท่านได้ส่งข้าวกระยาสารทมาทางการบินไทย
ให้ผมไปรับและนำไปถวายหลวงปู่อ่อนสา ให้ด้วย

จึงไปรับเอาที่การบินไทย และ ในวันเสาร์ต่อมา ได้นำไปถวายหลวงปู่
ทีศาลาใหญ่ มีคนมาตักบาตรเต็มไปหมด
แม่บ้านพาลูกๆ นั่งอยู่ที่ท้ายศาลา ตามวิสัยที่เคยปฎิบัติ เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นที่ยังไม่เคยมา
หรือพึ่งมา ได้เข้าใกล้หลวงปู่

สักครู่ใหญ่ ท่านก็เรียกeอ้วน ให้มาเอาข้าวกระยาสารท

" eอ้วน เอ้า เอาไปให้แม่มึ ง "

eอ้วนบอกว่า " หนูไม่อยากค๊า บ่เอาดอก "

" มึ ง บ่อยาก แต่แม่XXอยาก เอ๊า เอาไปให้แม่มึ ง เด้อ "

แม่บ้านผมขนลุกซู่ก้มลงกราบแทบพื้น
ก็ตอนอยู่บนรถด้วยกัน แม่บ้านผมเพียงเปรยว่า

" ข้าวกระยาสารทนี้เป็นตากินแท้น้อ? บ้านเราหากินยาก หากไม่ใช่ฤดูกาล
คุณแม่ท่านพิทักษ์ คงศรัทธาหลวงปู่มาก จึงได้ฝากมาถวาย "

" ต่อไป เมื่อมาวัด เห็นต้องสำรวม นอกจากคำพูดแล้ว ยังต้องสำรวมความคิดด้วย
เพราะหลวงปู่ท่านทราบหรือ อ่านวาระจิตได้อย่างกับตาเห็น อายท่าน อายจริงๆ
สาธุ อย่าให้เป็นบาปเด้อ หลวงปู่ "

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:36 pm

สมาชิกที่เคยไปกราบพระอาจารย์เจริญ ฐานยุตโต คงมีโอกาสได้เห็น
พระอาจารย์เจริย อาบน้ำมนต์ให้กับคนป่วย แล้วคนป่วยจะอาเจียรเป็นสิ่งของต่างๆ
อาทิ เช่น ตะปู ใบมีดโกนยินเล็ด ลวดทองแดง และ ที่เห็นบ่อยที่สุด คือ ไล่ผี

อาบน้ำมนต์เป็นหาบๆ อาเจียรเป็นกระแป๋งๆ กว่าผีจะออก เล่นเอาเหนื่อย
ทั้งคนไล่ผี และ คนที่ผีเข้า

พูดใหม่เหมือนใหม่ แต่เรื่องนี้ นานนมกาเลแล้ว

มีคนเอาคนโดนผีเข้ามาจากชลบุรี ข่าวว่า ไปตะเวณหัวเห็ดเจ็ดย่านน้ำ
อาบน้ำมนต์มาหลายร้อยวัดแล้ว ก็ไล่ผีตัวนี้ไม่ได้ หนักกว่านั้น เวลาพระ
มาสวดไล่ มันสวดนำเลย มาที่วัดประชาชุมพลของหลวงปู่อ่อนสา

เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แล้ว รถปิดอัพบรรทุกชายคนหนึ่ง นั่งตาขวางกินเนื้อหมูดิบ
อยู่ตามลำพังที่หน้ากุฎิหลังเก่า คนขับและญาติคนป่วยที่มาด้วย เข้ามาบอก
และร้องขอให้หลวงปู่ช่วยไล่วิญญาณที่ไม่ดีนี้ออกให้ที

ที่เกิดเหตุ มีทนายสุรสิทธิ์ และ คุณบุญเวศ แม่บ้านและผม อยู่

พอหลวงปู่ออกจากจำวัด ท่านทราบเรื่อง ก็เดินมาที่ประตูกุฎิ
มือคล้ำประตู แล้วพูดว่า

" ไสละผี? "

แค่นี่แหละ

ชายคนดังกล่าว ล้มตึงลง ซักครู่ก็หายเป็นปกติ ถามว่า
ตัวเองอยู่ที่ไหน มาที่นี้ได้อย่างไร

