Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์"กงล้อธรรมจักรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"

จันทร์ 28 มี.ค. 2011 12:47 pm

001.jpg
001.jpg (69.22 KiB) เปิดดู 1994 ครั้ง
จาก คมชัดลึก ฉบับวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2554 หน้า 28 ครับ
พึ่งตนพึ่งธรรม-วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์"กงล้อธรรมจักรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"
โดยคุณสิทธิ สุทธิอัมพร
----------------------------------------------------------
กล่าวกันว่า “ธรรมะคือหน้าที่” เป็นหน้าที่ของทุกชีวิตที่จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง และปราศจากความเห็นแก่ตัว ผู้ใดปฏิบัติได้ ผู้นั้นคือผู้ที่มี ธรรมะ
002.jpg
พุทธสถาน
002.jpg (51.28 KiB) เปิดดู 1986 ครั้ง
วัดป่ามัชฌิมาวาส ตั้งอยู่ที่บ้านดงเมือง ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

จากพื้นที่กว่าสองร้อยไร่ของวัดได้ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนต่างๆ ตามความเหมาะสมและประเภทของการใช้ประโยชน์ เช่น ศาลาพุทโธ สำหรับใช้รับแขกและพบปะญาติโยม ศาลาอัศวินวิจิตร สถานที่ที่นำศพคนเสียชีวิตมาแสดงเพื่อให้เห็นถึงความไม่เที่ยงในชีวิตของมนุษย์ พุทธสถาน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ ฯลฯ รวมไปถึง “กุฏิสงฆ์”
003.jpg
003.jpg (50.34 KiB) เปิดดู 1984 ครั้ง
กุฏิสงฆ์ของวัดป่ามัชฌิมาวาส จะปลูกอยู่ในระยะห่างกันพอสมควร ทั้งนี้มีเหตุเนื่องจากการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุผลปลายทางอันสูงสุดของพระพุทธศาสนานั้น จำเป็นต้องใช้สถานที่ที่ต้องมีความสงบและอยู่ห่างไกลต่อการรบกวนจากเรื่องราวต่างๆ ของโลกภายนอก ซึ่งจะว่าไปแล้ว “ความสงบ” นี่แหละถือเป็นสิ่งสำคัญของการบำเพ็ญเพียรทางจิต

การใช้ชีวิตในวัดป่ามัชฌิมาวาสแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือผู้ที่เข้ามาปฏิบัติธรรม จะต้องอุทิศเวลาเกือบจะทั้งหมดให้การสวดมนต์และนั่งสมาธิ ซึ่งในความเรียบง่ายของการใช้ชีวิตและการสละแล้วต่อเรื่องราวของทางโลก ย่อมเป็นนัยบอกให้ทราบต่ออีกว่า ความสงบ นี่แหละคือ ความสุขที่แท้จริงของมนุษย์

ในสมัยรัตนโกสินทร์ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันโท จันทร์) อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทั้งสามท่านนี้คือแบบอย่างของพระป่าในยุคปัจจุบัน กิตติศัพท์ของท่านทั้งสามเป็นที่เลื่องลือในดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทถึงสามประเทศ คือ ไทย ลาว และพม่า
004.jpg
ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ
004.jpg (27.35 KiB) เปิดดู 1985 ครั้ง
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านเป็นพระภิกษุที่มีลูกศิษย์เป็นพระป่ามากที่สุด ที่เราคุ้นเคยกันก็เช่น หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่หลุย หลวงปู่ตื้อ ฯลฯ ซึ่งเมื่อตกมาถึงยุคหลานศิษย์ในปัจจุบัน ชื่อของ ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ ก็คือหนึ่งในพระป่าที่เดินรอยตามแนวทางของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยการเน้นปฏิบัติภาวนาตามแนวทางพระอริยมรรคมีองค์แปด ซึ่งเมื่อกล่าวโดยย่อได้แก่ไตรสิกขา คือศีล สมาธิ และปัญญา

กระบวนการเรียนรู้ด้วยวิธีการฝึกจิตเพื่อให้เกิดปัญญาถือเป็นปัญญาที่เกิดจากการเรียนรู้ภายใน โดยปัญญาดังกล่าวจะเกิดขึ้นเองเมื่อมีการฝึกปฏิบัติสมาธิไปได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นการที่พระสงฆ์องค์ใดจะได้มากหรือได้น้อยขนาดไหน จึงขึ้นอยู่กับความเพียรของแต่ละองค์ เรียกว่า “ฝึกมากได้มาก ฝึกน้อยได้น้อย”

ด้วยเหตุผลดังกล่าว พระภิกษุสงฆ์ในฝ่ายนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องออกหาสถานที่สงบ เพื่อที่ตนเองจะสามารถฝึกปฏิบัติ นั่งสมาธิและสวดมนต์ภาวนาได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีผู้ใดเข้าไปรบกวน ซึ่งตามหลักของพระพุทธศาสนาเรียกสถานที่แบบนี้ว่า สัปปายะ

ดังนั้นสถานที่สัปปายะจึงมักจะอยู่ห่างไกลชุมชน เช่นในป่า หรือในถ้ำต่างๆ ด้วยเหตุนี้แหละครับเราจึงเรียกพระภิกษุสงฆ์ในสายวิปัสสนาธุระว่า ฝ่ายอรัญวาสี หรือ พระป่า

ว่ากันว่า พระป่า เป็นพระที่มีเสน่ห์ คำว่าเสน่ห์ในที่นี้คือ เสน่ห์ในทางธรรม

“คนไทยมีนิสัยเป็นคนที่ให้มาโดยกำเนิด คนเป็นแม่นอกจากให้กำเนิดลูกแล้ว ยังต้องให้การเลี้ยงดูและให้ความรักกับลูกตลอดเวลา การทำบุญตักบาตรก็เหมือนกัน คนไทยจะรีบตื่นแต่เช้ามาหุงข้าวเพื่อรอใส่บาตรพระ อย่างนี้เขาเรียกว่าเป็น “ลืมตาขึ้นมาก็ให้”

พระสงฆ์ที่ออกบิณฑบาต ก็อยู่ในฐานะผู้ขอ เพราะไม่มีงานทำ ต้องอาศัยข้าวปลาอาหารจากญาติโยม ลองสังเกตดูสิ เวลาที่พระไปบิณฑบาต ก็จะไปแบบเงียบๆ ก้มหน้าตลอดเวลา แต่อย่าลืมว่า การเดินเงียบๆ และการก้มหน้า นั่นคืออาการที่เราเรียกว่า สำรวม”

ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาส ได้อธิบายธรรมในข้อนี้ เป็นที่รับรู้กันว่าธรรมที่พระอริยสงฆ์อย่างหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตได้สอนแก่บรรดาลูกศิษย์เสมอๆ คือ “พลธรรม ๕” ได้แก่ “ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา” ซึ่งท่านได้ให้เหตุผลว่า

“ผู้ใดไม่ห่างเหินจากธรรมเหล่านี้ ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ขาดทุน ไม่ล่มจม”

โดยในส่วนธรรมของฆราวาสจะมี “ทาน ศีล และภาวนา” เป็นพื้นฐาน ซึ่งธรรมทั้งสามอย่างนี้ถือเป็นรากแก้วของความเป็นมนุษย์และเป็นรากเหง้าของพระพุทธศาสนา กล่าวคือ ทาน เป็นเครื่องแสดงน้ำใจมนุษย์ผู้มีจิตใจสูงและมีเมตตาจิต ศีล เป็นรั้วกั้นความเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ภาวนา เป็นการอบรมใจให้ฉลาด เที่ยงตรงต่อเหตุผลและเป็นหนทางแห่งความสงบสุข

อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งความเป็นจริง คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีเรื่องราวหลายอย่างที่ทำให้เราเป็นทุกข์ หรือเป็นเรื่องที่เราไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น ความไม่ปรารถนาและความทุกข์จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวต่อความรู้สึก

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุกข์หรือภัยต่างๆ ล้วนแล้วแต่จิตของเราปรุงแต่งขึ้น" ท่านพ่อเมือง พลวัฒโฒ กล่าวสรุปใจความก่อนที่จะขอตัวไปทำภารกิจของท่านต่อไป

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ไม่ได้สอนเน้นในเรื่องของความเชื่อ แต่เป็นการนำเสนอให้มาศึกษาและนำไปปฏิบัติ หากตัดทอนในเรื่องของระยะเวลาที่กงล้อธรรมจักรเคลื่อนไหวไปข้างหน้าให้เริ่มต้นที่ยุคสมัยรัตนโกสินทร์เราก็จะพบว่า พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบมีอยู่มากมาย บางรูปก็มีชื่อเสียงโด่งดัง บางรูปก็เก็บตัวและชอบอยู่อย่างสันโดษ ท่านพ่อเมือง เป็นพระสงฆ์ในส่วนหลัง ความลึกซึ้งในเรื่องของปัญญา หนักแน่นในเรื่องของวัตรปฏิบัติ จิตใจที่เปิดกว้างและไม่คับแคบ
005.jpg
พุทธบูชาคลีนิกหลังเดิม
005.jpg (45.7 KiB) เปิดดู 1985 ครั้ง
ปัจจุบัน วัดป่ามัชฌิมาวาสได้เปิด พุทธบูชาคลินิก ขึ้นภายในวัด จัดเป็นสาธารณประโยชน์แก่ส่วนรวม เพื่อบริการแก่พระภิกษุสงฆ์ สามเณรและชาวบ้านทั่วไป โดยจะมีแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลต่างๆ ในเขต จ.กาฬสินธุ์ และใกล้เคียง มาดูแลและรักษา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

วัดป่ามัชฌิมาวาสอาจไม่ใช่วัดที่เยี่ยมที่สุด สวยที่สุดหรือมหัศจรรย์ที่สุด ประเภทที่ว่าหากจะตายต้องขอไปวัดนี้สักที เพราะ “วัดป่ามัชฌิมาวาส ก็คือ วัดป่ามัชฌิมาวาส” บรรยากาศเรียบง่าย แต่ไม่ละทิ้งวัฒนธรรมของการดำเนินชีวิตสไตล์พระป่าแบบนี้กระมัง ที่เป็นเสน่ห์กวักมือเรียกให้ใครต่อใครอยากเข้ามาเยือน
006.jpg
พุทธบูชาคลีนิกหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง
006.jpg (39.27 KiB) เปิดดู 1983 ครั้ง

----------------------------------------------------------
สนใจการปฏิบัติธรรมที่วัดป่ามัชฌิมาวาส หรือต้องการเข้ารับการรักษาที่พุทธบูชาคลีนิก หรือเกื้อกูลวัด สอบถามโทร. 081-954-3459

Re: วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์"กงล้อธรรมจักรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"

จันทร์ 28 มี.ค. 2011 12:51 pm

แวะมากราบท่านพ่อเมืองครับ

อนุโมทนาครับ

Re: วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์"กงล้อธรรมจักรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"

จันทร์ 28 มี.ค. 2011 1:47 pm

ขอบคุณคุณจิ้งจกมากครับ

ว่าแต่ ... เอ...ใครไหว้พระกันอยู่นั่น ?

Re: วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์"กงล้อธรรมจักรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"

จันทร์ 28 มี.ค. 2011 1:59 pm

3 คนแถวหน้านั่นพวก MIB (บุรุษในชุดดำครับ...ไม่รู้ว่า เป็นพวกชุดดำพวกเดียวกับที่ป่วนเผากรุงเทพฯ หรือไม่) แต่ที่แน่ๆ คนกลางชุดดำนั่นอะ หัวหน้าทีม แหงๆ เพราะว่า ที่แขนขวามีแถบขาวสองแถบ ระบุว่า เป็นหัวหน้าชุดครับ ส่วนคนทางซ้ายมือของหัวหน้าชุดนี่ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นนักรบรับจ้างหรือว่า หน่วยรบพิเศษจากจีนหรือไม่นะครับ :lol: :lol: :lol:
007.jpg
007.jpg (51.53 KiB) เปิดดู 1970 ครั้ง

Re: วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์"กงล้อธรรมจักรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"

จันทร์ 28 มี.ค. 2011 2:06 pm

:lol: :lol: :lol:

Re: วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์"กงล้อธรรมจักรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"

จันทร์ 28 มี.ค. 2011 2:46 pm

ผิดแล้วครับคุณจิ้งจก เสียดายที่เป็นถึงหัวหน้าหน่วยสีสวาทแห่งประเทศไทย เพราะคนที่มีแถบสีขาวที่แขนขวาสองแถบนั้น หาได้แปลว่าเป็นหัวหน้าทีมไม่ แต่หมายถึงเขาจบปริญญาโทคณะไสยศาสตร์ เอกปล่อยคุณ โทปล่อยท้อง เอ้ย ปล่อยของตะหาก :mrgreen:

Re: วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์"กงล้อธรรมจักรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"

จันทร์ 28 มี.ค. 2011 4:13 pm

ใช่คนนี้หรือเปล่าครับ
001.jpg
001.jpg (31.16 KiB) เปิดดู 1941 ครั้ง


ลงชื่อ หัวหน่วยสีสวาทแห่งประเทศไทย
spd_2011031903809_b.jpg
โปรดสังเกตเครื่องหมายรับรองตำแหน่งหัวหน้าหน่วยจากล๊อคเก็ตครับ
spd_2011031903809_b.jpg (21.73 KiB) เปิดดู 1940 ครั้ง

Re: วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์"กงล้อธรรมจักรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง"

จันทร์ 28 มี.ค. 2011 8:25 pm

.gif
.gif (16.55 KiB) เปิดดู 1916 ครั้ง


เออ อันนี้ฮาดีแฮะ :lol: :lol: :lol:
ตอบกระทู้