นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 22 พ.ค. 2024 12:52 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: "มหาฤษีแก้วสารพัดนึก"
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2008 4:35 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
ขออนุญาตคัดลอกอีกหนึ่งบทความคุณภาพจากพี่ต่อ (คุณรณธรรม ธาราพันธุ์) ซึ่งเคยเขียนลงในนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ เมื่อนานมาแล้ว มานำเสนอใหม่ พร้อมภาพประกอบบทความแบบจุใจครับ :ilu:

เริ่มเลยแล้วกันครับ :rbb:

========================================

"มหาฤษีแก้วสารพัดนึก"
โดย รณธรรม ธาราพันธุ์

พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือ หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ แห่งวัดประดู่ฉิมพลี ฝั่งธนบุรี ถือได้ว่าท่านคือสุดยอดภิกษุดีในสยามประเทศอีกรูปหนึ่ง เป็นพระมหาเถระที่ครองหัวใจธรรมอันบริสุทธิ์ไว้เต็มดวง ไม่สงสัย

ประวัติชีวิตแห่งท่านที่คนใฝ่ขลังศึกษาคือเรียนวิชากับยอดพระเถระผู้เรืองอาคมมากรายด้วยกัน ส่งผลให้หลวงปู่โต๊ะเป็นพระ ‘นักเสก’ เต็มภูมิ ทำอะไรก็ขึ้น ทำอะไรก็ขลัง ตะกรุด ผ้ายันต์ เบี้ยแก้ พระผง พระเหรียญ และจบที่...

พระอาจารย์มั่น

หลวงปู่เล่าว่า สมัยหนึ่งได้จาริกธุดงค์ไปกราบนมัสการพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ตามชื่อเสียงที่ระบือลั่นไปในหมู่นักปฏิบัติว่า ท่านพระอาจารย์มั่นคือที่สุดแล้วของนักปฏิบัติที่มุ่งต่อความหลุดพ้นโดยแท้จริง และลือต่ออีกว่า...

ท่านครองความหลุดพ้นนั้นแล้วเต็มภูมิ

-01.jpg



หลวงปู่แลเห็นท่านพระอาจารย์มั่นนั่งคอยอยู่โดยอาการอันสงบแต่งามสง่า ดูน่าเกรงขามสมคำลือ เมื่อคลานเข่าเข้าไปใกล้เพื่อทำคารวะ ปรากฏจิตท่านสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นที่โอภาสสว่างคลุมบริเวณนั้นไว้ทั้งหมดอย่างน่าอัศจรรย์ และรู้สึกถึงความอบอุ่นปลอดภัยทันทีที่อยู่ใกล้ท่าน หลวงปู่เปรียบให้ฟังว่าดุจเดินเข้าไปในร่มไม้ใหญ่ใบหนาในยามเที่ยงวัน

โดยเหตุการณ์นี้และโดยเทศนาแห่งท่านพระอาจารย์ใหญ่ ส่งผลให้หลวงปู่โต๊ะประกอบความเพียร เพื่อบรรลุธรรมอันวิเศษเช่นองค์อาจารย์ ผมเชื่ออยู่ในใจว่าหลวงปู่โต๊ะได้สมปรารถนา ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของหลวงปู่...

ภพใหม่ต่อไปอีกไม่มีแล้วสำหรับท่าน

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2008 4:42 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
ก่อนหลวงปู่โต๊ะมรณภาพ มีชายหนุ่มหน้าตาหมดจดคอยตามรับใช้ใกล้ชิด ใช่เพียงอุปัฎฐากครูบาอาจารย์อย่างเดียว หากขอรับการถ่ายทอดวิทยาการด้านขลังสืบต่อจากหลวงปู่มากมายหลายหมวดวิชา แต่จบลงที่หลวงปู่สอนถึงการทำจิตอย่างเดียว จิตนี้เท่านั้นที่เป็นใหญ่ เป็นประธานสำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าใจไม่ปรากฏสมาธิธรรม ท่องบ่นคาถาร้อยจบ พันจบ หมื่นจบ มันก็ไม่ขลัง ให้น่าเชื่อว่าหนุ่มคนนี้ ‘ผ่าน’ จริง หลวงปู่จึงมอบเหล็กจารคู่บารมีที่ท่านใช้มาตลอดชีวิตให้ถึง 2 ด้าม นับเป็นมรดกที่ใคร ๆ ก็ไม่อาจได้ถ้าไม่แน่จริง