หลวงปู่อ่อนสา ไม่ได้จุดธูปเทียนไหว้พระ ไม่ได้ทำน้ำมนต์
ไม่ได้เศกหรือเป่าเลย แค่ถามเฉยๆ ผียังเผ่นป่าราบ

นี่คือ อำนาจแห่งความบริสุทธิ อำนาจแห่งธรรมของหลวงปู่

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:37 pm

ขอบพระคุณทีให้กำลังใจ เรื่องถ่ายวีดิโอนี้ เห็นคุณหมออภัย รุ่น 16 ตุลา
ถ่ายวีดิโอ ตอนหลวงปู่อ่อนสา สุขการโร กำลังปัดตาด พอดีฝนตก หลวงปู่
เดินกลับมาที่กุฎิไม้ คุณหมอก็ถ่ายเรื่อยจนหลวงปู่ขึ้นมายื่นบนกุฎิ
สาธุ อย่าให้เป็นบาปว่าอวดอุตริมนุษย์เลย

จีวรหลวงปู่ไม่มีน้ำฝนติดหรือเปียกแม้แต่จุดเดียว ทั้งที่นอกชายคากุฎิ
หลังฉากนั้น สายน้ำฝนที่ไหลจากรางน้ำ เป็นสีขาวเลย
คุณหมอเปิดให้ดูครั้งหนึ่ง และ ถือกลับสหรัฐอเมริกา ไม่ยอมนำกลับมา
เปิดให้ผู้ใดดูอีกเลย เรื่องนี้ ศิษย์ชาวหนองหาน และ ที่ใกล้ชิดทราบดี
เสียดายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ นายชัยยันต์ เครือสุ...... ที่อยู่ในเหตุการณ์
ตอนคุณหมอถ่ายวิดีโอได้ถึงแก่กรรมด้วยอุบัติเหตุ ที่บ้านค้อใต้ อำเภอสว่างแดนดิน
ไปเสียก่อน

ยิ่งเห็นบารมีหลวงปู่มากเท่าใด ยิ่งกลัว ยิ่งต้องระวังตน ยิ่งต้องสำรวม
บ่ายๆ ว่าง จะเล่าเรื่อง หลวงปู่กับ eเXX่ยว เป็นเรื่องเกี่ยวกับสัจจะ

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:38 pm

ท่านที่เคยไปกราบหลวงปู่อ่อนสา เมื่อประมาณซัก 15 ปีก่อน จะเห็นโยมผู้หญิง
อายุกลางคน ชอบนุ่งผ้าถุง ไปวัดทุกวัน และ จะอยู่จนกระทั่งหลวงปู่ฉันเสร็จ เรียกว่า
กลับบ้านเกือบเป็นคนสุดท้าย พร้อมๆกับยายจงน้องสะไภ้หลวงปู่

หลวงปู่จะเรียกโยมคนนี้ว่า eเ ห ยี่ว ทั้งที่โยมท่านนี้ก็ค่อนข้างเจ้าเนื้อ
eเห ยี่ว ขายหวยเถื่อนและ ชอบเล่นหวยมาก เป็นหนี้สินล้นพ้นตัว จนเดือดร้อน
ไปทั้งครอบครัว วันหนึ่ง eเห ยี่ว อยู่กับหลวงปู่ที่กุฎิริมน้ำ พร้อมญาติโยมหลายคน
eเห ยี่ว รบเล้าหลวงปู่ให้เล่านิทานให้ฟัง

( การเล่านิทาน ก็เพื่อจับมาตีเป็นหวยเบอร์ )

หลวงปู่จึงถามว่า ถ้าบอกมึ งจริงๆ แล้ว มึ ง จะเลิกเล่นหวยได้ไหม่
มึ ง ซื้อให้พอใช้หนี้ทั้งหมด แล้วก็เลิกซะ เอ้า ถ้าสาบานได้ กูจะบอกให้

eเห ยี่ว ตกลง ก้มลงกราบสาบานต่อหน้าพระพุทธ ว่าจะซื้อหวยงวดนี้เป็นงวดสุดท้ายของชีวิต
หากผิดคำสาบาน ขอให้มีอันเป็นไป

หลวงปู่ก็บอก eเห ยี่ว ตรงๆ เลขท้ายสามตัวของรางวัลที่หนึ่งงวดนั้นออกตรงกับที่หลวงปู่
เมตตาบอก eเห ยี่ว eเห ยีว ถูกหวยได้หลายแสนโข บ้างก็ว่า ถูกเป็นล้าน หลายล้านด้วย

eเห ยี่ว ไม่ซื้อหวยอยู่หลายงวด มาวัดด้วยความยิ้มแย้ม แจ่มใส อยู่หลายเดือน

ต่อมา eเห ยี่ว ก็หายไปจากวัด สอบถามแล้วได้ข่าวว่า ป่วยหนัก
eเห ยี่ว มาที่วัด มากราบขอขมาหลวงปู่ ที่ผิดคำสาบาน ผิดสัจจะ ไปซื้อหวย

หลวงปู่ยิ้มๆ ท่านก็พูดด้วยความเมตตาว่า
หลวงปู่ไม่ได้ถือโทษโกรธผู้ใด ไม่ใช่เรื่องที่หลวงปู่จะต้องมาโกรธ
แต่ที่ผิดคำสาบานต่อหน้าพระพุทธนั้น เป็นกรรมของeเห ยี่วเอง ให้ทำบุญมากๆ
เผื่อ กรรมจะตามไม่ทัน

ต่อมา ไม่ถึงเดือน ก็ได้รับการ์ดงานศพ eเห ยี่ว
พี่eเห ยี่ว ถึงแก่กรรมด้วยโรคปัจจุบันทันด่วน.............

อ่านแล้ว พิจารณาเองครับ
ถามศิษย์รุ่นเก่าๆ รู้จักพี่eเห ยีว กันทุกคน รู้ว่า สาเหตุที่พี่ท่านต้องจากไปก่อนวัยอันควร
เนื่องจาก การผิดสัจจะ ที่ให้ไว้

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:39 pm

เมื่อหลายปีก่อน ในช่วงเดือนเมษายน อากาศร้อน จะพยายามทำงานให้น้อยลง
บ่ายๆ ก่อนกลับบ้าน จะแวะไปกราบหลวงปู่ เพื่อทำความสะอาดกุฎิของท่าน ปัดตาด
รอบๆ กุฎิ นั่งเล่นกับหลวงปู่พอหายเหนื่อยก็จะลากลับ
แต่ก็ไม่เคยคิดว่า ตนเองเป็นศิษย์ใกล้ชิดกับท่าน หรือ เรียกว่า ศิษย์ก้นกุฎิ
เพราะวาสนายังไม่พอ ทุกครั้งที่มาวัด หากมีโยมแปลกหน้ามา ก็จะถอยห่างให้
เขาได้มีโอกาสเข้ากราบหลวงปู่ นั่งอยู่ห่างๆ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกเท่าที่จะทำได้

เคยได้ยินญาติโยมที่มากราบหลวงปู่ มาคอพระเครื่องบ้าง คำหมากบ้าง
และ ท่านก็สนองตอบทุกคนด้วยความเมตตา จนหลายๆคนเกิดความคุ้นเคย
ล่วงเกินถามหลวงปู่ว่า

หลวงปู่พระนี้? ป้องกันอะไรได้บ้าง

หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร ท่านมองหน้าและยิ้มด้วยเมตตา ตอบว่า

พระเครื่องของเรา กันได้หมดทุกอย่าง
ยกเว้น ปาก กันปากไม่ได้
( กันปากไม่ได้ หมายความว่า ห้ามมิให้เขาพูดไม่ได้ ห้ามมิให้เขานินทา ว่าร้ายไม่ได้
นอกนั้นป้องกันได้หมด )

ขี้คำหมาก เอาไปตากแดดตากแสงจันทร์ หรือที่ว่า 7 วัน 7 ราตรี
ผีก็กลัว เทวดาก็เกรงใจ อาวุธใดๆก็แคล้วคาด ปราศจากศัตรู

ท่านยืนยันของท่านได้อย่างนี้
และ เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่พระเนื้อผงของท่านแทบทุกรุ่น ผู้สร้างมักจะผสมคำหมากแห้ง
ของหลวงปู่ไม่มากก็น้อย ยิ่งพระปิดตารุ่นแรกพิมพ์กลม ที่ร้านเรืองชัยเภสัชสร้างถวาย
เป็นคำหมากแห้งล้วนๆ น่าสะสมยิ่ง เรื่องพุทธคุณ บอกแล้วครับ บินเดี่ยว

มีคำถามว่า ทำไม พระเครื่องของหลวงปู่จึงไม่แพงอย่างที่ควรเป็น
ตอบตรงประเด็นเลย เพราะคนสร้างถวายไม่มีเจตนาจะเอาพระเครื่องเหล่านั้นมาขาย
การสร้างแต่ละครั้ง จำนวนไม่น้อย มากพอที่จะแจกฟรี อย่างทั่วถึง

รูปหล่อรุ่นแรก ที่คณะศิษย์จัดสร้าง 1 ชุด มี
เนื้อ เงิน 1 องค์
นว 2 องค์
โลหะผสม 10 องค์

จองเพียง 1,000 บาท ( หนึ่งพันบาทถ้วน )
ปัจจุบัน เฉพาะเนื้อนวโลหะองค์เดียว ก็มากกว่าราคาจองเป็นสิบเท่าแล้ว

คณะศิษย์ที่สร้าง ล้วนเป็นผู้ที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่ และ ต่างมีฐานะมั่นคงพอ
พระที่ว่าหายาก เช่น พระกริ่งรุ่นแรก รูปหล่อรุ่นแรก หากสนิทสนมกัน และ ศรัทธา
ขอเฉยๆ ก็ให้กันได้ครับ

ยิ่งในช่วงท้ายๆมานี้ ทางขอนแก่นสร้างมาถวายให้บ่อย มาครั้งละเป็นหมื่นๆ องค์
แจกยังไงก็ทั่วถึง และ พอแก่ความต้องการ และ พระทุกรุ่น ท่านก็เมตตาให้ทุกครั้ง
ด้วยความเต็มใจ จะใช้ร่นไหนก็ไม่น่าจะแตกต่าง เพราะล้วนรับจากมือท่านทั้งสิ้น
นี่คืออีกปัจจัยหนึ่ง ที่เซียนพระไม่อยากเข้ามาเก็บพระเครื่องของท่าน ทั้งที่ตระหนักดีแก่ใจว่า

พระเครื่องของท่าน เป็นหนึ่ง ไม่เป็นรองใคร

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:40 pm

ช่วงวันเพ็ญเดือนสิบเอ็ด มีผู้คนหลั่งไหลไปดูบั้งไฟพญานาค
ศิษย์ที่มาจากต่างจังหวัด ก็มาแวะกราบและพักที่วัด
เลยเป็นที่ชุมนุมของศิษย์ของหลวงปู่จากสารทิศ

มีคนถามว่า หลวงปู่ หนองน้ำหนองใหญ่นี้มีพญานาคไหม?

หลวงปู่ตอบว่า " ไม่มี มีแต่เทวดารักษาอยู่องค์หนึ่ง อยู่ตรงโพ้นนั่น "

ต่อหน้าศิษย์จำนวนมากๆ หลวงปู่จะสอนไม่ให้เชื่อในสิ่งเหล่านี้
เช่น เรื่อง พญานาค เรื่องว่านกระจาย

เมื่อครั้งทำพระปิดตารุ่นสร้างอุโบสถ ถวายพระอาจารย์เจริญ
ช่างเอาพระมาส่งตอนเช้า ก็กะว่า ตอนสายๆ หน่อยจะไปถวาย
พระอาจารย์เจริญ
เสร็จภาระกิจเดินเข้าสำนักงานฯ เห็นทนายสุรสิทธิ์มานั่งรอ และ
บอกว่า หลวงปู่อ่อนสา ให้มาเอาพระที่สร้าง จะเศกช่วยพระเจริญ
ให้ท่านสร้างโบสถ์ให้แล้วเสร็จ
ขนหัวลุก เพราะการสร้าง นอกจากพระอาจารย์เจริญแล้ว ผมก้ไม่ได้
บอกใคร นอกจากแม่บ้าน แล้วท่านทราบได้อย่างไรว่า ผมสร้างพระถวาย
พระอาจารย์เจริญ เพื่อสร้างโบสถ์

เมื่อท่านเศกเสร็จ ก็ให้ทนายสุรสิทธิโทรฯมาบอกให้ไปเอาคืน
ถวายหลวงปู่อ่อนสาไปจำนวนไม่มาก ท่านบอกว่า จะเอาไปแจก ตชต
เรียนถามท่านเรื่องว่านกระจายว่า ท่านเคยสัมผัสมาบ้างหรือไมตอนที่ท่านธุดงค์

ท่านตอบว่า หลวงปู่มั่น ห้ามไว้ โดยให้เหตุผลว่า เป็นของเล่นของโยมเขา
หาใช่ทางหลุดพ้นไม่ จึง(แกล้ง) ไม่สนใจ พอตกตอนกลางคืน จะย้อนมาดูอีกที
ปรากฏว่า ว่านกระจายหัวนั้น ได้ถูกมือดี เอาไปก่อนเสียแล้ว

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:41 pm

พระเครื่องของหลวงปู่ที่ออกที่วัดป่าสีทน ว่าตามตรงแล้ว
วัดป่าสีทน กับ วัดป่าประชาชุมพล ก็ห่างกันไม่ถึงสามกิโล
และ หลวงปู่ก็เที่ยวไป เที่ยวมา อยู่เสมอๆ บ่อยครั้ง ตอนเย็นๆ
ท่านก็นั่งรถไปวัดสีทน เพื่อตรวจความเรียบร้อย
พระอาจารย์สุพิศ ก็ข้ามมาเอาอาหารแห้งจากวัดป่าประชาชุมพล
ไปวัดป่าสีทนเสมอๆ รวมทั้งพระเครื่องของหลวงปู่ด้วย จึงไม่มีการระบุ
ว่า สร้างถวายวัดป่าประชาชุมพล หรือ วัดป่าสีทน ครับ

มีรูปหล่อปั้มนี้แหละ ที่เรียกได้ว่า ออกมาเพื่อวัดสีทนสร้างรั้วโดยเฉพาะ
และ พระรุ่นที่คุณ LoveDad สอบถาม ท่านก็เมตตาให้ พร้อมพระเนื้อผงนาคปรก
สีเหลืองๆ ซึ่งท่านก็เมตตาแจกให้ครอบครัวผมมาจำนวนหนึ่ง

เยอะครับ หากไม่เลือกรุ่น พระเครื่องของหลวงปู่ทีศิษย์สร้างถวาย
มีหลายสิบรุ่น แต่ละรุ่นจำนวนไม่น้อย ยิ่งศิษย์ขอนแก่นสร้างแล้ว ไม่ต้องห่วง
มาแต่ละครั้ง เป็นหมื่นองค์

และ พระเครื่องที่ศิษย์ขอนแก่นสร้างถวาย จะเป็นพระเครื่องที่เข้ามาสู่ตลาด
พระเครื่องจำนวนมากที่สุด
ถ้าเป็นศิษย์อุดรสร้าง ไม่ค่อยเห็นเข้าตลาดพระ หรือ น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบ
กับของขอนแก่น และ จะเป็นที่ต้องการของศิษย์มากกว่าของขอนแก่น เพราะหาก
เป็นของศิษย์อุดร มักทิ้งไว้ให้ท่านเศกครั้งละเป็นพรรษา เป็นเดือนเป็นอย่างต่ำ

Re: หลวงปู่อ่อนสา

พุธ 25 ก.พ. 2009 10:42 pm

ผมเข้ามาอ่านกระทุ้ในห้องพระ ทุกวัน ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
แต่สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ มาแก้คำผิด และ ดูความเรียบร้อยเท่านั้น คือ
พยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุด จะได้มีเวลากับครอบครัว วันนี้ ก็ช่วยแม่บ้าน
ทำแจ๋วหลายสิบกิโล

อยากฟัง ก็จะเล่าต่อ

เหรียญยืนดังภาพข้างต้น เป็นเสี่ยหมู-อุดร ประกอบกิจการขายข้าวสารที่
ถนนหมากแข้ง เป็นคนสร้างถวาย มีหลายเนื้อด้วยกัน นับแต่เนื้อทองคำ เงิน
ทองแดง อัลปาก้า สวยครับ และ เจตนาการสร้างก็ชัดเจนคือ สร้างถวายให้ปู่แจกครับ

ย้อนกลับไปประมาณ ร่วม 18 ปี เห็นจะได้
วันนั้น เป็นวันคล้ายวันเกิดท่านผู้จัดการ สุรพงษ์ ศงสนันท์ ผู้จัดการ
ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด สาขาหนองบัว ( กราบขออภัยที่อ้างชื่อ ไม่ใช่นิยาย
แต่มีตัวตนสามารถสอบถามได้ทุกเมื่อ ปัจจุบัน เป็นผู้จัดการเขต อยู่ที่สาขาอุดรธานี)

เลยชวนกันมากราบ เพื่อทำบุญและ ขอพรจากท่าน ในที่เกิดเหตุ มี
ผม ทนายสุรสิทธิ์ และ คุณสุรพงษ์
นั่งคุยกับหลวงปู่สัพเพเหระุ อยู่นาน ทำบุญก็ำทำแล้ว น้ำมนต์ก็รดแล้ว
พรก็ได้แล้ว

ท่านผู้จัดการสุรพงษ์ จึงกราบขออนุญาต ขอถ่ายรูปกับหลวงปู่ไว้เป็นที่ระลึก
หลวงปู่ยิ้มด้วยอารมณ์ดีเสมอ แล้วท่านก็ลุกขึ้นยืนครองผ้าใหม่ให้เป็นระเบียบ
ท่านผู้จัดการส่งกล้องที่พึ่งได้มาใหม่ๆ เป็นของขวัญวันเกิดให้ผม ทำหน้าที่เป็นช่างภาพ

ผมก็เล็ง กดชัดเตอร์ ปับทันที กดไม่ลง
เอาแล้วซิ กดอีก ก็กดไม่ลง

หันกล้องไปทางอื่น แชะุ พร้อมแฟส สว่างโล้
หันมาทางหลวงปู่ กดอีกทีซิ มันคือจะโพดแท้

เหมือนเดิม กดอย่างไรก็ไำม่ลง

พลันหลวงปู่เปรยขึ้นว่า ให้เฮาครองผ้าก่อน

ท่านผู้จัดการสุรพงษ์ฯ รีบไปที่รถเก๋ง คว้ากล้องมาอีกอัน
ตอบว่า สงสัย กล่องใหม่ ยังไม่ได้ตั้ง เอาอันนี้ อันนี้ใช้ประจำ
ไม่มีปัญหา

มันไม่ีมีปัญหากับท่านผู้จัดการ แต่มันมีปัญหากับผม
คือ กดชัดเตอร์ไม่ลง หันหนีจากหลวงปู่ แชะ แฃะ ติด

อะไรของเขา

หลวงปู่ครองผ้าเสร็จ ท่านก็นั่งลงอย่างสงบ
ท่านผุ้จัดการก็รีบคลานไปนั่งปั้นจิ้ม ปั้นเจ๊อะ หน้าหลวงปู่
คราวนี้ กล้องทั้งสองอัน ราคาอันละหลายหมื่น ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
กดมุมไหน ก็ลง แฃะ และ แวป ทุกครั้ง

เฮาบอกแล้ว ให้เฮาครองผ้าก่อน ถ่ายไปวันหลังลูกหลานเห็น เขาจะตำหนิเอาได้
ว่าเป็นพระสงฆ์ องค์พระเจ้าครองผ้าไม่เรียบร้อย

นี่คือ คำพูดของหลวงปู่ หลังถ่ายภาพเสร็จ
ก้มลงกราบแทบเท้า ขนหัวลุก รีบคลานกลับ แล้วตรงดิ่งไปร้านทอง
ไปเอาพระของหลวงปู่ที่เลี่ยมทองไว้ มาขึ้นคอแทนองค์ใส่ตลับฟลุคทันที

ต่ีอมา ภาพดังกล่าวเมื่อได้ขยายใหญ่แล้ว ก็นำกลับมาให้หลวงปู่เมตตาให้อีกครั้งหนึ่ง
ถ้าจำไม่ผิด หลวงปู่จะเขียนว่า ให้ศงสนันท์ ไว้เป็นที่ระลึก
พร้อมลงลายมือชื่อหลวงปู่ และ อักขระประจำตัวของท่าน

เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน พอแก้ขัดสำหรับวันหยุด
ตอบกระทู้