ถึงครา "ปราชญ์แผ่นดิน" กู้แผ่นดิน
เสาร์ 29 ต.ค. 2011 1:07 am
ถึงครา "ปราชญ์แผ่นดิน" กู้แผ่นดิน
เปลว สีเงิน 28 ตุลาคม 2554 - 00:00
ดีครับ...ดี ผมเห็นด้วยที่ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ประกาศ "ไม่ย้าย ศปภ.หนีน้ำจากดอนเมืองเด็ดขาด "จะปักหลักอยู่ตรงนี้ อยู่เพื่อช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องก่อน ส่วนอยู่ตรงนี้ช่วย กับหนีน้ำที่ไล่ล่าไปอยู่ที่อื่นช่วย มันต่างกันตรงไหน ผมเดา "ความคิดลึกซึ้ง" ของเธอไม่ถูก?
แต่ในเมื่อ "ทุกบทผู้นำ" ที่เธอแสดงออกไปล้มเหลวหมด บางที บท "ลอยคอให้สัมภาษณ์" อาจได้คะแนนสงสารจากคอ "ละครหลังข่าว" ได้บ้างกระมัง
อย่างน้อยที่บอก "ไม่ท้อค่ะ..." กับนักข่าววานนี้ (๒๗ ต.ค.) ด้วยเสียงเครือ น้ำตาคลอ ในอิริยาบถคิกขุอาโนเนะ หลายคนหน้าจอถึงกับถอนหายใจ และเคลิ้มถึงคราง...ทำได้น่ารักเหมือนอั้ม เหมือนชมพู่ เหมือนพลอย
และเหมือน...ตุ๊กกี้!
บอกตรงๆ ผมเห็นใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะไพร่เหล่านี้ ทักษิณไม่ได้ออกแบบให้มาทำหน้าที่ "กุมภกรรณทดน้ำ" หากแต่ออกแบบให้มาทำหน้าที่ "เอาทักษิณกลับบ้าน-แก้รัฐธรรมนูญ-ผลาญงบประมาณ" ด้วยเป้าหมาย
เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน เพื่อ "แดงทั้งแผ่นดิน"!
แต่อย่างว่า "คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต" ยิ่งลักษณ์กับคณะไพร่ต้องเจอ "มวลน้ำก้อนใหญ่" เตะตัดเขาถึงพัง ถึงเสียผู้-เสียคน กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง และขณะนี้ด้วยมวลน้ำก้อนใหญ่ ไม่ว่ายิ่งลักษณ์หรือยิ่งเลอะคนไหน ไม่ว่าใส่วิกหรือไม่ใส่เสียงระส่ำบอกชาวบ้านไปในทำนองเดียวกัน
"จนปัญญาไพร่...ตัวใคร-ตัวมันโว้ย!"
ทุกการตัดสินใจแก้ปัญหาวิกฤติน้ำ จากเอาอยู่ค่ะ มาถึงไม่ท้อค่ะ จนหลังกระแทกฝาสารภาพ ท่วมทั้งกทม. สุดแต่เวร-แต่กรรมของใคร-ของมันแล้วค่ะ
การมาถึงวันนี้ จะทำด้วยความดึงดันถือดี จะด้วยทักษิณสั่งให้กอดอำนาจไว้ จะด้วยทระนงในศักดิ์ศรีผู้นำ หรือจะด้วยไร้เดียงสาก็ตาม มันเรื่องของท่าน เรื่องของพวกไพร่ได้อำนาจถล่มเมืองก็จริง แต่ผมอยากให้ใคร่ครวญด้วยจิตใต้สำนึกไว้ข้อหนึ่งว่า ทุกเหตุผลของท่านนั้น ใช่-ไม่ใช่ ท่านรู้อยู่กับใจ แต่ลองทบทวนซักนิดซิ...ผลจากการใช้อำนาจนายกฯ "บริหาร-จัดการปัญหา" ครั้งนี้นั้น
มันอยู่ในสภาพ "หมอตอนควายมาผ่าตัดหัวใจประเทศ" หรือเปล่า?
ดังนั้น อย่าดื้อดึง ถืออำนาจด้วยแอบจิต ผมเห็นเชิญผู้ชำนาญการด้านน้ำหลายต่อหลายท่านไปให้คำแนะนำ ท่านมีอำนาจสั่ง แต่ผมไม่แนใจว่า ท่านมีอำนาจให้คนรัฐบาล นปช.ทำตามสั่งได้ขนาดไหน?
จนเวลานี้ ในวอร์รูมที่ ศปภ.เห็นเหลือแต่ "พี่เลี้ยงคุณหนู" ที่พี่ชายส่งมาประกบเป็นหู-เป็นตา ยืนหน้าเหลือ ๒ นิ้ว มองแผนที่ตามนิ้วยิ่งลักษณ์จิ้ม ทำเป็นเครียด สั่งการ-วางแผนปราบน้ำให้ถ่ายรูปออกโทรทัศน์ไปวันๆ
ทำไม...ทำไม...ประเทศไทยของเราถึงตกต่ำขนาดนี้!?
เมื่อฝากข้อคิดนายกฯ แล้ว ก็อยากจะฝาก "ผู้รักและห่วงใย" ประเทศชาติทั้งหลายไว้ด้วย ขณะนี้กรุงเทพฯ ถือว่าวิกฤติขั้นเป็น-ตายในสงครามน้ำถล่มกรุงแล้ว กรุงเทพฯ คือประเทศไทย-ประเทศไทยคือกรุงเทพฯ ดังนั้น...
โปรดอย่าทอดธุระ โดยปล่อยให้ไพร่ไร้เดียงสาทั้งหลายพาประเทศไปตายเลยครับ!
ผมไม่ได้หมายถึงให้ใครมาไล่ มายึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ผมหมายถึง "ปราชญ์แผ่นดิน" ผู้รักและห่วงใยประเทศ "ควรรวมกันเป็น" สถาบันประชาชนกู้วิกฤติชาติ "ยื่นมือไปให้นายกฯ หญิงที่ลอยคออยู่กลางน้ำเกาะเถิด เพราะผมสังเกตว่า
"เธอจนตา-จนแต้ม ใกล้จมแล้วจริงๆ"!
จะปล่อยให้เธอจมน้ำไปกับอำนาจของเธอเอง มันก็ได้ แต่...ไม่แค่ "หญิงโคลนทักษิณ" จะจมหายไปโดยลำพัง หากแต่ด้วยฐานะผู้นำบริหารประเทศของเธอ พวกเราทุกคน ทั้ง ๖๓ ล้านคน รวมทั้งอนาคต "ประเทศไทย" มันจะมืดมนจนไม่เห็นทางแก้ด้วยนี่ซี ตรงนี้แหละ...สิ่งที่ผม "ชั่งน้ำหนัก" แล้วเห็นว่า ปราชญ์แผ่นดินทุกสาขา จำเป็นต้องออกมารับภาระ "ช่วยกันยก-ช่วยกันอุ้ม" ประเทศ ในสถานการณ์นี้! จะแดง จะดำ จะเขียว จะเหลือง จะดี จะเลว "ยกไว้ก่อน" ในเฉพาะหน้านี้ ช่วยกันเป็นขอน ให้สติ-ให้ทาง เป็นพี่เลี้ยงให้เธอพยุงเกาะ "เอาอนาคตชาติ-ชีวิตประชาชน" รอดก่อนเถอะ
คุยทุกวัน ผมก็หมดเรื่องคุย ยิ่งฟัง "ธงทอง จันทรางศุ" โฆษกตัดผุ ศปภ. "แถลงการณ์ด่วน" ผ่านทุกช่องตอน ๓ ทุ่ม...โอ้...นี่มันเข้าขั้นบ้านแตกสาแหรกขาด บ้านเมืองต้องพินาศเข้าสู่ "กลียุค" จริงๆ หรือนี่?
มือผมล้า-ตีนผมอ่อนครับ อ่านข่าว "ฉลอง ภาค ๒" จากกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ เมื่อวาน (๒๗ ต.ค.๕๔) ดีกว่าครับ
นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ออกมาระบุว่าคนเสื้อแดงไม่ใช้อภิสิทธิ์รับของบริจาคช่วยน้ำท่วมว่า เรื่องนี้ถ้าโปร่งใสจริงควรทำบัญชีแจกแจงการบริจาคให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดความสบายใจต่อผู้บริจาคและเพื่อกระจายสิ่งของไปให้ถึงประชาชนอย่างทั่วถึง
ส่วนกรณีที่คนเสื้อแดงจะจัดงานในวันที่ 29 ต.ค. เพื่อระดมเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั้น นายฉลองกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าไปตั้งโต๊ะรับบริจาคที่แยกราชประสงค์ และอยากรู้ว่าจะมีคนมาเป็นหมื่นหรือไม่ ซึ่งหากมาจริง บริจาคแค่คนละ 100 บาท ก็น่าจะได้เงินเป็นล้านบาทแล้ว
"ผมจะดูว่าจะมีคนเสื้อแดงมา โดยที่ไม่มี ส.ส.จัดหรือขนมาหรือไม่ ทั้งนี้ หากวันนี้ยังมั่นใจในกระแสของคนเสื้อแดงเรียกว่า แดงทั้งแผ่นดิน ว่ามีเยอะจริง การเลือกตั้งใน กทม.หลายเขตคงไม่สอบตกอย่างนี้"
"ผมขอท้าเลยว่า การเลือกตั้งสมัยหน้าถ้าแน่จริง ทั้งนายณัฐวุฒิ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ควรลงสมัคร ส.ส.เขต จะที่นนทบุรีหรือใน กทม.ก็ได้ จะได้รู้ถึงความนิยม อย่าหนีลงอันดับต้นๆ ในระบบบัญชีรายชื่อ"
นายฉลองยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าไม่มีจิตวิญญาณของคนเสื้อแดงว่า
"ผมเข้าใจจิตวิญญาณการต่อสู้ของเสื้อแดง และมีวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำมากกว่าแกนนำ นปช. ในวันที่มีการสลายชุมนุม แกนนำเสื้อแดงบางคนหนีเอาตัวรอด ไม่มีวุฒิภาวะผู้นำที่ต้องรับผิดชอบที่พาคนไปร่วมชุมนุม และไม่มีอยู่เป็นคนสุดท้ายเหมือนแกนนำคนเสื้อเหลือง เช่น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ไม่เคยทิ้งและอยู่เป็นคนสุดท้าย ยอมถูกจับ"
นายฉลองกล่าวอีกว่า..........
"ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจ เพราะเมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้งแล้ว มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแล้ว ทำไมกลุ่มคนเสื้อแดงยังจัดกิจกรรมอะไรกันนักหนา ไม่รู้ว่ามีผลประโยชน์อะไรหรือไม่ ส่วนตัวยังศรัทธาคนเสื้อแดงที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ ต่อต้านรัฐประหาร หรือจะล้มรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ผมก็เห็นด้วย แต่ถ้าคิดจะล้มเจ้านั้น ผมไม่เอาด้วย เพราะคนในพื้นที่มีความศรัทธาในแนวทางนี้ คนเสื้อแดงไม่ใช่ว่าจะทำถูกทุกเรื่อง อะไรที่ถูกก็ต้องชื่นชม อะไรที่ถูกรังแกก็ต้องพูด
แต่วันนี้ อย่าทำให้คนรังเกียจ ทุกวันนี้ชาวบ้านก็เห็นว่าทหารมาช่วยเรื่องน้ำท่วมมากมาย แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมบางคนจ้องจะจุดประเด็นสร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะการจะแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม ที่ยิ่งสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมต้องไปเล่นงานทหาร"
ครับ...จากไพร่ชิงเมือง มาถึงไพร่ชิงของบริจาค "ลากไส้" มาให้ดูกันเอง แค่นี้ก็ยังเอากัน แล้วยิ่งมีอำนาจนั่งเมือง อะไรมันจะเหลือ และของประชาชนบริจาคแท้ๆ มันยังเขียนป้ายไปติดข้างรถ
"บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้วยรักและห่วงใย จาก พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร"
พูดถึงบริจาคช่วยคนถูกน้ำท่วม วันนี้แหละครับ (๒๘ ต.ค.) เงิน ๓๑๔,๓๑๑ บาท ที่ผู้อ่านไทยโพสต์ควักคนละบาท-สองบาท เมื่อ ๒๑ ตุลา ได้ฤกษ์นำไปมอบกับ "มูลนิธิชัยพัฒนา" คุณหมอสวรรค์ กาญจนะ จากนครศรีธรรมราช โทร.มาร่วมด้วย ๑๐,๐๐๐ บาท ผมบอกให้โอนเข้าบัญชีมูลนิธิไปเลย สรรพคุณเหมือนกัน
คุณมกร์ รุ่งกมล ทราบข่าว ขอร่วมด้วยอีก ๑๐๐,๐๐๐ บาท และปูนนครหลวง หรือปูนอินทรี ที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว บริจาคเป็นปูนซีเมนต์อินทรี ๑๐๐ ตัน ทางมูลนิธิชัยพัฒนาต้องการนำไปใช้ที่ไหน แจ้งสถานที่พร้อมจำนวน
"ปูนอินทรี" จะบินปร๋อไปส่งให้ถึงที่ ทั่วราชอาณาจักรไทยเลยทันที!
ก็โปรดทราบ ๓๑๔,๓๑๑+๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมปูนอินทรี และอัฐบริขารอาหารแห้งที่นำมามอบผ่านไทยโพสต์เมื่อ ๒๑ ตุลา ถึงมือ "มูลนิธิชัยพัฒนา" วันนี้ ดังนั้น ที่ผมนี่ "ปิดรับ" แล้ว แต่ที่ชัยพัฒนา "เปิดตลอด" เชิญได้นะครับ.
เปลว สีเงิน 28 ตุลาคม 2554 - 00:00
ดีครับ...ดี ผมเห็นด้วยที่ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ประกาศ "ไม่ย้าย ศปภ.หนีน้ำจากดอนเมืองเด็ดขาด "จะปักหลักอยู่ตรงนี้ อยู่เพื่อช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องก่อน ส่วนอยู่ตรงนี้ช่วย กับหนีน้ำที่ไล่ล่าไปอยู่ที่อื่นช่วย มันต่างกันตรงไหน ผมเดา "ความคิดลึกซึ้ง" ของเธอไม่ถูก?
แต่ในเมื่อ "ทุกบทผู้นำ" ที่เธอแสดงออกไปล้มเหลวหมด บางที บท "ลอยคอให้สัมภาษณ์" อาจได้คะแนนสงสารจากคอ "ละครหลังข่าว" ได้บ้างกระมัง
อย่างน้อยที่บอก "ไม่ท้อค่ะ..." กับนักข่าววานนี้ (๒๗ ต.ค.) ด้วยเสียงเครือ น้ำตาคลอ ในอิริยาบถคิกขุอาโนเนะ หลายคนหน้าจอถึงกับถอนหายใจ และเคลิ้มถึงคราง...ทำได้น่ารักเหมือนอั้ม เหมือนชมพู่ เหมือนพลอย
และเหมือน...ตุ๊กกี้!
บอกตรงๆ ผมเห็นใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะไพร่เหล่านี้ ทักษิณไม่ได้ออกแบบให้มาทำหน้าที่ "กุมภกรรณทดน้ำ" หากแต่ออกแบบให้มาทำหน้าที่ "เอาทักษิณกลับบ้าน-แก้รัฐธรรมนูญ-ผลาญงบประมาณ" ด้วยเป้าหมาย
เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน เพื่อ "แดงทั้งแผ่นดิน"!
แต่อย่างว่า "คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต" ยิ่งลักษณ์กับคณะไพร่ต้องเจอ "มวลน้ำก้อนใหญ่" เตะตัดเขาถึงพัง ถึงเสียผู้-เสียคน กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง และขณะนี้ด้วยมวลน้ำก้อนใหญ่ ไม่ว่ายิ่งลักษณ์หรือยิ่งเลอะคนไหน ไม่ว่าใส่วิกหรือไม่ใส่เสียงระส่ำบอกชาวบ้านไปในทำนองเดียวกัน
"จนปัญญาไพร่...ตัวใคร-ตัวมันโว้ย!"
ทุกการตัดสินใจแก้ปัญหาวิกฤติน้ำ จากเอาอยู่ค่ะ มาถึงไม่ท้อค่ะ จนหลังกระแทกฝาสารภาพ ท่วมทั้งกทม. สุดแต่เวร-แต่กรรมของใคร-ของมันแล้วค่ะ
การมาถึงวันนี้ จะทำด้วยความดึงดันถือดี จะด้วยทักษิณสั่งให้กอดอำนาจไว้ จะด้วยทระนงในศักดิ์ศรีผู้นำ หรือจะด้วยไร้เดียงสาก็ตาม มันเรื่องของท่าน เรื่องของพวกไพร่ได้อำนาจถล่มเมืองก็จริง แต่ผมอยากให้ใคร่ครวญด้วยจิตใต้สำนึกไว้ข้อหนึ่งว่า ทุกเหตุผลของท่านนั้น ใช่-ไม่ใช่ ท่านรู้อยู่กับใจ แต่ลองทบทวนซักนิดซิ...ผลจากการใช้อำนาจนายกฯ "บริหาร-จัดการปัญหา" ครั้งนี้นั้น
มันอยู่ในสภาพ "หมอตอนควายมาผ่าตัดหัวใจประเทศ" หรือเปล่า?
ดังนั้น อย่าดื้อดึง ถืออำนาจด้วยแอบจิต ผมเห็นเชิญผู้ชำนาญการด้านน้ำหลายต่อหลายท่านไปให้คำแนะนำ ท่านมีอำนาจสั่ง แต่ผมไม่แนใจว่า ท่านมีอำนาจให้คนรัฐบาล นปช.ทำตามสั่งได้ขนาดไหน?
จนเวลานี้ ในวอร์รูมที่ ศปภ.เห็นเหลือแต่ "พี่เลี้ยงคุณหนู" ที่พี่ชายส่งมาประกบเป็นหู-เป็นตา ยืนหน้าเหลือ ๒ นิ้ว มองแผนที่ตามนิ้วยิ่งลักษณ์จิ้ม ทำเป็นเครียด สั่งการ-วางแผนปราบน้ำให้ถ่ายรูปออกโทรทัศน์ไปวันๆ
ทำไม...ทำไม...ประเทศไทยของเราถึงตกต่ำขนาดนี้!?
เมื่อฝากข้อคิดนายกฯ แล้ว ก็อยากจะฝาก "ผู้รักและห่วงใย" ประเทศชาติทั้งหลายไว้ด้วย ขณะนี้กรุงเทพฯ ถือว่าวิกฤติขั้นเป็น-ตายในสงครามน้ำถล่มกรุงแล้ว กรุงเทพฯ คือประเทศไทย-ประเทศไทยคือกรุงเทพฯ ดังนั้น...
โปรดอย่าทอดธุระ โดยปล่อยให้ไพร่ไร้เดียงสาทั้งหลายพาประเทศไปตายเลยครับ!
ผมไม่ได้หมายถึงให้ใครมาไล่ มายึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ผมหมายถึง "ปราชญ์แผ่นดิน" ผู้รักและห่วงใยประเทศ "ควรรวมกันเป็น" สถาบันประชาชนกู้วิกฤติชาติ "ยื่นมือไปให้นายกฯ หญิงที่ลอยคออยู่กลางน้ำเกาะเถิด เพราะผมสังเกตว่า
"เธอจนตา-จนแต้ม ใกล้จมแล้วจริงๆ"!
จะปล่อยให้เธอจมน้ำไปกับอำนาจของเธอเอง มันก็ได้ แต่...ไม่แค่ "หญิงโคลนทักษิณ" จะจมหายไปโดยลำพัง หากแต่ด้วยฐานะผู้นำบริหารประเทศของเธอ พวกเราทุกคน ทั้ง ๖๓ ล้านคน รวมทั้งอนาคต "ประเทศไทย" มันจะมืดมนจนไม่เห็นทางแก้ด้วยนี่ซี ตรงนี้แหละ...สิ่งที่ผม "ชั่งน้ำหนัก" แล้วเห็นว่า ปราชญ์แผ่นดินทุกสาขา จำเป็นต้องออกมารับภาระ "ช่วยกันยก-ช่วยกันอุ้ม" ประเทศ ในสถานการณ์นี้! จะแดง จะดำ จะเขียว จะเหลือง จะดี จะเลว "ยกไว้ก่อน" ในเฉพาะหน้านี้ ช่วยกันเป็นขอน ให้สติ-ให้ทาง เป็นพี่เลี้ยงให้เธอพยุงเกาะ "เอาอนาคตชาติ-ชีวิตประชาชน" รอดก่อนเถอะ
คุยทุกวัน ผมก็หมดเรื่องคุย ยิ่งฟัง "ธงทอง จันทรางศุ" โฆษกตัดผุ ศปภ. "แถลงการณ์ด่วน" ผ่านทุกช่องตอน ๓ ทุ่ม...โอ้...นี่มันเข้าขั้นบ้านแตกสาแหรกขาด บ้านเมืองต้องพินาศเข้าสู่ "กลียุค" จริงๆ หรือนี่?
มือผมล้า-ตีนผมอ่อนครับ อ่านข่าว "ฉลอง ภาค ๒" จากกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ เมื่อวาน (๒๗ ต.ค.๕๔) ดีกว่าครับ
นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ออกมาระบุว่าคนเสื้อแดงไม่ใช้อภิสิทธิ์รับของบริจาคช่วยน้ำท่วมว่า เรื่องนี้ถ้าโปร่งใสจริงควรทำบัญชีแจกแจงการบริจาคให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดความสบายใจต่อผู้บริจาคและเพื่อกระจายสิ่งของไปให้ถึงประชาชนอย่างทั่วถึง
ส่วนกรณีที่คนเสื้อแดงจะจัดงานในวันที่ 29 ต.ค. เพื่อระดมเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั้น นายฉลองกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าไปตั้งโต๊ะรับบริจาคที่แยกราชประสงค์ และอยากรู้ว่าจะมีคนมาเป็นหมื่นหรือไม่ ซึ่งหากมาจริง บริจาคแค่คนละ 100 บาท ก็น่าจะได้เงินเป็นล้านบาทแล้ว
"ผมจะดูว่าจะมีคนเสื้อแดงมา โดยที่ไม่มี ส.ส.จัดหรือขนมาหรือไม่ ทั้งนี้ หากวันนี้ยังมั่นใจในกระแสของคนเสื้อแดงเรียกว่า แดงทั้งแผ่นดิน ว่ามีเยอะจริง การเลือกตั้งใน กทม.หลายเขตคงไม่สอบตกอย่างนี้"
"ผมขอท้าเลยว่า การเลือกตั้งสมัยหน้าถ้าแน่จริง ทั้งนายณัฐวุฒิ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ควรลงสมัคร ส.ส.เขต จะที่นนทบุรีหรือใน กทม.ก็ได้ จะได้รู้ถึงความนิยม อย่าหนีลงอันดับต้นๆ ในระบบบัญชีรายชื่อ"
นายฉลองยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าไม่มีจิตวิญญาณของคนเสื้อแดงว่า
"ผมเข้าใจจิตวิญญาณการต่อสู้ของเสื้อแดง และมีวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำมากกว่าแกนนำ นปช. ในวันที่มีการสลายชุมนุม แกนนำเสื้อแดงบางคนหนีเอาตัวรอด ไม่มีวุฒิภาวะผู้นำที่ต้องรับผิดชอบที่พาคนไปร่วมชุมนุม และไม่มีอยู่เป็นคนสุดท้ายเหมือนแกนนำคนเสื้อเหลือง เช่น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ไม่เคยทิ้งและอยู่เป็นคนสุดท้าย ยอมถูกจับ"
นายฉลองกล่าวอีกว่า..........
"ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจ เพราะเมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้งแล้ว มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแล้ว ทำไมกลุ่มคนเสื้อแดงยังจัดกิจกรรมอะไรกันนักหนา ไม่รู้ว่ามีผลประโยชน์อะไรหรือไม่ ส่วนตัวยังศรัทธาคนเสื้อแดงที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ ต่อต้านรัฐประหาร หรือจะล้มรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ผมก็เห็นด้วย แต่ถ้าคิดจะล้มเจ้านั้น ผมไม่เอาด้วย เพราะคนในพื้นที่มีความศรัทธาในแนวทางนี้ คนเสื้อแดงไม่ใช่ว่าจะทำถูกทุกเรื่อง อะไรที่ถูกก็ต้องชื่นชม อะไรที่ถูกรังแกก็ต้องพูด
แต่วันนี้ อย่าทำให้คนรังเกียจ ทุกวันนี้ชาวบ้านก็เห็นว่าทหารมาช่วยเรื่องน้ำท่วมมากมาย แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมบางคนจ้องจะจุดประเด็นสร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะการจะแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม ที่ยิ่งสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมต้องไปเล่นงานทหาร"
ครับ...จากไพร่ชิงเมือง มาถึงไพร่ชิงของบริจาค "ลากไส้" มาให้ดูกันเอง แค่นี้ก็ยังเอากัน แล้วยิ่งมีอำนาจนั่งเมือง อะไรมันจะเหลือ และของประชาชนบริจาคแท้ๆ มันยังเขียนป้ายไปติดข้างรถ
"บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้วยรักและห่วงใย จาก พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร"
พูดถึงบริจาคช่วยคนถูกน้ำท่วม วันนี้แหละครับ (๒๘ ต.ค.) เงิน ๓๑๔,๓๑๑ บาท ที่ผู้อ่านไทยโพสต์ควักคนละบาท-สองบาท เมื่อ ๒๑ ตุลา ได้ฤกษ์นำไปมอบกับ "มูลนิธิชัยพัฒนา" คุณหมอสวรรค์ กาญจนะ จากนครศรีธรรมราช โทร.มาร่วมด้วย ๑๐,๐๐๐ บาท ผมบอกให้โอนเข้าบัญชีมูลนิธิไปเลย สรรพคุณเหมือนกัน
คุณมกร์ รุ่งกมล ทราบข่าว ขอร่วมด้วยอีก ๑๐๐,๐๐๐ บาท และปูนนครหลวง หรือปูนอินทรี ที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว บริจาคเป็นปูนซีเมนต์อินทรี ๑๐๐ ตัน ทางมูลนิธิชัยพัฒนาต้องการนำไปใช้ที่ไหน แจ้งสถานที่พร้อมจำนวน
"ปูนอินทรี" จะบินปร๋อไปส่งให้ถึงที่ ทั่วราชอาณาจักรไทยเลยทันที!
ก็โปรดทราบ ๓๑๔,๓๑๑+๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมปูนอินทรี และอัฐบริขารอาหารแห้งที่นำมามอบผ่านไทยโพสต์เมื่อ ๒๑ ตุลา ถึงมือ "มูลนิธิชัยพัฒนา" วันนี้ ดังนั้น ที่ผมนี่ "ปิดรับ" แล้ว แต่ที่ชัยพัฒนา "เปิดตลอด" เชิญได้นะครับ.
Re: ถึงครา "ปราชญ์แผ่นดิน" กู้แผ่นดิน
เสาร์ 29 ต.ค. 2011 1:47 am
น้าเปลวสู้ ๆ 