สามเสือ
อังคาร 23 ธ.ค. 2008 10:36 am
เมื่อเอ่ยถึงเสือ มเหศวร เสือฝ้าย เสืออื่นๆ คนทั่วไปมักจะหวาดกลัว และรู้จักเป็นอย่างดี เกือบทั่วภาคกลาง
แต่หากใครมาอยู่แถวบ้านโป่ง เมื่อสักราวๆปี2495-2500 หากเอ่ยชื่อ สามเสือนี้ เด็กเล็กๆก็ยังหยุดร้องไห้ แม้ว่าจะเจ็บจากการที่ถูกแม่หรือยายตีเอาเจ็บๆ
" ขาว ท่าใหญ่ ,แหวง เบิกไพร, เยื้อง ลาดบัว "
สามเสือนักเลงใจเพชร แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง สมัยนั้นเป็นนักเลงก็ย่อมเป็นนักเลงจริง เป็นเสือก็เป็นเสือที่มีสัจจะวาจา และเป็นที่รักนับถือในน้ำใจของคนยากจน คนเป็นเสือหลายคนเป็นเพราะถูกข่มเหงรังแก จากผู้ที่เอาเปรียบขูดรีดชาวบ้าน เฉกเช่นเดียวกันกับ ขาว ท่าใหญ่
เด็กชายขาว ว่ายน้ำข้ามมาเล่นกับเด็กแถวฝั่งลาดบัว เด็กชายขาว ดูจะโตกว่าเด็กอื่นๆด้วยกัน และคบหากันจนวัยเริ่มหนุ่ม นังเลงบางอื่นที่จะเข้ามาลูบคมคนบ้านโป่ง-ลาดบัว เวลามีงานวัดงานบุญ ต้องคิดให้จงหนักเมื่อ ขาว , แหวง , เยื้อง เดินอยู่ในบริเวณงาน เด็กหนุ่มทั้งสามถึงจะเกกมะเหรกเกเร แต่ก็เป็นเพียงสนุกสนาน ไม่ได้ทำใครเดือดร้อน และเด็กทั้งสาม ชาวบ้านถือว่าเป็นลูกหลานที่ อาจารย์ สุรินทร์ แห่งวัดลาดบัวขาว ให้ความอุปถัมภ์ ข้าวก้นบาตรที่ทั้งสามกิน ถือเป็นเสมือนน้ำสาบานว่าจะรักกันตลอดไป ทั้งสามเสือ ได้ผ่านการสักยันต์ ทุกยันต์ที่หลวงพ่อสุรินทร์ท่านพึงจะสักได้ หากเพียงเพราะท่านต้องการให้ สามเสือเป็นคนคุ้มครองดูแลชาวบ้าน หากกาลเวลาผันเปลี่ยน ทั้งสามก็แยกย้ายกันไปทำมาหากิน หากแต่ชื่อของสามเสือ ยังคงดังก้องอยู่ และก็ไม่มีใครคิดว่า วันนึง ชื่อของสามเสือจะกลับมาให้ได้ยินกันอีกครั้ง
"หลวงพ่อครับ..............."
"โยมมีธุระอะไรกับอาตมารึ..............."
"เสือขาว กับเสือแหวง เสือเยื้องออกปล้น จนตอนนี้ชาวบ้านนอหวาดผวากันไปหมดแล้ว........."
"มันไปฆ่าใครด้วยหรือเปล่า..........."
"ครับ มันปล้นเจ้าของรถทัวร์สาย81 .........แล้วมันก็ฆ่าโก...(ขอสงวนนาม ตอนนี้เรื่องผ่านมาเกือบ50ปีแล้ว แต่ก็ไม่สมควรที่จะบอกชื่อคนตาย) เจ้าของท่ารถทัวร์ด้วยครับ..........."
"แล้วโยมจะจัดการยังไงก็สุดแต่เถอะนะ........โยมเป็น เจ้าหน้าตำรวจ.....จัดการตามสมควรได้เลย....."