อาจารย์สุวัฒน์ พบร่มเย็น

คือชื่อของหนุ่มน้อยคนนั้น ชายที่วันนี้ก้าวผ่านประสบการณ์อย่างคนวัดมาเต็มภาคภูมิ ผ่านวัยหนุ่มที่โลดโผนกับคาถาอาคมสรรพอักขระเลขยันต์ มาสู่ความเป็นอาจารย์ที่สงบและร่มเย็นสมนามสกุล ผองเราพอใจเรียกท่านว่า ‘อาจารย์เบิ้ม’ เห็นสนิทใจมากกว่า

-02.jpg



ถนนชีวิตของอาจารย์เบิ้มพบเจอเหตุการณ์ทั้งดีร้ายมามากโข ในทางโลกที่เป็นนักกีตาร์มือหนึ่งของผับใหญ่ และทางธรรมก็วางกีตาร์ มาจับย่ามหลวงปู่โต๊ะสะพายตามไปในทุกแห่งหนที่คนนิมนต์ไป ในทางโลกที่พบคนทั้งสกุลต่ำกระทั่งโจรและสูงโลดถึงท่านผู้มีเชื้อสาย และในทางธรรมที่พบเจอพระเกจิอาจารย์เจ้าทั้งบวชใหม่ และบวชเก่า ทั้งคราวลูกและคราวเพื่อนของหลวงปู่โต๊ะ หล่อหลอมให้มีอาจารย์เบิ้มในวันนี้

อาจารย์เบิ้มไม่เคยอวดว่าเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่โต๊ะ แต่เราพอใจจะกล่าวเอง แม้ไม่ยกตนว่าเชี่ยวชาญในเรื่องเวทย์ แต่เราก็พบเอง พิสูจน์จากพุทธาภิเษกของหลวงพ่ออุตตมะทุกคราว ท่านผูกขาดอาจารย์เบิ้มเพียงผู้เดียว ทั้งคำนวณฤกษ์และบวงสรวงครูบาอาจารย์ ฤษี โยคี เทพ พรหม ทุกชั้นฟ้า ขาดอาจารย์เบิ้มไม่ได้เด็ดขาด คล้ายขาดอาจารย์แล้วจะเสกไม่ขลัง ถามหลวงพ่อ ท่านก็ตอบเรียบ ๆ

“อาจารย์เบิ้มเชิญแล้วมาจริงๆ”

คำประกาศของหลวงพ่ออุตตมะมหาเถระ วัย 93 ปี จะใช่คำยอหรือไม่ ผมไม่สน สนแต่เนื้อความที่พระระดับนี้ยังต้องชมเชย ฆราวาสผู้ไม่ห่มเหลือง แถมไม่ห่มขาวอีกต่างหาก
ครั้นแซวอาจารย์เบิ้มหนักเข้า ท่านก็ตอบผมยิ้มๆ ว่า

“ใจขาวก็พอ!!”

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2008 4:50 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
ปี พ.ศ. 2534 เป็นปีที่หลวงปู่พรหมา เขมจาโร วัดสวนหินฯ ภูกระเจียว เริ่มอุ่นเครื่องเรื่องชื่อเสียง ข่าวขลังของท่านแพร่กระจายไปในหมู่ผู้นิยมพระ ดังไฟลามทุ่งบนวัดที่แสนกันดารปราศจากไฟฟ้า และน้ำประปา แทบไม่มีแม้ศาลาให้สานุศิษย์อาศัยนอนพักหลบแดดฝนใด ๆ เมื่อยามบากบั่นขึ้นไปหาท่านประสาศิษย์ที่ดีมีกตเวทิตา อาจารย์เบิ้มจึงคิดทำพระถวายหลวงปู่พรหมา เพื่อสร้างเสนาสนะอย่างเป็นทางการ

อาศัยที่อยู่กับหลวงปู่โต๊ะมานาน และเรียนรู้วิทยาคุณกับท่านอาจารย์รอด สุขเจริญ ฆราวาสผู้ขลังสุดขีดในไสยเวทพุทธาคม ด้วยอาจารย์รอด เป็นศิษย์แท้ๆ ของพระครูวิมลคุณากร หรือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ทว่าท่านบวชอยู่กับหลวงปู่ศุขได้เพียง 30 พรรษา ก็จำต้องลาสิกขามาครองขาว หากยังเป็นพระอยู่คงไม่แคล้วดังสนั่น

-1.jpg



เมื่อมีครูดี การทำของก็ต้องทำให้ดี อาจารย์เบิ้มจึงเน้นเรื่องชนวนมวลสารมาก และไม่ต้องไปหาไกลเท่าใดนัก ค้น ๆ เอาในบ้านก็มากมาย เพราะเก็บสะสมไว้แต่หนุ่มแต่น้อย อาจารย์เคยบอกผมว่าไม่จดเรื่องชนวน เกรงคนจะหาว่าโม้ เชื่อก็เอา ไม่เชื่อก็อย่าเอาไป หากสุดท้ายอาจารย์ก็ใจอ่อน ยอมปรารภให้ฟังถึง ‘บางส่วน’ ของมวลสารดังนี้

1. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ) วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี กรุงเทพฯ

2. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์

3. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

และจะไม่กล่าวถึงแผ่นยันต์ต่าง ๆ มากมายหลายร้อยแผ่นที่พระเถรานุเถระในสายอีสานอันเป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์มั่นได้เมตตาลงให้ไว้แต่นานเน ทั้งยังพระยันต์เก่าเก็บจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศอีกเป็นกุรุสโกดัง ถึงขนาดอาจารย์ออกปากว่า “เสร็จงานนี้บ้านโล่งไปเยอะ”

ที่สำคัญยิ่งคือ แผ่นทองแดงลงอักขระยันต์ และคาถาต่างๆ นับพันบท ซึ่งจารโดยมือของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร อิสีขลังผู้ชาญพระเวทย์แห่งลุ่มน้ำโขง ได้ลงไว้มีจำนวนทั้งสิ้น 1 ปิ๊บเต็ม ๆ ทองแดงบางอย่างกระดาษวางลงในปีบจนเต็ม

มันจะมีกี่แผ่น?

-02.jpg



หลวงปู่พรหมาเสกปี๊บยันต์บน ‘คาย’ ในถ้ำอยู่นานมาก แล้วมอบให้ประสมกับชนวนพระกริ่งปวเรศ (ปี 2530) ซึ่งในหลวงเสด็จพระราชดำเนินเททองโดยพระหัตถ์เอง สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานพิธี, ชนวนพระกริ่งหลายรุ่นของสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่มีจำนวนพอสมควร มิใช่นิดหน่อยแล้วเขียนเอา , ชนวนพระกริ่งนเรศวร วังจันทน์, ชนวนพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง, ชนวนพระกริ่งปรโม ของหลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกเฌอ จ.ชลบุรี ชนวนพระกริ่งอรหัง ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่, ชนวนพระกริ่งพุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ , ชนวนพระกริ่งรุ่นต่าง ๆ ของหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ, ชนวนพระพุทธรูปเททองโดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.เชียงราย, ชนวนพระพุทธรูปเททองโดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา

เรื่องชนวนถ้าต้องเขียนจริง ๆ อาจต้อง 5 เล่มจบ จึงขอจบตรงนี้พอ

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2008 4:55 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
นอกจากนี้ยังมีเหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโณ, เหรียญหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ, เหรียญหลวงปู่สิม พุทธาจาโร, เหรียญหลวงปู่เกษม เขมโก, เหรียญหลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก แต่ละองค์นับร้อยเหรียญ ถ้ารวมพระคณาจารย์ต่าง ๆ ก็นับพันเหรียญ

ยังปรากฏชนวนศักดิ์สิทธิ์อาถรรพณ์ต่าง ๆ ที่ไม่อาจเปิดเผยที่มาได้ อาทิ พระเกศ และนิ้วพระหัตถ์ชำรุดของพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่งในประเทศไทย ตะกรุดชินตะกั่วโบราณ อายุ 200 ปี ตะปูสังขวานร เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กยอดปราสาท โลหะธาตุวิเศษนานาที่เป็นทนสิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ในตัวเองถูกเชิญมาสู่เบ้าหลอมสร้างเป็นพระทั้ง 3 พิมพ์

ที่สำคัญสุดยอดคือ พระยันต์บังคับทั้ง 108 ดวงและนะปถมัง 14 นะ อันเป็นสูตรโบราณในการเทพระสำคัญ ถูกจารลงในแผ่นทองคำบริสุทธิ์แท้จนครบตำรา มีน้ำหนักทั้งสิ้นถึง 50 บาท

-3.jpg



ส่งผลให้พระชุดนี้มีทุนสร้างมหาศาล หากไม่ใช่เพราะใจรัก และอาศัย ‘คุณธรรม’ เป็นที่ตั้ง คงไม่อาจตัดใจทำลงได้แน่แท้

สรุปว่า การเทพระวาระนี้ไม่มีโลหะเปล่าอันมิใช่ของวิเศษเจือปนลงไปให้เป็นที่ครหาเลยแม้แต่น้อย ชนวนน้ำหนักมากมายหลายสิบกิโลถูกนำมาวางเรียงรายบนโต๊ะยาวปูผ้าขาว แล้วทำการบันทึกภาพพร้อมถ่ายวีดีโอเป็นหลักฐานก่อน ต่อเนื่องไปถึงการหลอมเป็นเนื้อเดียว แล้วเททอง

องค์เททอง อาจารย์เบิ้มกำหนดที่ หลวงปู่ดี วัดสุวรรณาราม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งหลวงปู่อาจไม่ปรากฏชื่อเสียงแพร่หลายนัก เพราะท่านเก็บตัวเนื่องจากอาพาธด้วยโรคตา โดยเหตุที่ท่านเป็นศิษย์มือซ้ายของ พระพุทธวิถีนายก (บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งหลวงปู่บุญจะใช้ท่านจารคัมภีร์คัดลอกตำราต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เพราะท่านมีลายมือในการเขียนขอมได้อย่างสวยงามยิ่ง กระทั่งหลวงปู่ดีอายุได้ราว 80 ปี สายตาท่านก็เริ่มเสื่อมเรื่อยมาจนมองไม่เห็นในที่สุด ท่านจึงงดรับนิมนต์ใดๆ และแขกเหรื่อท่านก็ไม่สะดวกรับ

แม้ในวันที่อาจารย์เบิ้มท่านไปกราบอาราธนา ศิษย์ท่านยังพูดอย่างหวังดีว่า อย่านิมนต์ให้ยากเลย เสียเวลาเปล่า ครั้นได้เข้ากราบและเล่าความ ท่านกลับแสดงความกระตือรือร้นที่จะไปสอบถามวันเวลา สถานที่เป็นอย่างดีแล้วก็รับนิมนต์

-4.jpg



การณ์นี้สร้างความประหลาดใจให้ศิษย์ของท่านยิ่งนัก ยิ่งหนักเข้าไปอีกเมื่อหลวงปู่บอกว่า “รอเขาอยู่นาน” เมื่อพระเถระผู้เฒ่า ชนมายุ 90 ปี ไปเททองให้ตามวันเวลากำหนดแล้ว ท่านพูดในพิธีว่า วันนี้ดีมาก เทพ พรหม ลงมาอนุโมทนากันมากของในพิธีนี้ดีจริงๆ แล้วท่านก็ลากลับวัดไป เพียงไม่ถึงเดือน ท่านก็มรณภาพ ดังคำที่ว่า

“รอเขาอยู่”

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2008 4:58 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
มีเรื่องแปลกสมควรบันทึกไว้ คือ เมื่อเททองเสร็จกำลังรอให้โลหะเย็นตัวเพื่อทุบเบ้า ตรวจนับพระ ได้มีคณะบุคคลหนึ่งเข้ามาในโรงหล่อ เพื่อประกอบพิธีเททองเช่นกัน บุรุษอาวุโสในกลุ่มนึกอย่างไรไม่ทราบตรงเข้ามาขอดูพระบางช่อที่ทุบเบ้าออกแล้ว ครั้นจับสัมผัสเข้าก็สะดุ้งสุดตัวเรียกร้องให้พระภิกษุวัยกลางคนมาพิจารณา

เมื่อพระรูปนั้นถือท่านก็หลับตาลงอย่างตั้งใจ ทำอาการดุจตรวจสอบอะไรบางอย่าง แล้วลืมตาอย่างตื่นเต้น พลางว่า “นี่พระอะไรศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ อาตมาขอชนวนไปหล่อพระบ้างได้ไหม” อาจารย์เบิ้มเรียนตอบว่า ยังไม่อาจถวายได้ เพราะยังไม่ได้ตัดออกจากช่อ และยังไม่ได้นับจำนวน ท่านจึงถามว่า พระนี้ขอบูชาไปบ้างได้ไหม อาจารย์ว่า ยังไม่ได้ปลุกเสกเลย ท่านสวนตูม พระนี้ดีอยู่แล้วไม่ต้องทำพิธีอะไร แขวนได้เลย กลุ่มบุคคลนั้น จึงขออนุญาตเดินเก็บเศษทองที่หล่นอยู่รอบๆ เบ้าไปแทน

-01.jpg


-02.jpg



เรื่องนี้ประหลาดดี แสดงว่าคณะนั้นต้องได้สมาธิ จนสามารถตรวจเช็คพระได้ ดังศิษย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลายท่าน เมื่อสอบถามภายหลังจึงทราบว่า คณะนั้นมาเพื่อเทหล่อรูปเหมือนบูชาของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา ถ้าอย่างนั้นผมขอเดาว่าบุรุษภูมิฐานท่านนั้นคงเป็นคุณหมอเสรี วรรณไกรโรจน์ ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อพุธ และพระเถระรูปนั้นต้องเป็นท่านพระอาจารย์ชู วัดเขากะป่อม อ.เมือง จ.ชลบุรี ไม่สงสัย เพราะท่านอาจารย์ชูรูปนี้ สามารถสัมผัสพลังพระเครื่องได้แม่นยำน่ามหัศจรรย์ แม้หลวงพ่อพุธก็ยอมรับในข้อนี้ และคุณหมอเสรีเองก็เป็นศิษย์ท่านอาจารย์ชูที่ได้รับการถ่ายทอดวิชามาด้วยเช่นกัน

-01.jpg


-02.jpg



เหตุการณ์นี้ยืนยันได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระชุดนี้โดยแท้ แค่หลอมโลหะธาตุอันวิเศษเข้าด้วยกันประกอบพิธีเททองตามฤกษ์ยาม วันเวลาอันเป็นมงคล บวงสรวงตามตำราแท้แต่โบราณก็มีอานุภาพมากเพียงนี้ หากประกอบพิธีพุทธาภิเษกอย่างสมบูรณ์ด้วยแล้วจะเลิศเพียงใด

-01.jpg


_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2008 5:01 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
อาจารย์เบิ้มได้นำพระทั้ง 3 พิมพ์ เข้าพุทธาภิเษกในวาระต่าง ๆ ไม่เคยหยุด ไม่ว่าจะเป็นวัดพระแก้วฯ, วัดสุทัศน์ฯ, วัดราชบพิตรฯ, วัดบวรนิเวศน์ฯ, วัดอินทารามฯ, เป็นต้น เฉพาะวัดที่กล่าวนามมาก็ไม่ต่ำกว่าวัดละ 5 พิธีเสก และพระทั้งหมดได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกมาทั่วประเทศ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 พิธี

หากจะนับคณาจารย์ที่ปลุกเสกก็ไม่ต่ำกว่า 300 พระอาจารย์ และการนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว อาจารย์เบิ้มนำไปด้วยตนเอง จนคร้านจะไป เหตุที่พระนี้สร้างในปี พ.ศ. 2534 ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษยังปรากฏอยู่มากมาย การนำเสกจึงเป็นไปอย่างสนุกใจคนทำ

.jpg



หลวงปู่เกษม เขมโก, หลวงปู่แช่ม ฐานุสโก, หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ, หลวงปู่พรหมา เขมจาโร, หลวงปู่คำพัน โฆษะปัญโญ ดูจะเป็นองค์เสกชุดนี้อย่างบ่อยที่สุด นอกนั้นทั่วประเทศอาจารย์บอกผมอย่างเหนื่อยใจจะอธิบายว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2534-2538 ชอบใจหลวงพ่ออะไร นับถือใครเอ่ยชื่อมาเลย...เอ่ยมาเถอะ... เสกแล้วทั้งนั้น!

ให้บอกว่าใครบ้างที่เสกมันเหนื่อย พูดชื่อออกมาแล้วให้บอกว่าองค์นี้ไม่ได้เสกมันง่ายกว่า อหังการดีไหม?

ผมเชื่ออาจารย์เบิ้ม เพราะพระนี้เคยแสดงอภินิหารให้คนใกล้ตัวผมได้ประจักษ์มาแล้วมากราย ผมเองก็ทำตลับใส่ปู่ฤษีแก้วสารพัดนึก แขวนคออยู่เป็นประจำ ด้วยท่านเป็นพรหมาฤษีที่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดในหมู่ฤษีทั้งปวง การครองผ้าขาวอย่างโยคีแสดงถึงพรตแห่งพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ ไม่อาจครองหนังเสือเยี่ยงฤษีทั่วไป และโดยบุญบารมีที่ไพศาล จึงปรากฏดวงแก้วสารพัดนึกเป็นของคู่บารมีเฉกเช่นหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

.jpg


พระทุกแบบ พิมพ์ปิดตาหายากที่สุด ยากจนไม่มีรูปจะลงให้ดู ขอเป็นโอกาสต่อไปแล้วกัน คงมีเพียงปิดตานพเก้ากับปู่ฤษี พระทุกเนื้อเป็นนวโลหะแท้กลับดำ ไม่ทราบว่าหมดไปจากอาจารย์เบิ้มหรือยัง หากประสงค์จะทราบรายละเอียดมากกว่านี้ หาตัวอาจารย์เบิ้มให้พบ ถ้าไม่รู้ที่ ให้ไป ‘ร้านปลาวาฬ’ ถนนราชดำเนิน อาจารย์จะอยู่ที่นั่นทุกวัน ช่วง 1 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม ไม่รู้จักตัวจงมองหาชายวัยกลางคนใส่ แว่น มีกระเป๋าหนังใบเล็กอยู่ใกล้ตัว นั่นละ...
พบท่านแล้วจะโชคดี

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2008 5:53 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
แถมท้ายด้วยพระปิดตานพเก้าเนื้อนวโลหะครับ :ilu:

.jpg


_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 07 พ.ย. 2008 12:04 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 11:16 pm
โพสต์: 1786
ขอบคุณครับคุณ ultra chai
กำลังสนใจเรื่องฤษีของ หลวงปู่อยู่พอดี เรื่องนี้อาจารย์รณธรรม เขียนได้ดีมากครับ
อ่านเข้าใจง่าย พอมาได้ภาพประกอบอีก ยิ่งทำให้เรื่องราวชัดเจนขึ้น...จะว่าไปแล้ว
คติความเชื่อเรื่องนี้แต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันไปนะครับ อย่างของภาคกลาง
จะไม่ค่อยมีเรื่องแบบนี้ คติความเชื่อในเรื่องฤษีจึงมักจะออกมาในรูปแบบของ
การไหว้ครู ครอบเศียรครู ฯลฯ
สุดท้ายนี้คงต้องขอชมเชยผู้ที่นำมาโพส์ล่ะครับ.....
:grt:
ไม่ทราบว่า"ร้านปลาวาฬ" เนี่ย ปัจจุบันยังมีอยู่หรือเปล่าครับ ผมพึ่งจะเคยได้ยิน
:P


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 07 พ.ย. 2008 12:37 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
:grt: สุดยอดๆ โลภเลยอะเรา...เฮ้อ... :wet:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 07 พ.ย. 2008 10:34 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
แต่มีเด็กภาคกลางที่ลึกลับ สนใจเรื่องของฤาษีมากอยู่หลายคนนะฮะ

:ilu:

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 07 พ.ย. 2008 12:46 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
:shhy: ขอบคุณสำหรับคำชมครับพี่ศิษย์กวง

ร้านปลาวาฬ ปัจจุบันเข้าใจว่าปิดกิจการไปแล้วครับ :icry:

ปล. พระ "มหาฤษีแก้วสารพัดนึก" ชุดนี้ เคยสร้างประวัติศาสตร์สมัยออกให้บูชาวันแรกที่ใต้โรงหนังศรีย่าน

ใช้เวลาเพียง 4-5 ช.ม.เท่านั้น ได้ยอดเงินประมาณ 1.2 ล้านบาทครับ :grt:

เรียกได้ว่าช่วงนั้นชื่อเสียงของ "หลวงปู่พรหมา" ขึ้นถึงจุดสูงสุดของท่านเลยทีเดียวครับ :hhero:

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 07 พ.ย. 2008 9:39 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ขอบคุณครับน้องUltraChaiที่นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่แถมภาพให้อีกแบบไม่อั้น ทำให้หูตาสว่างขึ้นอีกเยอะเลย ขอบคุณแทนพี่ ๆ น้อง ๆ ชาว n. ทุกคนด้วยครับ ชอบ ชอบ

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 10 พ.ย. 2008 8:56 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 29 ก.ย. 2008 12:53 pm
โพสต์: 754
เห็นแล้ว อยากด้าย อยากด้าย ขอตังค์คุณแม่ที่บ้านก่อนดีกว่า :vvhpy: :vvhpy:

_________________
.........ถ้าเจ้าได้ทุกอย่างอย่างที่คิด
ชั่วชีวิตจะเอาของกองที่ไหน
จะได้บ้างเสียบ้างจะเป็นไร
ช่างหัวใครช่างหัวมันเท่านั้นเอง ..........


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 10 พ.ย. 2008 2:12 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ทุบกระปุกเลยครับคุณน้องบุญคุ้ม

ลองดูในตุ่มที่ฝังไว้หลังบ้านก็ได้ครับ อิ อิ :lol: :lol:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 11 พ.ย. 2008 8:58 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 29 ก.ย. 2008 12:53 pm
โพสต์: 754
ตุ่มมีแต่ไหปลาร้า ทุบออกมาก้อกระจายหมดสิครับ แต่จะทุบกระปุกออมสินดู ช่วงนี้แบบว่าชีวิตข้าราชการผู้น้อย เบี้ยก็น้อย เฮ้อ ไม่รวยซักกะที :wet: :idead:

_________________
.........ถ้าเจ้าได้ทุกอย่างอย่างที่คิด
ชั่วชีวิตจะเอาของกองที่ไหน
จะได้บ้างเสียบ้างจะเป็นไร
ช่างหัวใครช่างหัวมันเท่านั้นเอง ..........


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 11 พ.ย. 2008 11:33 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
เวลาไปคุยกับท่านพระอาจารย์ติ๋ว ลองตั้งใจฟังอะไรดี ๆ สิครับ เห็นเขาเฮงกันมาหลายคนแล้วนะ เวลาจะบอกใบ้ให้ลาภนี่ก็ขลังไม่ใช่เล่นนะครับ

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 11 พ.ย. 2008 11:35 pm 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
จริงครับ อู๊ด ก็เกือบเฮงแล้วครับ เพียงแต่ว่าวันนั้นมาได้ยิน (จัง จัง) ก่อนหวยออกประมาณครึ่งชั่วโมง น่ะครับ เฮ้ออออออออออ..........น่าฉงฉานตัวเองจิง ๆ เยย :cry: :cry:

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 12 พ.ย. 2008 9:14 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 29 ก.ย. 2008 12:53 pm
โพสต์: 754
สงสัยต้องตั้งใจมากกว่านี้ บางทีไปก้อเพลิน.......เข้าวัดเข้าวา เพลินทุกที :vvhpy: :vvhpy:

_________________
.........ถ้าเจ้าได้ทุกอย่างอย่างที่คิด
ชั่วชีวิตจะเอาของกองที่ไหน
จะได้บ้างเสียบ้างจะเป็นไร
ช่างหัวใครช่างหัวมันเท่านั้นเอง ..........


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 02 มี.ค. 2010 12:06 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 14 ต.ค. 2008 9:22 pm
โพสต์: 832
สอบถามคับ นะวันนี้ เดือนนี้ ปีนี้ จะสามารถหาพระมหาฤษีแก้วสารพัดนึกได้จากที่ไหนอ่ะคับ


:pry: :pry: :pry:

_________________
"สติเป็นบ่อเกิดของธรรม ใครอยากให้ธรรมเกิด พึงมีสติอยู่ทุกเมื่อ"


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 02 มี.ค. 2010 11:01 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 08 พ.ย. 2008 5:10 pm
โพสต์: 340
ยากครับ ผมยังรอคิวพระปิดตาจากคุณอู๊ดๆ อยู่เลย แต่ผมขอพิมพ์ยันต์ยุ่งจะดีกว่า พิมพ์บายศรีเลี่ยมยาก ไม่เข้ากลุ่มด้วย


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO