Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

พุธ 24 ธ.ค. 2008 3:48 pm

อิอิอิ อาจารย์รณธรรมครับ ผมแอบไปเห็นบทความนี้อะครับเลยเอามาลงประกอบด้วยซะเลย จากที่นี่ครับ http://board.palungjit.com/showthread.php?t=68998
หมายเหตุ รูปประกอบนี้ผมแอบไปหยิบมาจากเว็บต่างๆ ครับ
------------------------------------------
01.jpg
01.jpg (16.9 KiB) เปิดดู 9428 ครั้ง
รุ่นแรกแห่งพระดี....ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล
วัดป่าสมบูรณ์ธรรม บ้านห้วยหิน ต.ป่าแดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก
โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์

03.jpg
03.jpg (118.31 KiB) เปิดดู 9425 ครั้ง
04.jpg
04.jpg (109.04 KiB) เปิดดู 9422 ครั้ง

ก่อนอื่นคงต้องกล่าวคำว่า “สวัสดีครับ” แก่ท่านผู้อ่านที่คุ้นหน้าคุ้นตากันมาก่อนแล้วหลายท่าน และขอเผื่อคำนี้ไปยังท่านที่เพิ่ง “เริ่ม” เห็นหน้ากันกับผมเป็นครั้งแรกในคอลัมน์นี้ ไม่อาจบอกได้ว่า หายไปเพราะเหตุใด แต่บอกได้เต็มปากว่า คิดถึงผู้อ่านทุกท่าน คิดถึงทีมงาน “ศักดิ์สิทธิ์” ทุกคน

นี่ออกจากใจจริง ๆ นะ

หวานไปไหม ?

หวานเกินไป ถ้าเป็นหมอก็คงจะบอกให้ลด เพราะเกรงจะเป็นเบาหวาน หากเป็นนักกีฬาอาจชอบใจ เพราะหวานนั้นให้ “พลังงาน” ดีนักแล

ฉบับแรกที่ COMEBACK ขอบังอาจกล่าวถึงพระเถราจารย์ที่ไม่ประสงค์จะเปิดตัว หากชอบอยู่สันโดษแต่ในป่าเขาลำเนาไพร ก็ศิษย์อย่างผมมันลิงดี ๆ นี่เอง ปิดท่านไว้ก็ได้กราบไหว้อยู่แค่เราคนเดียว ประสาลิงใจดีจึงขออนุญาตทำท่านให้เป็นที่รู้จักกันอีกสักที

ความจริงผมเคยเขียนถึงท่านพระอาจารย์สมบูรณ์มาแล้วครั้งหนึ่ง ใน "ศักดิ์สิทธิ์” เช่นกัน แต่จะฉบับที่เท่าไร ปีอะไรก็เลือน ๆ ไปเสีย จำได้เพียงว่าเขียนไปแล้วก็ไม่กล้าไปวัดนานนับเดือน เสียวสันหลังว่า ท่านจะได้เห็นข้อเขียนของผม แล้วจะมีกระโถนเหาะเป็นรางวัล หาใช่ “ซีไรท์” อย่างที่ใคร ๆ เขาได้ไม่

แล้วก็เป็นจริงดังสังหรณ์

ไม่รู้สานุศิษย์คนใดของท่าน (บังอาจ) นำหนังสือ “ศักดิ์สิทธิ์” ฉบับ “ไดนาไมท์” ไปถวายท่านอ่าน และไม่รู้ว่าศิษย์คนใด (บังอาจอีกครั้ง) บอกไปได้ว่าผมคือคนเขียน เมื่อข่าวอันตรายนี้เข้าหูผม ผมก็ยิ่งเก็บตัวไม่ไปหาท่าน เพียงรู้เลา ๆ ว่าท่านมาชลบุรี ผมยังรีบเก็บบริขารหนีไปต่างจังหวัด (ทั้งที่ตัวเองก็ต่างจังหวัดอยู่แล้ว)

หลบอยู่อย่างนี้ราว 6 เดือน รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขบวนการกู้ชาติหรือกองโจรอะไรสักอย่าง กระทั่งแน่ใจว่าเรื่องชักเงียบ จึงตัดสินใจออกจากป่าเข้ามอบตัว กล้าบุกไปกราบท่านถึงในวัด ตัดใจแล้วว่าตายเป็นตาย ปลอบตัวเองว่า ท่านเป็นพระ ท่านไม่ฆ่าเราหรอกน่า อีกอย่างเรื่องก็นานเนป่านนี้ท่านคงลืม และ “ศักดิ์สิทธิ์” ฉบับนั้นคงหายสาบสูญ

ไปถึงกุฏิก็ตรงเข้ากราบ ท่านมองหน้าแล้วยิ้มพร้อมเปรยว่า หายไปไหนนานนัก ไม่มาวัดเลย ผมก็ยิ้มพลางคิดว่า ท่านลืมแล้วจริง ๆ จากนั้นท่านก็หันไปข้าง ๆ หยิบอะไรบ้างอย่างขึ้นมาถือไว้

หนังสือศักดิ์สิทธิ์

อะไรจะ “ศักดิ์สิทธิ์” สมชื่อ ครึ่งปีแล้วยังสถิตสถาพรอยู่ที่วัดอีก ท่านเปิดหน้าที่เป็นเรื่องของท่าน แล้วชี้หน้าผมเบา ๆ หากไม่ปรากฏรอยยิ้มอย่างเอ็นดู (ลูกแมวลูกหมู) บนใบหน้าท่าน ผมคงโคม่าอยู่ตรงนั้น

ชัดเจนว่าการเขียนครั้งนั้นไม่กระทบกระเทือนวัตรปฏิบัติของท่านนัก เพียงมีคณะศรัทธาเดินทางมาจากจังหวัด และภาคต่าง ๆ เข้ากราบขอฟังธรรมจากท่านมากมาย ท้ายที่สุดบางคนก็ขอของมงคลติดมือกลับบ้านไปเพื่อเป็นกำลังใจในการดำรงชีวิต ผมสบายใจ...สบายที่ได้แนะนำพระภิกษุดีให้คนกราบไหว้เอาบุญ สบายที่ได้เห็นคนปฏิบัติธรรมภาวนา อันเกิดจากเทศนาของท่าน และสบายที่ได้ยินว่า คนนั้น...คณะนั้น...หมู่นั้น...รถคว่ำไม่เป็นอะไร...ถูกยิงไม่เข้า...หมากัดไม่เข้า...นิรันตรายโดยอำนาจแห่งเครื่องมงคลของท่านอาจารย์ที่อยู่ในคอ

ผมก็เอาดีได้แค่นี้แหละ

สมัยหนึ่งที่วัดป่าสมบูรณ์ธรรม มีครอบครัวสามีภรรยาชาวบ้านที่เข้ามาช่วยงานวัดอยู่เป็นประจำ อาศัยที่ฝ่ายหญิงมีชื่อว่า “จ๋า” พวกเราจึงพากันเรียกว่า “แม่จ๋า” และเรียกสามีว่า “พ่อจ๋า” ร้องเรียกกันบ่อยเข้า เลยดูคล้ายพวกเราเป็นลูกแหง่ ตะโกนหาพ่อหาแม่อยู่ในวัด น่าเอ็นดู ผู้ผัวจะขับรถของวัดถวายท่านอาจารย์ไปในงานนิมนต์ต่างๆ ยามว่างก็ถางหญ้า ก่อปูนซ่อมเสนาสนะไปตามเรื่อง ผู้เป็นเมียก็ทำภัตตาหารเช้าบางอย่างถวายพระ-เณร เก็บกวาดทำความสะอาดโรงครัว และรอบบริเวณ ครั้นพระ-เณรฉันภัตตาหารแล้ว “พ่อจ๋า” ก็จะนำอาหารที่เหลือกลับไปรับประทานต่อที่บ้านประสาจน

โดยเฉพาะข้าวก้นบาตรท่านอาจารย์

หากกินเหลือเมื่อใดก็จะนำข้าวนั้นไปให้สุนัขที่เลี้ยงไว้ 3 ตัวกินเป็นที่สุดท้าย ทำอยู่อย่างนี้นับเดือน นับปี วันหนึ่งขณะแกทำธุระอยู่บนเรือน ได้ยินเสียงหมาที่เลี้ยงไว้เห่ากรรโชก แล้วตามด้วยเสียงไก่ร้องดังลั่นไป ครั้นแกวางธุระออกไปดูก็พบว่า ไก่หลายตัวถูกหมาที่เลี้ยงไว้กัดตายเรียบ

โทสะพุ่งพรวดทันที เพราะไก่เป็นสัตว์เศรษฐกิจของคนจนเช่นเขา ไข่ออกมาก็กินได้ ตัวของมันก็กินได้ แต่หมา...กินไม่ได้ ! คิดแล้วก็วิ่งกลับเข้าไปในเรือน คว้าปืนยาวคู่ใจที่ออกล่าสัตว์มานักต่อนัก เล็งเข้าที่หมาที่นอนประกาศศักดาอยู่ข้างซากไก่

แล้วกด “เปรี้ยง” ลงไป

พ่อจ๋าเดินยิงหมา 3 ตัวรอบบ้าน ด้วยลูกปืนทั้งสิ้น 7 นัด เมื่อเห็นหมาบักด๊อกล้มตายเรียบ โทสะก็จางลง คิดว่าเลี้ยงดูกันมาก็หลายปี จะปล่อยให้มันนอนตายอย่างหมาข้างถนนก็ใช่ที่ เลยตกลงใจจะฝังให้มัน ว่าแล้วก็เดินตรงเข้าไปจับขาหมาเพื่อลากไปฝัง

ทันทีนั้น ศพหมาก็ลุกพรวดพราดขึ้นวิ่งหนีไปต่อหน้าต่อตา พ่อจ๋ายืนงง เห็นเป็นอัศจรรย์อย่างกับเจอพระนารายณ์เหาะลงมา เท่านั้นไม่พอ หมาอีกสองตัวยังลุกขึ้นวิ่งไล่กันไปคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น กว่าจะหายจากตะลึง และทำใจได้ก็เป็นนาน จึงตะล่อมเรียกหมาทั้งสามเข้ามาดู พบเพียงรอยจ้ำของกระสุนปืน และขนที่หลุดกระจุยไปตามแรงกระสุน

แต่หาเข้าไม่ !

นี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้สุนัขทั้งสามไม่ตาย แต่อะไรเป็นสาเหตุให้ยิงไม่เข้า พ่อจ๋าคิดไปคิดมา ก็นึกได้ว่า เขาเลี้ยงหมาทั้งสามตัวด้วยข้าวก้นบาตรของท่านพระอาจารย์สมบูรณ์อยู่เป็นประจำ หากมิใช่สิ่งนี้บันดาลให้เป็นไป ก็ไม่อาจหาเหตุผลใดมายืนยันได้ถึงความ “เหนียว” ของหมา แกจึงบึ่งมาวัดและกราบเรียนให้ท่านทราบทันที ครั้งที่ผมไปวัดและท่านเปรยเรื่องนี้ให้ฟัง ผมแจ้นไปสอบถามรายละเอียดเรื่องนี้กับพ่อจ๋า แกก็ยินดีเล่าให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง พลางเดาะปากเรียกไอ้ตัวตายยากทั้งสามที่วิ่งกระดิกหางอยู่ในวัดมาให้ผมดูรอยลูกปืนใกล้ ๆ

เห็นแล้วขนลุก

ร่องรอยที่เหลืออยู่ทำให้ผมเชื่อสนิทใจว่า ปืนจริงไม่ใช่หนังสติ๊ก แล้วโม้ว่าปืน หมู่คณะที่เป็นทั้งครูและตำรวจต่างตื่นเต้นไปกับเรื่องดังกล่าว แล้วจบลงด้วยการแย่งกันกินข้าวก้นบาตรของท่านพระอาจารย์กันโกลาหล

เอาน่า เหนียวอย่างหมา ดีกว่าตายหยังเขียด

ฉะนั้น พระผงรุ่นของท่านอาจารย์จึงต้องมีข้าวก้นบาตรที่ท่านพิจารณาแล้ว ฉันเหลือแล้วมาเป็นส่วนผสมอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นประกันได้เลยว่า “เหนียว” นี่อย่างหนึ่งละ อุดปืนแคล้วคลาด โชคลาภ เมตตา ไปหาเอาตอนเสกอีกที

วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2543 เป็นวันที่สำคัญยิ่งสำหรับศิษย์เช่นเรา เพราะท่านอาจารย์มีชนมายุครบ 5 รอบ คือ 60 ปี เป็นอะไรที่ศิษย์ทั้งหลายปีติยินดีที่ท่านอาจารย์อยู่มานาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับเรา

ผมล่ะปีติยิ่งกว่าใคร

แผนในใจที่มีมานานคือ การทำเหรียญรุ่นแรกนี่แหละ รอแต่วันมหามงคลเช่นนี้จะมาถึง สุ่มสี่สุ่มห้าทำ ท่านจะว่าไม่รู้จักกาลเทศะ บัดนี้ทุกอย่างพร้อม ท่านจะปฏิเสธเช่นไรได้ ว่าแล้วก็แอบซุ่มสุมศีรษะทำกันโดยไว เคยกราบเรียนท่านอาจารย์ถึงการทำเหรียญรุ่นแรก ท่านว่า ไม่ควรทำ เพราะอายุท่านยังน้อย ครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ก็ยังอยู่ แค่เป็นรูปถ่ายใบเล็ก ๆ ก็พอแล้ว

ผมจึงกราบเรียนว่ารูปถ่ายจะใหญ่หรือเล็ก ก็เป็นรูปท่านอยู่ดี เพียงปรากฏอยู่บนกระดาษ ซึ่งมันไม่มีความคงทน ส่วนเหรียญทองแดงก็แค่รูปท่านเหมือนกัน เพียงปรากฏอยู่บนโลหะแทนกระดาษ ซึ่งมีความคงทนถาวรกว่าเท่านั้นเอง เรียนท่านไปดังนี้ท่านก็เงียบ ยิ้มน้อย ๆ เฉยอยู่ ผมโมเมในใจว่าเฉยก็รับนิมนต์น่ะแหละ พระพุทธเจ้าท่านทำแบบนี้เหมือนกัน เป็นที่รู้ว่าพระองค์ตอบรับ

กลับมาทำทันที

นายช่างประหยัด ลออพันธุ์สกุล หรือช่างอ๊อด มือเทวดา เป็นเป้าหมายสำคัญในการแกะบล็อก ยกแต่ช่างเกษม มงคลเจริญ แล้ว ผมมองไม่เห็นใครจะสรรค์สร้างงานเหรียญได้เช่นนี้อีก พี่อ๊อดที่แสนดีก็กรุณาเร่งมือให้เป็นระวิงทั้งที่งานเก่าก็ค้างอยู่มิใช่น้อย กว่าจะแล้วเสร็จใช้เวลาถึง 1 ปีเต็ม แต่ผมคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว จึงไม่เป็นปัญหาอะไร ขบวนเรามารับเหรียญที่บ้านพี่อ๊อดแล้วรีบเดินทางขึ้นวัดในค่ำวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2543 ตรวจนับเหรียญแล้ว ได้สมคำรับรอง ปรากฏเนื้อโลหะ ดังนี้

1. ทองคำบริสุทธิ์ หนักเกือบ 2 บาท จำนวน 5 เหรียญ

2. เงินบริสุทธิ์ จำนวน 50 เหรียญ

3. ทองแดงรมมันปู จำนวน 10,000 เหรียญ

เราไปถึงวัดในตอนเช้ามืด ท่านอาจารย์เพิ่งเสร็จจากการเดินจงกรม และกำลังนั่งภาวนาอยู่ในกุฏิ ผมกับคุณชัยชนะ สันทัดกิจการ แห่งบริษัทโพรเพท สิงห์บุรี เลยแอบคุยกันเบา ๆ อยู่ไม่ไกล พักใหญ่ท่านก็กระแอมเสียงขึ้นคล้ายเป็นสัญญาณให้ เราสองคนจึงเข้าไปเคาะประตูกุฎิเบา ๆ ท่านก็ให้เข้ามา ครั้นกราบเรียนท่านแล้ว จึงเรียกหมู่คณะมาช่วยกันยกลังพระเข้าไปถวายท่านถึงที่นอน ท่านดูเหรียญแล้วหัวเราะพลางว่า

“ไปทำมาจนได้นะ”

พิจารณาอยู่พักใหญ่ ท่านก็บอกกับพวกเราว่า “ไป...ไปรอข้างนอกก่อน เราจะทำให้เดี๋ยวนี้” ผมจึงเรียนว่า “เอาทุกอย่างเลยนะครับท่านอาจารย์ โดยเฉพาะมหาอุดหยุดลูกปืน เพราะสมัยนี้อันตรายมันเยอะ” ท่านก็ขำไปเท่านั้น

ผมออกจากกุฎิเป็นคนสุดท้าย ปิดประตูล็อกแล้วดูนาฬิกา ท่านดับไฟฉาย และสงบจิตลงสู่องค์ภาวนาในเวลา 06.04 น. นิ่งสนิทอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานทีเดียว แล้วท่านก็กระแอมขึ้นอีกครั้งเป็นสัญญาณในเวลา 06.30.น. รวมเวลา เสกก็ 26 นาที

เป็น 26 นาทีที่เหลือเฟือ

นายตำรวจใน สภ.อ.ชาติตระการหลายคนได้รับเหรียญนี้ไป และพกติดตัวออกไปยิงนกตกปลากับเพื่อนกลับมาเล่าลือกันถึงความแปลกประหลาดของเหรียญรุ่นนี้ว่า หากวันใดพกพระนี้ไปล่าสัตว์จะไม่เคยได้เลยแม้แต่ชนิดเดียว ถึงที่สุดต้องนำกลับมาไว้บ้านก่อน จึงจะประสบความสำเร็จ เห็นเป็นอัศจรรย์ในข้อที่ว่า ท่านอาจารย์ไม่ประสงค์ให้คนทำบาป หนำซ้ำบางคนเจอกระต่ายป่า แต่ปืนกลับยิงไม่ออก ทั้งที่ตนแขวนเหรียญท่านอยู่กับตัวไม่ใช่กระต่ายแขวนเสียเมื่อไร

นี่ก็ตำรวจ แต่เป็นใน สภ.อ.เมืองชลบุรี ชื่อ จ.ส.อ. ชัยชาญ สุวรรณจิระ เล่าว่าได้รับเหรียญนี้ไปจากคนรู้จัก คือ คุณจรินทร์ เหล่ารินทอง ผู้ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งของท่านอาจารย์ บรรยายสรรพคุณต่าง ๆ ให้ฟังอย่างศรัทธาถึงขีด จ่าชัยชาญผู้ไม่เคยพบเจอท่านอาจารย์เลยอดไม่ได้ที่จะสงสัย และเลยไปถึงไม่เชื่อ หากรับเหรียญไว้โดยน้ำใจ

วันหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์ตรวจไปถึงศรีพโล เลยวัดเขาบางทรายไปหน่อยก็เกิดความคิดอยากทดลองดูว่า ดีสมคำคุยหรือไม่ จึงชักชวนเพื่อนตำรวจที่ซ้อนไปด้วยกันให้หาทำเลในป่าเหมาะ ๆ แขวนเหรียญท่านอาจารย์ไว้กับกิ่งไม้ แล้วเล็งด้วยปืน .38 ที่พกอยู่กับตัวนั่นแหละ บรรจงยิงอย่างตั้งใจ

แชะ !

ปืนคู่มือที่ซ้อมยิงกันออกบ่อยครั้งกลับทรยศเอาดื้อ ๆ คุณจ่ามองหน้าเพื่อนร่วมงานแล้วรวบรวมกำลังใจเล็งใหม่อีกที

แชะ !

ครั้งนี้จ่าหนุ่มวางปืนลงกับพื้น แล้วก้มกราบทันที เกิดมาไม่เคยพบเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ปืนคู่ใจตั้งแต่ใช้มาไม่เคยเป็นอย่างนี้ กระสุนก็จานท้ายบุบด้วยแรงนกปืนสับ หาใช่บังเอิญไม่ คิดได้ทางเดียว ไม่มีทางอื่น

ปาฎิหาริย์มีจริง

สองตำรวจจึงแขวนเหรียญนี้ติดตัวเสมอ ส่งผลให้ตำรวจในเมืองชลฯ ถามหาเหรียญนี้กันเป็นจ้าละหวั่น ผมเดินตัวลีบ ดีที่ไม่ค่อยรู้จักกับตำรวจ

คุณจรินทร์ถามถึงการยิงเพียงสองนัดกับจ.ส.อ.ชัยชาญว่า ทำไมไม่สามนัด จ่าตอบว่า “โอ๊ย ! สองนัดไม่ออกก็เห็นผลแล้ว ขืนยิงนัดที่สามแล้วปืนเกิดแตกอย่างที่เขาพูดกัน ผมก็แย่เท่านั้น ไหนจะเจ็บตัว ไหนจะปืนหลวง” ก็จริงของเขา

ที่จริงเฉพาะเหรียญนี้เมื่อแจกจ่ายออกไปปรากฏประสบการณ์มากมาย เล่ากันไม่ไหว เหตุที่กล้าเขียน เพราะไม่เคยคิดเชียร์ ไม่เคยมีผลประโยชน์กับใคร โดยเฉพาะเครื่องมงคลของท่านอาจารย์ ไม่เคยที่สร้างมาเพื่อให้เช่าบูชา มีแต่แจกกับฟรี

ดังนั้นถ้าใครเคยกราบท่าน ครั้นฟังธรรมะแล้วลองเลียบเคียงดูเถิดอาจสมหวัง แม้ท่านอาจารย์จะไม่สนับสนุนในเรื่องของขลัง แต่ก็ใช่ว่าท่านจะรังเกียจอะไร เพียงดูเวลา และสถานที่สักหน่อยเถิด ที่สำคัญเหรียญรุ่นนี้ ใครรับกับท่านตอนนี้ก็เท่ากับท่านเสกมา 3 ปี แล้วหนา เพราะท่านทำของท่านทุกวัน

แต่ถ้าท่านผู้อ่านกับผมมีวาสนาได้เจอกัน ผมจะแจกให้คนละเหรียญทันทีเลยเอ้า !

หมายเหตุ : ท่านที่อยู่นนทบุรี สนามบินน้ำ ติดต่อรับเหรียญได้ที่ คุณชัยชนะ สันทัดกิจการ (คุณบิ๊ก) บริษัท TCK. ท่านที่อยู่พระโขนงบางจาก คลองเตย ติดต่อได้ที่คุณคุณานันต์ กนกธร ร้านภูมิจิตรเภสัช ซ.ภูมิจิตร ถ.พระราม 4 ฟรีทั้งนั้นครับ...
------------------------------------------
อ่านจบก็ชวนคิด ส่งจิตส่งใจไวไวไปหาอาจารย์รณธรรม คิดหวังเอาว่า ส่งโทรจิตผนวกกับโพสต์ไปนี่จะถึงอาจารย์รณธรรมมั้ยน้อ :smk: เผื่อจะได้เหรียญนี้เป็นของขวัญปีใหม่กับเขาบ้าง :D :D :D เหรียญนี้แม้จะสร้างล่วงเลยมานานแล้วตั้งแต่ปี 2543 แต่ว่า อันตัวเราที่อยู่ฝั่งธนบุรีจะไปรับฟรีได้ที่ไหนน้อ...คิด คิด คิด :smk: :smk: :smk:

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

พุธ 24 ธ.ค. 2008 4:24 pm

แหม ถูกใจข้อย หล้าย หลายยย

ขอบคุณอ้าย(พี่)จิ้งจกหลายๆเด้อฮะ ที่อุตสาห์หาเรื่องนี้ มาให้หมู่ได้เบิ่งเป็นบุญตา

มักหลายๆเด้

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

พุธ 24 ธ.ค. 2008 4:49 pm

เด็กลึกลับว่า ผมจะได้ของขวัญปีใหม่จากอาจารย์รณธรรมมั้ยเนี่ย (อันนี้นี่ด้านหน้าถามกลายๆ :oops: :oops: :D :D :D เราถือคติด้านได้อายอด)

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

พุธ 24 ธ.ค. 2008 5:14 pm

ได้แน่ๆฮะ

แต่จะได้อะไรน่ะสิฮะ นั่นเป็นอีกเรื่องที่เป็นประเด็นร้อน :vvhpy:

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

พฤหัสฯ. 25 ธ.ค. 2008 8:19 am

ผมว่าจะไปรับที่ชลบุรีเลยดีกว่าครับ รับรองได้ชัวร์ :ilu:
แต่จะเป็นอะไรนั้นคงต้องลองดู...........
:vvhpy:

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

พฤหัสฯ. 25 ธ.ค. 2008 8:44 am

พี่ต่อครับ เมตตาให้น้องคนนี้สักองค์นะครับ

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

ศุกร์ 26 ธ.ค. 2008 11:31 pm

ท่านใดอยากได้จริง ๆ เพราะมีศรัทธาในองค์ท่านพระอาจารย์

กรุณาลงชื่อไว้เลยครับในกระทู้นี้ แล้วผมจะขอให้คุณอู๊ดดี้จัดส่งให้ แต่ก่อนอื่นคงต้องขอให้เว็บมาสเตอร์ยกเรื่องราวของท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ขึ้นไปตั้งเป็นเรื่องใหม่อีกหนึ่งเรื่องแล้วล่ะครับ

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

ศุกร์ 26 ธ.ค. 2008 11:39 pm

:ilu:
น้องลงชื่อคนแรกเลยฮับ...ที่มาลงนี่ไม่ใช่อยากได้นะฮับ
แต่...."อยากได้มากฮับ" :vvhpy:

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

เสาร์ 27 ธ.ค. 2008 1:10 am

ลงชื่อต่อจากแขกดอย เอ้ย เด็กยอดดอย เป็นคนที่ 2 ครับผม

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

เสาร์ 27 ธ.ค. 2008 1:14 am

:lol: :lol: :lol:

พวกคุณนี่ฮากันจริง ๆ

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

เสาร์ 27 ธ.ค. 2008 5:53 pm

ไม่พลาดคับ ขอลงชื่อด้วยคนคับ

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

เสาร์ 27 ธ.ค. 2008 9:38 pm

ลงชื่อเป็นคนที่ 4 ครับผม
ขอบคุณพี่ต่อ และคุณอู๊ดๆครับ

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

อาทิตย์ 28 ธ.ค. 2008 12:24 pm

ขอลงชื่อเป็นคนที่ 5 ครับ :pry:

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

อาทิตย์ 28 ธ.ค. 2008 1:15 pm

ขออนุญาต ร่วมรับเหรียญ หลวงพ่อสมบูรณ์ ไว้บูชาด้วยครับ ถ้ายังพอมีนะครับ

ขอขอบคุณ

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

อาทิตย์ 28 ธ.ค. 2008 1:19 pm

หากได้รับมาเมื่อไหร่จะมาแจ้งให้ทราบครับ ช่วงนี้งานเข้าเยอะครับ อาจใช้เวลานิดนะครับ ขอโทษทุก ๆ ท่านด้วยคร้าบบบบบ

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

อาทิตย์ 28 ธ.ค. 2008 10:36 pm

ขอบคุณครับพี่อู๊ดๆ

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

จันทร์ 29 ธ.ค. 2008 8:23 am

ลงไว้อีกครั้งครับ กันเหนียว (1องค์) ขอบพระคุณครับ

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

จันทร์ 29 ธ.ค. 2008 7:42 pm

ขอบคุณมากครับกับบทความดีดี :grt:

อ่านแล้วคิดถึงหลวงพ่อจัง ปีนี้ไม่ได้ขึ้นไปกราบท่าน รู้สึกเสียดายมั่กๆ :sck:

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

พุธ 31 ธ.ค. 2008 9:07 pm

ขอด้วยครับแต่หลายเหรียญหน่อยได้ป่าวครับ
:rbb:

Re: ท่านพระอาจารย์สมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม จ.พิษณุโลก

พฤหัสฯ. 01 ม.ค. 2009 3:31 am

รับทราบทุกท่านครับ กติกาเดิมครับ ค่าจัดส่ง 50 บาทจร้า


ส่วนของ อ. bon รับหลายเหรียญ รบกวนติดต่อ อ.รณฯ โดยตรงนะครับ :mrgreen: :mrgreen:
ตอบกระทู้