พระอาจารย์วัน วัดเสาธงทอง

[รณธรรม ธาราพันธุ์]

.วัน ๑.jpg (71.99 KiB) เปิดดู 2557 ครั้ง

พระอาจารย์วัน วัดเสาธงทอง เป็นเกจิอาจารย์ทาง จ.นครศรีธรรมราช มีจุดเด่นคือท่านชอบเดินถือไม้เท้าหัวหงส์ ผมได้พูดคุยกับท่านอาจารย์วันนานมากแล้วครับ สมัยท่านไปกับท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ไปกินว่านที่เขาอ้อ และทางอาจารย์เล็กได้ไปช่วยงานพุทธาภิเษก ทางท่านอาจารย์ศรีเงินมีงาน ซึ่งวันนั้นทางผู้จัดหาว่านไม่สบายครับก็เลยไม่ได้กินว่านกินมัน แต่ได้ไปร่วมงานพุทธาภิเษกแทน

.วัน ๒.jpg (33.91 KiB) เปิดดู 2559 ครั้ง

ซึ่งครั้งนั้น ท่านขุนพันธฯ ก็ได้ร่วมพิธีปลุกเสกด้วยครับ ท่านอาจารย์วันได้รับหน้าที่ในการสอบถามเจ้าที่เจ้าทาง

ผมขอเข้าเรื่องท่านอาจารย์วันล่ะ

ผมพบท่านและได้ร่วมพูดคุยกับท่านด้วยความไม่รู้ ถามท่านว่า "ท่านอาจารย์วันครับ ไม้เท้าอะไร ?"

ผมสอบถามท่านไป ถามไป 2-3 ครั้งท่านก็เฉย ผมก็ถามไปอีกคำถามว่า

"ท่านอาจารย์ครับไม้เท้าหัวเป็ดทำขึ้นมาเองหรือครับ"

พระอาจารย์วันท่านก็ตอบว่า "เฮ่ย ! ไม่ใช่หัวเป็ด แต่เขาเรียกหัวหงส์"

ผมนึกถึงตอนนี้ทีไรอดยิ้มและหัวเราะออกมาในความ "ไม่รู้ประสาของผมที่ยังด้อยประสบการณ์" ที่ทะลึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตอนนั้นผมอายุประมาณ 25 ปีได้ครับ ก็ยังไม่รู้เรื่องสักเท่าไร คุณตาขุนพันธฯ ก็ประมาณ 95-96 ปี ครับ

ผมได้ฟังเรื่องราวของพระอาจารย์วัน "เรื่องวิธีการจับผี" ของท่านโดยลูกศิษย์ท่านคนนี้ก็ถือได้ว่าได้ช่วยเหลือท่านทำพิธีกรรมหลายครั้งพอสมควร เป็นพี่ทำงานอยู่การไฟฟ้าเขต 2 จ.นครศรีธรรมราช (ขอสงวนนามครับ) จะเป็นผู้ว่าขึ้นพระให้ทางพิธีกรรมของอาจารย์เล็กเป็นบ้างครั้งเช่นกันครับ

พี่เขาเล่าให้ฟังว่า ท่านอาจารย์วันเวลาท่านจับผีจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ชนิดหนึ่งไว้ใส่ผีครับ ฟังแล้วเหมือนหม้อดินเผา แต่ที่ใส่ของท่านกลับเป็น "ขวดลิโพ" และก็ "ดินสอจาร" ไว้เขียนสะกด

.วัน ๓.jpg (14.32 KiB) เปิดดู 2555 ครั้ง

ท่านอาจารย์วันเล่าให้ฟังว่า

"การจะทำการจับผีได้เหมือนเรา อันดับแรก...

1.ต้องฝึกนั้งสมาธิให้ตนเอง สามารถนั่งมองเห็นกระดูกตนเองเป็นสีขาวให้ได้ก่อน

2.ต้องฝึกนั่งสมาธิให้ตนเอง สามารถมองเห็นกระดูกคนรอบข้างเป็นสีขาวให้ได้เช่นกัน

เมื่อปฎิบัติแล้วและทำได้แล้ว พวกเจ้าก็สามารถทำได้แบบเราเอง เวลาเราจับผี จะใช้วิธีการเพ็งมองผู้ที่ถูกภูตผีเข้ามาแอบในร่างกายและจะมองเข้าไปตามจุดของร่างกาย หากมองแล้วกระดูกเป็นสีดำแสดงว่าผีมันเข้าไปจับจุดนั้นอยู่"

ขั้นตอน

1. ผู้เริ่มทำพิธีกรรมจับภูตผี ต้องทำการปิดประตูลมที่มือ, ที่เท้า, ที่ศีรษะทั้งพระและฆาราวาสที่ช่วยพิธีกรรม เพราะป้องกันผีวิ่งเข้าสิงสู่ตนเองข้อนี้สำคัญครับ

2. ให้ผู้ป่วยที่ถูกผีเข้านอนบนเสื่อเพื่อทำการเพ็งดูจุดที่ผีสิงอยู่ แล้วให้ผู้ที่เป็นฆาราวาสจับมือและเท้าไว้ไม่ให้ทำการวิ่งหนี และให้ฆราวาสที่ช่วยในพิธีกรรมถือดินสอ ทำการจี้จุดลงไปตามตำแหน่งที่ผีสิง พระอาจารย์วันจะทำการควบคุมกำกับอีกครั้งตลอดเวลา

3. เมื่อทำการจี้จุดลงไปยังตำแหน่งนั้น ๆ แล้ว ผีจะกรีดร้องและหลุดออกมาทันที เมื่อผีหลุดออกจากร่างกายที่สิงสู่แล้วนั้น จะไม่มีที่เกาะยึด เสมือนวิญญาณที่อยู่ในทะเลคลื่นลมแรง

4. ท่านอาจารย์วันจะทำลักษณะชูนิ้วชี้เพื่อทำการสะกดวิญญาณด้วยคาถา "สุนะมัตสุ" แล้วเมื่อผีมายึดเกาะที่นิ้วชี้ท่าน แล้วท่านก็จะใช้มือขวาจับนิ้วชี้ท่านเพื่อทำการสะกดมัดตามคาถา "สุนะมัตสุ" เมื่อมัดแล้ว ก็ทำการว่าคาถาคลายพร้อมกับเป่ามือที่กำไว้ให้จ่อตรงกับปากขวดลิโพที่เตรียมมา แล้วบริกรรมคาถาพร้อมเป่าให้วิญญาณนั้นลงไปในขวดลิโพ เมื่อทำการบรรจุวิญญาณแล้วเสร็จ ก็นำขวดใส่วิญญาณเหล่านั้นไปทำการทำบุญกรวดน้ำอุทิศบุญไปให้

.วัน ๔.jpg (16.73 KiB) เปิดดู 2556 ครั้ง

.วัน ๕.jpg (19.37 KiB) เปิดดู 2554 ครั้ง

.วัน ๖.jpg (24.81 KiB) เปิดดู 2550 ครั้ง

5. โดยก่อนจะทำการกรวดน้ำ ต้องก่อกองไฟสำหรับทำการเผาขวดบรรจุวิญญาณไปวางบนกองไฟที่ก่อไว้ เมื่อวางเสร็จให้ทำการเดินสวด "อิมัสสมิง จะเสมานาเขตเตฯ" จนกว่าขวดระเบิด ท่านอาจารย์วันท่านบอกว่า เมื่อขวดระเบิดแล้วจะขึ้นสูงถึง 7 โยชน์ ขึ้นสวรรค์ไปไกลไม่กลับมาอีกแล้ว

6. ทำบุญกรวดน้ำให้เขา"

มีเหตุการณ์ประหลาดเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น ทางศิษย์อาจารย์วันได้เล่าเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับเพื่อนที่ทำงานด้วยกันว่า เมียเขาถูกผีเข้ามีอาการผิดปกติ จึงติดต่อไปทางพระอาจารย์วันให้ท่านช่วย ท่านก็รับปากจะช่วยแล้วบอกว่า ให้เอาตัวมา แต่ต้องหลอกว่ามาทำบุญ ไม่ได้มาทำพิธีกรรมจับผี แต่ต้องหลังเพลแล้ว และบอกให้ศิษย์ผู้นั้นทำการลางานไว้เลยเพราะไม่มีคนช่วยท่านทำพิธีกรรม

วันนั้นสรุปแล้วมีผีสิงอยู่ในร่างเมียเขาประมาณ 30 ตัว ซึ่งผู้ที่ใช้ดินสอจารสะกดเป็นเพื่อนกันครับ ก็ดำเนินการจี้ไปตามจุดต่างที่ทางท่านอาจารย์วันได้บอกให้ทำนั้น ๆ จนถึงตัวที่ 30 ซึ่งเป็นตัวสุดท้าย ท่านอาจารย์วันบอกว่าเป็นผีแม่ลูกอ่อน ไม่ยอมออก กลับหนีไปซ่อนอยู่ใน "เป็ด"

ทางศิษย์ที่ทำการจารด้วยดินสอเองก็ไม่กล้าครับเพราะเป็นที่สงวนของเมียเพื่อน ด้วยคำว่า "เพื่อน" แกก็หันหน้าไปพูดกับเพื่อนว่า

"เอา...ตรงนี้ที่ของมึงเพราะเป็นเมียมึง รับดินสอไปจี้"

เพื่อนตอบกลับว่า "ไม่เอา ! ไม่กล้า ! กูกลัวผีเข้ากู กูอนุญาตให้มึงทำแทน...กูกลัว"

เมื่อได้ทำการตกลงรับปากกันแล้ว แกก็กลั้นใจจี้ลงไปที่ "เป็ด" นั้น ในทันทีนั้นเมียเพื่อนก็กรีดร้องออกมาดังมาก แล้วก็เงียบไป พอสักพักก็รู้สึกตัวเป็นคนปกติเหมือนเดิม แต่แล้วหลังจากนั้น 2 วัน ประมาณว่า มันมาแก้แค้นคืน ผี 7 ตัวเข้าสิงศิษย์อาจารย์วันคนนี้แทน เข้าไปถึงหัวเข่าด้านซ้าย เขาจึงสะกดไว้ไม่ให้มันเคลื่อนไปไหน แล้วพี่เขาก็รีบขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านพร้อมกับให้เมียซ้อนท้ายไปด้วย มุ่งตรงไปหาท่านอาจารยฺ์วัน พอไปถึงปรากฏว่าท่านยืนคอยอยู่ที่หน้ากุฏิแล้ว

พอจอดรถท่านก็บอกว่า "รู้แล้ว"

ท่านพูดพร้อมหัวเราะแล้วอธิบายว่า "โดนแล้วจะได้เป็นประสบการณ์... เอาเข้ามาจะทำการถอนให้"

เรื่องราวและประวัติท่านอาจารย์วัน วัดเสาธงทอง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในเรื่องจับผีก็มีเพียงเท่านี้.


...................................................................................

ขอบพระคุณคุณขุนทะเล จากเว็บพ่อขุนทะเล

[พรหมาศ]

เข้ามาตีตั๋วอ่านคับ

[hunztong]

เพิ่งรู้วิธีการจับผีก็คราวนี้แหละครับผม
ขอบคุณข้อมูลดีๆแบบนี้คร้าบ อ.ต่อ

[จิ้งจก]

Ghostbusters-Photograph-C12119601.jpg (53.39 KiB) เปิดดู 2498 ครั้ง

อ่านจบแล้วคิดถึงเรื่อง Ghost Buster เลย แต่ในหนังฝรั่งมันใช้เครื่องไม้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์มากมายสู้พระอาจารย์วันไม่ได้เลย แค่นิ้วมือ ดินสอ ขวดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง กองไฟสำหรับเผาขวดแล้วก็กรวดน้ำสุดยอดจริงๆ ครับ

[artcrub]

ตอนลงไปนครศรีฯ แวะไปในเมืองแต่หาวัดเสาธงทองไม่เจอครับ ไม่รู้ว่าวัดอยู่ตรงไหน


ได้แต่ไปกราบพ่อท่านไข่ ที่บางขัน ท่านให้ธรรมะกลับมา ดีมากๆเลยครับ....

[รณธรรม ธาราพันธุ์]

โมทนาด้วยครับ

[ศิษย์กวง]

ตอนลงไปนครศรีฯ แวะไปในเมืองแต่หาวัดเสาธงทองไม่เจอครับ ไม่รู้ว่าวัดอยู่ตรงไหน


ได้แต่ไปกราบพ่อท่านไข่ ที่บางขัน ท่านให้ธรรมะกลับมา ดีมากๆเลยครับ....

โชคดีจังเลยครับ ได้กราบพ่อท่านไข่ด้วย เยี่ยม...