นายตำรวจ ทั้งระดับชั้นสัญญาบัตรและ หมู่, จ่า มองหน้ากันเลิกลัก แล้วก็บอกกับหลวงพ่อว่า
"ถ้าจับได้ง่ายมันก็ดีนะซีครับนี่...เอ่อ...หลวงพ่อส ักให้มันทั้งสองคน..มันก็เลย........."
"คนชั่ว ถ้าทำชั่ว ไม่มีทางที่จะมีอะไรคุ้มครองได้........"
"ผม.ผมก็คิดว่าอย่างนั้นแต่ว่า..................... ...................................เวลาเข้าล้อมจับ ไอ้ขาวกับไอ้แหวงมัน..........."
"หายตัวได้......."
ตำรวจทั้งกลุ่มสะดุ้งโหยงเมื่อหลวงพ่อสุรินทร์พูดคำว ่า"หายตัวได้"
"ขะขะรับกระผม.................."
"มันก็แค่อึดใจเดียวเท่านั้น.............เอาเถอะฉัน จะช่วยเกลี้ยกล่อมมันก็แล้วกันถ้ามมันมาหาอาตมานะ... ......"
หลวงพ่อดูจะไม่สบายใจอยู่หลายวันจนค่อนดึกของคืนเดือ นมืด....หลวงพ่อยังไม่นอนและดูเหมือนท่านจะตั้งใจที่ จะไม่นอน หากแต่นั่งอยู่ที่ในกุฏิเหมือนรอใครสักคน
"มาแล้วก็ขึ้นมา.......ไม่ต้องให้ข้าเอาตะพตลงไปเพ่น กระบานเอ้งทั้งสองตัว อ้อ ไอ้เยื้อง เอ็งด้วยรึ มากันสามตัวเลย"
เสือขาว เสือแหวง เสือเยื้อง สะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงหลวงพ่อดังมาจากบนกุฏิ ต่างคนต่างแปลกใจที่ท่านรู้ได้ยังไงว่ามากันทั้งสามค นแบบนี้ เสือร้ายกลายก็เป็นแมวเชื่องๆ เดินขึ้นกุฏิ ก้มลงกราบหลวงพ่อพร้อมกัน
"เป็นนักเลงไม่พอริเป็นเสือ นี่ริเป็นโจรกันแล้วรึ........"
"ผะผะ..ผมผม........"
"เอ็งไม่ต้องพูดไอ้เยื้อง....." หลวงพ่อตวาดเบาๆ
"ไอ้เยื้องไม่ได้ปล้นด้วยครับ..ผมกับไอ้แหวงสองค น.. "
"เอ็งฆ่าเจ้าทรัพย์เขาทำไม..ตอบข้ามาซิ........"
"มันยิงผมก่อนครับ........"
"อ้อ! ดีนะ เขายิงเอ็ง แล้วเคยมีใครยิงโดนเอ็งมั่งไม๊ล่ะ....แต่เอ็งก็ฆ่าเข า..ไม่ควรเลยนะ.....เอา มาก็ดี.....ข้าอยากให้เอ็งทั้งสามมอบตัว....กับตำรวจ ข้าจะเป็นธุระให้..."
"ผม.ๆๆเอ่อ..อะไรอีก ถึงยังไงข้าก็ต้องขอเอ็งบ้าง ตัดสินใจเอา จะตายหรือจะมอบตัว...เขาไม่เอาเอ็งไว้แน่.... อ้อ แล้วเอ็งหายตัวได้ซิ ชะๆเอาวิชาของข้าไปใช้ทำชั่ว........."
"หลวงพ่อ............."
เสือแหวง,เสือเยื้อง สิ้นลาย ยอมกราบหลวงพ่อและขอมอบตัว แต่เสือขาว บอกหลวงพ่อว่าขอทำธุระให้เสร็จและจะกลับมามอบตัว แล้วก็ยื่นห่อผ้าห่อนึงให้หลวงพ่อ
"ข้าไม่รับเงินสกปรก..เอ้งเอาเงินสกปรกมาให้ข้าสร้าง โบสถ์ วัดข้าก็จะหมองไปด้วย ข้าไม่เอา......"
หลวงพ่อโยนห่อผ้าที่มีเงินและของมีค่าห่อนั้นออกไปนอ กกุฏิ โดยไม่ยอมรับเงินที่ทั้งสามเอามา
ถวาย หลังจากวันนั้นสองเสือก็มอบตัวสู้คดี เสือเยื้องหลุดออกมา เพราะหลักฐานไม่พอ แต่เสือแหวงต้องติดคุก ไป สิบกว่าปีจึงออกมาแล้วก็บวชตลอดชีวิต ส่วนเสือขาวหลวงพ่อได้บอกกับเสือทั้งสองคน หลังจากที่เสือขาวลงพ้นกุฏิไป
"ถึงคราวของมันแล้ว คนทำกรรมย่อมได้รับผลของกรรมนั้น......."
หลังจากนั้น เสือขาวก็ออกปล้นอีก สาเหตุเป็นเรื่องของการล้างแค้นมากกว่า และในที่สุดเสือขาวก็ถูกเจ้าหน้าที่ยิงตาย ร่างการของเสือขาว บวมเป่ง อวัยวะภายในบอบช้ำ แต่ที่น่าพิศวงสำหรับคนที่ยืนดูศพ เพราะว่าตามร่างกาย ไม่มีเลือดสักหยด แผลสักนิดก็ไม่มี มีเพียงรอยจำแดงจ้ำเขียวของกระสุนปืน นับร้อยๆนัด ที่เจ้าหน้าที่ระดมยิงจากทุกทิศทุกทาง จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ ก่อนที่เสือขาวจะปะทะกับตำรวจจากทั้งจังหวัดราชบุรี และใกล้เคียง เสือขาวกลืนเหรียญ อะไรสักอย่างนึงที่แขวนอยู่เข้าปาก แล้วสักพักก็ส่งเสียงร้องคล้ายหมู แต่กราดเกรี้ยวน่าขนลุก จากนั้นก็เปิดฉากยิ่งกับเจ้าหน้าที่ ปืนสองกระบอกจากมือเสือขาวหมดกระสุน เหลือเพียงมีดพกเล่มเดียว เสือขาววิ่งเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่นับร้อยด้วยมีดเล่ มเดียว หากแต่หนังคนเรานั้น ไม่สามารถจะทนทานห่ากระสุนนับร้อยนับพันที่พุ่งเข้าม าปะทะตัวได้ และเมื่อถึงทีสุด ร่างเสือขาวก็นอนหงายอยู่บนพื้นดินแดงข้างดงอ้อย ข้างๆแก้มมีกระตุดดอกเล็กๆตกอยู่ ตำรวจที่ยิงเห็นกระตุดนี้หลุดจากปากออกมา เสือขาวก็ล้มลงทันที
หากใครไปแถวลาดบัว ลองสอบถามถึงเรื่องเสือ ขาว เสือแหวง ดูนะครับ ว่าจริงเท็จประการใด ปัจจุบัน เสือแหวงน่าจะยังมีชีวิตอยู่
ในรูปเป็น รูปถ่าย หลวงพ่อสุรินทร์ สมัยที่ยังบวชได้เพียงสองพรรษา จำวัดอยู่ที่ วัดรางวาลย์ ตักกศิลาของสรรพวิชาอาคมหลายแขนง และการหายตัวได้อึดใจนึงนั้น เป็นวิชาที่หลวงพ่อมอบให้เพียงไม่กี่คน
และเอารูปเหรียญหมูขวางที่เสือขาวสักยันต์หมูไว้กับป ากมาให้ดูอีกครั้งนึง ยันต์ตัวนี้ เสาร์นี้จะไปขอถ่ายรูปมาให้ดูกันจากคนที่สักยันต์หมู ทองแดง
แต่หากใครมาอยู่แถวบ้านโป่ง เมื่อสักราวๆปี2495-2500 หากเอ่ยชื่อ สามเสือนี้ เด็กเล็กๆก็ยังหยุดร้องไห้ แม้ว่าจะเจ็บจากการที่ถูกแม่หรือยายตีเอาเจ็บๆ
" ขาว ท่าใหญ่ ,แหวง เบิกไพร, เยื้อง ลาดบัว "
สามเสือนักเลงใจเพชร แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง สมัยนั้นเป็นนักเลงก็ย่อมเป็นนักเลงจริง เป็นเสือก็เป็นเสือที่มีสัจจะวาจา และเป็นที่รักนับถือในน้ำใจของคนยากจน คนเป็นเสือหลายคนเป็นเพราะถูกข่มเหงรังแก จากผู้ที่เอาเปรียบขูดรีดชาวบ้าน เฉกเช่นเดียวกันกับ ขาว ท่าใหญ่
เด็กชายขาว ว่ายน้ำข้ามมาเล่นกับเด็กแถวฝั่งลาดบัว เด็กชายขาว ดูจะโตกว่าเด็กอื่นๆด้วยกัน และคบหากันจนวัยเริ่มหนุ่ม นังเลงบางอื่นที่จะเข้ามาลูบคมคนบ้านโป่ง-ลาดบัว เวลามีงานวัดงานบุญ ต้องคิดให้จงหนักเมื่อ ขาว , แหวง , เยื้อง เดินอยู่ในบริเวณงาน เด็กหนุ่มทั้งสามถึงจะเกกมะเหรกเกเร แต่ก็เป็นเพียงสนุกสนาน ไม่ได้ทำใครเดือดร้อน และเด็กทั้งสาม ชาวบ้านถือว่าเป็นลูกหลานที่ อาจารย์ สุรินทร์ แห่งวัดลาดบัวขาว ให้ความอุปถัมภ์ ข้าวก้นบาตรที่ทั้งสามกิน ถือเป็นเสมือนน้ำสาบานว่าจะรักกันตลอดไป ทั้งสามเสือ ได้ผ่านการสักยันต์ ทุกยันต์ที่หลวงพ่อสุรินทร์ท่านพึงจะสักได้ หากเพียงเพราะท่านต้องการให้ สามเสือเป็นคนคุ้มครองดูแลชาวบ้าน หากกาลเวลาผันเปลี่ยน ทั้งสามก็แยกย้ายกันไปทำมาหากิน หากแต่ชื่อของสามเสือ ยังคงดังก้องอยู่ และก็ไม่มีใครคิดว่า วันนึง ชื่อของสามเสือจะกลับมาให้ได้ยินกันอีกครั้ง
"หลวงพ่อครับ..............."
"โยมมีธุระอะไรกับอาตมารึ..............."
"เสือขาว กับเสือแหวง เสือเยื้องออกปล้น จนตอนนี้ชาวบ้านนอหวาดผวากันไปหมดแล้ว........."
"มันไปฆ่าใครด้วยหรือเปล่า..........."
"ครับ มันปล้นเจ้าของรถทัวร์สาย81 .........แล้วมันก็ฆ่าโก...(ขอสงวนนาม ตอนนี้เรื่องผ่านมาเกือบ50ปีแล้ว แต่ก็ไม่สมควรที่จะบอกชื่อคนตาย) เจ้าของท่ารถทัวร์ด้วยครับ..........."
"แล้วโยมจะจัดการยังไงก็สุดแต่เถอะนะ........โยมเป็น เจ้าหน้าตำรวจ.....จัดการตามสมควรได้เลย....."
นายตำรวจ ทั้งระดับชั้นสัญญาบัตรและ หมู่, จ่า มองหน้ากันเลิกลัก แล้วก็บอกกับหลวงพ่อว่า
"ถ้าจับได้ง่ายมันก็ดีนะซีครับนี่...เอ่อ...หลวงพ่อส ักให้มันทั้งสองคน..มันก็เลย........."
"คนชั่ว ถ้าทำชั่ว ไม่มีทางที่จะมีอะไรคุ้มครองได้........"
"ผม.ผมก็คิดว่าอย่างนั้นแต่ว่า..................... ...................................เวลาเข้าล้อมจับ ไอ้ขาวกับไอ้แหวงมัน..........."
"หายตัวได้......."
ตำรวจทั้งกลุ่มสะดุ้งโหยงเมื่อหลวงพ่อสุรินทร์พูดคำว ่า"หายตัวได้"
"ขะขะรับกระผม.................."
"มันก็แค่อึดใจเดียวเท่านั้น.............เอาเถอะฉัน จะช่วยเกลี้ยกล่อมมันก็แล้วกันถ้ามมันมาหาอาตมานะ... ......"
หลวงพ่อดูจะไม่สบายใจอยู่หลายวันจนค่อนดึกของคืนเดือ นมืด....หลวงพ่อยังไม่นอนและดูเหมือนท่านจะตั้งใจที่ จะไม่นอน หากแต่นั่งอยู่ที่ในกุฏิเหมือนรอใครสักคน
"มาแล้วก็ขึ้นมา.......ไม่ต้องให้ข้าเอาตะพตลงไปเพ่น กระบานเอ้งทั้งสองตัว อ้อ ไอ้เยื้อง เอ็งด้วยรึ มากันสามตัวเลย"
เสือขาว เสือแหวง เสือเยื้อง สะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงหลวงพ่อดังมาจากบนกุฏิ ต่างคนต่างแปลกใจที่ท่านรู้ได้ยังไงว่ามากันทั้งสามค นแบบนี้ เสือร้ายกลายก็เป็นแมวเชื่องๆ เดินขึ้นกุฏิ ก้มลงกราบหลวงพ่อพร้อมกัน
"เป็นนักเลงไม่พอริเป็นเสือ นี่ริเป็นโจรกันแล้วรึ........"
"ผะผะ..ผมผม........"
"เอ็งไม่ต้องพูดไอ้เยื้อง....." หลวงพ่อตวาดเบาๆ
"ไอ้เยื้องไม่ได้ปล้นด้วยครับ..ผมกับไอ้แหวงสองค น.. "
"เอ็งฆ่าเจ้าทรัพย์เขาทำไม..ตอบข้ามาซิ........"
"มันยิงผมก่อนครับ........"
"อ้อ! ดีนะ เขายิงเอ็ง แล้วเคยมีใครยิงโดนเอ็งมั่งไม๊ล่ะ....แต่เอ็งก็ฆ่าเข า..ไม่ควรเลยนะ.....เอา มาก็ดี.....ข้าอยากให้เอ็งทั้งสามมอบตัว....กับตำรวจ ข้าจะเป็นธุระให้..."
"ผม.ๆๆเอ่อ..อะไรอีก ถึงยังไงข้าก็ต้องขอเอ็งบ้าง ตัดสินใจเอา จะตายหรือจะมอบตัว...เขาไม่เอาเอ็งไว้แน่.... อ้อ แล้วเอ็งหายตัวได้ซิ ชะๆเอาวิชาของข้าไปใช้ทำชั่ว........."
"หลวงพ่อ............."
เสือแหวง,เสือเยื้อง สิ้นลาย ยอมกราบหลวงพ่อและขอมอบตัว แต่เสือขาว บอกหลวงพ่อว่าขอทำธุระให้เสร็จและจะกลับมามอบตัว แล้วก็ยื่นห่อผ้าห่อนึงให้หลวงพ่อ
"ข้าไม่รับเงินสกปรก..เอ้งเอาเงินสกปรกมาให้ข้าสร้าง โบสถ์ วัดข้าก็จะหมองไปด้วย ข้าไม่เอา......"
หลวงพ่อโยนห่อผ้าที่มีเงินและของมีค่าห่อนั้นออกไปนอ กกุฏิ โดยไม่ยอมรับเงินที่ทั้งสามเอามา
ถวาย หลังจากวันนั้นสองเสือก็มอบตัวสู้คดี เสือเยื้องหลุดออกมา เพราะหลักฐานไม่พอ แต่เสือแหวงต้องติดคุก ไป สิบกว่าปีจึงออกมาแล้วก็บวชตลอดชีวิต ส่วนเสือขาวหลวงพ่อได้บอกกับเสือทั้งสองคน หลังจากที่เสือขาวลงพ้นกุฏิไป
"ถึงคราวของมันแล้ว คนทำกรรมย่อมได้รับผลของกรรมนั้น......."
หลังจากนั้น เสือขาวก็ออกปล้นอีก สาเหตุเป็นเรื่องของการล้างแค้นมากกว่า และในที่สุดเสือขาวก็ถูกเจ้าหน้าที่ยิงตาย ร่างการของเสือขาว บวมเป่ง อวัยวะภายในบอบช้ำ แต่ที่น่าพิศวงสำหรับคนที่ยืนดูศพ เพราะว่าตามร่างกาย ไม่มีเลือดสักหยด แผลสักนิดก็ไม่มี มีเพียงรอยจำแดงจ้ำเขียวของกระสุนปืน นับร้อยๆนัด ที่เจ้าหน้าที่ระดมยิงจากทุกทิศทุกทาง จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ ก่อนที่เสือขาวจะปะทะกับตำรวจจากทั้งจังหวัดราชบุรี และใกล้เคียง เสือขาวกลืนเหรียญ อะไรสักอย่างนึงที่แขวนอยู่เข้าปาก แล้วสักพักก็ส่งเสียงร้องคล้ายหมู แต่กราดเกรี้ยวน่าขนลุก จากนั้นก็เปิดฉากยิ่งกับเจ้าหน้าที่ ปืนสองกระบอกจากมือเสือขาวหมดกระสุน เหลือเพียงมีดพกเล่มเดียว เสือขาววิ่งเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่นับร้อยด้วยมีดเล่ มเดียว หากแต่หนังคนเรานั้น ไม่สามารถจะทนทานห่ากระสุนนับร้อยนับพันที่พุ่งเข้าม าปะทะตัวได้ และเมื่อถึงทีสุด ร่างเสือขาวก็นอนหงายอยู่บนพื้นดินแดงข้างดงอ้อย ข้างๆแก้มมีกระตุดดอกเล็กๆตกอยู่ ตำรวจที่ยิงเห็นกระตุดนี้หลุดจากปากออกมา เสือขาวก็ล้มลงทันที
หากใครไปแถวลาดบัว ลองสอบถามถึงเรื่องเสือ ขาว เสือแหวง ดูนะครับ ว่าจริงเท็จประการใด ปัจจุบัน เสือแหวงน่าจะยังมีชีวิตอยู่
ในรูปเป็น รูปถ่าย หลวงพ่อสุรินทร์ สมัยที่ยังบวชได้เพียงสองพรรษา จำวัดอยู่ที่ วัดรางวาลย์ ตักกศิลาของสรรพวิชาอาคมหลายแขนง และการหายตัวได้อึดใจนึงนั้น เป็นวิชาที่หลวงพ่อมอบให้เพียงไม่กี่คน
และเอารูปเหรียญหมูขวางที่เสือขาวสักยันต์หมูไว้กับป ากมาให้ดูอีกครั้งนึง ยันต์ตัวนี้ เสาร์นี้จะไปขอถ่ายรูปมาให้ดูกันจากคนที่สักยันต์หมู ทองแดง
- แนบไฟล์
-
- %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%20001.jpg (52.02 KiB) เปิดดู 1786 ครั้ง
Re: สามเสือ
อังคาร 23 ธ.ค. 2008 11:01 am
ขอบคุณครับ นำเรื่องดีให้อ่านเรื่อยเลย เอาอีก เอาอีก 
Re: สามเสือ
อังคาร 23 ธ.ค. 2008 10:39 pm
ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆ มาให้อ่านกันครับ
ชอบมากมาย
ชอบมากมาย
Re: สามเสือ
อังคาร 23 ธ.ค. 2008 10:41 pm
ขอบพระคุณมากครับ เป็นแรงใจให้นะครับคุณเอก
Re: สามเสือ
พุธ 24 ธ.ค. 2008 8:32 am
ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะครับ