Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

หลวงปู่โลกอุดร

อาทิตย์ 18 ต.ค. 2009 12:34 am

หลายคนคงได้อ่านเรื่องราวของท่านมามากมาย ลองมาฟังพระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี พูดถึงเรื่องของท่านบ้างนะครับ

luang%20por.jpg
luang%20por.jpg (29.49 KiB) เปิดดู 4396 ครั้ง


"ฉันฟังมาตั้งนาน โลกอุดร โลกอุดรใครหนอ มีวันหนึ่งก็เลยนั่งอยู่ ใครกันหนอ...? อ้อ...พอเจอหน้าก็ร้องอ้อเลย แต่ว่าท่านพวกนี้ทั้งหมด เดิมทีต้องมาจากพุทธภูมิก่อน พอใกล้จะเต็มก็ลา ลาจากพุทธภูมิเป็นสาวก ก็เลยต้องทำงานพุทธภูมิ ถ้าสาวกจริง เขาไม่เอาด้วยหรอก เขาทำงานเฉพาะเรื่องของเขา ที่เห็นว่ามีเยอะๆ ทำได้ก็เงียบฉี่ คืองานของเขาไม่มี พวกนี้ถ้าถึงจุดเขาเว้นงาน คือต้องทำงานตามหน้าที่

มันมีเรื่องหนึงที่เราพูดกันแล้วเหมือนคนบ้า...

ไอ้ก่อนที่จะลงมานี่มันมีสัญญาใจ ว่าจะมาทำงานอะไร เวลาลงมาเกิดใหม่ๆ ไม่รู้เรื่องหรอก จิตไม่ถึงที่สุด ถ้าจิตถึงที่สุดกระเทาะเปลือกสัญญา อีตอนนี้แหละงานอื่นที่เคยทำมาแล้วก็โยนทิ้งหมด เอาเฉพาะงานของตน

ไปๆ มาๆ ก็ไปเจอะท่าน ไปเจอะกับท่าน ฉันอยากนึกจะเจอก็ชนปั้งเลย เมื่อชนปั๊บ ถามว่า

"เป็นพุทธภูมิมาก่อนใช่ไหม"

คือว่าพวกนี้ถ้าไม่สงสัยแกก็ไม่รู้เรื่องฉัน ถ้าสงสัยก็ชนกันเมื่อนั้นแหละ ต่างคนต่างขี้เกียจด้วยกัน มันไม่เก่งแล้ว มันต้องเก่งมาตอนต้นๆ ตอนต้นก็อยากเก่ง ไอ้นักมวยตอนที่หัดใหม่ๆ ไปไหนกำหมัดยิกๆๆ ฉันเป็นนักมวย เอาเข้าเป็นแชมป์แล้ว เขาก็เลิก พระก็เหมือนกัน แก่แล้วก็เลิก แก่ก็มีเรื่องเด็ก ขี้เกียจ จะรู้อะไรไปทางไหนก็ตายแหงๆๆ อย่างพวกนี้ ตายแล้วจะไปไหน หาทางให้มันให้ไปแล้วไม่มาใช่ไหม อะไรบ้างที่เราจะเปลื้องความทุกข์ไอ้การเวียนว่ายตายเกิด ก็ภาวะจิตมุ่งตรงสู่นิพพาน คือไอ้การอยากรู้ อยากเห็นก็เลิกกัน แต่ว่าเหตุใหญ่มันชนกันเข้าก็ต้องรู้ สงสัยเขาก็พูดกันเรื่อยเลย โลกอุดรๆๆ คือใคร

ก็มีคนหนึ่งบังเอิญเข้าไปพบ และก็ขอถ่ายภาพ ภาพแรกเป็นพระ กล้องเดียวกันถ่ายทีเดียว ขอถ่ายอีกทีกันเสีย มีภาพนุ่งโสร่ง ผ้าขาวม้าคาดพุงมีดเหน็บข้างหลัง ถามมึงถ่ายอะไร ฟิลม์เดียวกันครับ ขอถ่ายครั้งที่ ๒ แกร็ก...กันเสีย ก็ไม่เสีย ได้อีกภาพหนึ่ง ถ้าได้ซ้ำก็เสียฟิลม์เปล่าใช่ไหม พวกตกใจใหญ่ เป็นไปได้รึ เขาเป็นจะถามทำเกลืออะไร ก็เพราะมันเอง มันเห็นเอง ถามเป็นไปได้หรือ เป็นไปได้แล้ว ไม่น่าจะมาถามเลย

โลกอุดร ชื่อจริงๆ ก็ อุตตระ พระที่นำพระไตรปิฎกเข้ามาสุวรรณภูมิ อุตตระกับโสณะ หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว...ถ้าถามว่าอยู่ได้ยังไง อย่าลืมคำหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสว่า

"ผู้ใดถ้าคล่องอิทธิบาท ๔ สามารถจะอธิษฐานร่างกายอยู่ถึงกัปหนึ่ง"

อย่าลืมนะผู้ที่คล่องอิทธิบาท ๔ คือ พระอรหันต์ พระอนาคามีนี่ถือว่ายังไม่คล่อง เพราะอะไร ยังตัดสังโยชน์อีก ๕ ไม่ได้ ถ้าพระอรหันต็ก็ถือว่าคล่อง ไอ้คล่องไม่ใช่ว่าเฉยๆ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อั๊วะก็ว่าได้นี่ นี่ไม่ได้นะ"

post-1-1253370087.jpg
post-1-1253370087.jpg (53.22 KiB) เปิดดู 4803 ครั้ง


จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๕๖ หน้า ๔๗-๔๘

Re: หลวงปู่โลกอุดร

อาทิตย์ 18 ต.ค. 2009 9:21 pm

อ้าว หลวงพ่อฤาษีพูดตรงกับที่หลวงปู่ดู่บอกเลยครับ

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 12:09 am

เอ่อ คุณต่อ อย่าหลอกให้อยากแล้วจากไปสิครับ มันว้าเหว่ชอบกล :idead:

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 8:22 am

ใช่ครับพี่ต่อ หลวงปู่ต่อเล่าว่ายังไงอ่ะคับ

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 9:37 am

ขอบคุณครับคุณ เบ้คหนุ่ย และ คุณอารณธรรม :D

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 6:55 pm

ครั้งหนึ่งที่คณะศิษย์นั่งคุยกับหลวงปู่ดู่ ก็คุยกันด้วยเรื่องสัพเพเหระทั่วไปแต่ก็ล้วนเป็นธรรมะทั้งนั้น จนมาถึงเรื่องหนึ่งที่ทุกคนมีความสงสัย แต่ยังไม่มีใครกล้าถาม ก็มีศิษย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่หลวงปู่เอ็นดูรักใคร่เป็นพิเศษ ถือโอกาสนั้นกราบเรียนถามท่านว่า "หลวงพ่อครับ หลวงปู่โลกอุดรมีจริงไหมครับ ?"

ถามแล้วก็กลั้นใจรอคำตอบกันทุกคน

หลวงปู่นิ่งไปพักหนึ่งก็ถามกลับมาว่า "แกเคยเรียนหนังสือกัน ในหนังสือสอนไหมว่าใครที่นำเอาศาสนาพุทธมาเผยแผ่ในสุวรรณภูมิ ?"

ทุกคนก็พนมมือแย่งกันตอบ "พระโสณะเถระกับพระอุตตระเถระครับ(ค่ะ)"

หลวงปู่ก็ยิ้มแล้วว่า "ใช่ พระโสณะนั้นท่านนิพพานไปแล้ว แต่พระอุตตระเถระท่านยังอยู่ ท่านอธิษฐานคอยดูแลพระพุทธศาสนาไปจนครบห้าพันปี"

ดังนั้น เราจึงมานั่งตรองกันตามหลักบาลีไวยากรณ์ "อุตตระ" แปลว่า เหนือ เมื่อแปลงมาอีกคำเป็น "อุดร" ก็แปลว่า เหนือ เช่นกัน เพราะฉะนั้น หลวงปู่โลกอุดร แปลแล้วได้ความว่า หลวงปู่เหนือโลก ซึ่งคิดว่าพระอุตตระเถระท่านคงนิยามชื่อท่านขึ้นใหม่เพื่อป้องกันการสืบสาวถึงเรื่องราวของท่านได้(สำหรับคนที่ไม่มีฌาน-ญาณ) อันจะเป็นเหตุให้มีแต่เรื่องวุ่นวาย

ส่วนรูปด้านบน ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร เมตตาเล่าให้ฟังว่า ท่านไปที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งมีการเขียนจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปพุทธประวัติและประวัติตอนพระพุทธศาสนาเข้ามาสู่แคว้นสุวรรณภูมิ .....

โอ้ย คนแก่เหนื่อย ไปพักจิบชาก่อนนะจ๊ะ

(เช็คเรทติ้งซะหน่อย อิอิ :mrgreen: )

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 7:08 pm

ระหว่างนี้ แดนซ์รอไปพลางๆกันดีก่าฮะ

4a07912c1d126.gif
4a07912c1d126.gif (304.74 KiB) เปิดดู 3061 ครั้ง

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 7:13 pm

:pry: :pry:

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 7:32 pm

:o :o
พักจิบน้ำชา หรือไปวิดน้ำที่เข้าบ้านครับ :lol: :lol:

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 8:02 pm

:ydie: :ydie: :ydie:

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 9:59 pm

:vvhpy: :vvhpy: :vvhpy:

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 11:10 pm

ยั่วให้อยากแล้วก็จากไป....คนเรา...

Re: หลวงปู่โลกอุดร

จันทร์ 19 ต.ค. 2009 11:16 pm

:ilu:

Re: หลวงปู่โลกอุดร

อังคาร 20 ต.ค. 2009 8:12 am

:vvhpy: น้ำทะลักเข้าอาศรมเหรอครับอาจารย์ !! :mrgreen:

Re: หลวงปู่โลกอุดร

อังคาร 20 ต.ค. 2009 1:54 pm

เด๋วงอนไม่อ่านต่อบ้างดีก่า ผมก้อแก่พอทันได้อ่านบทความพวกนี้นะ ฮึ ฮึ :hhero: ล้อเล่ง

Re: หลวงปู่โลกอุดร

อังคาร 20 ต.ค. 2009 2:06 pm

อ้าว..คนแก่หลอกเด็กให้นั่งรอจนหลับหมดแล้ว งั้นช่วงนี้เอาหนังตัวอย่างไปดูพลางๆก่อนนะ เกี่ยวกับหลวงปู่โลกอุดร เดี๋ยวรอคนแก่วิดน้ำเสร็จค่อยดูแบบสมบูรณ์
ในสมัยที่หลวงปู่กอง วัดสระมณฑลออกธุดงค์อยู่นั้น หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปถึงที่ถ้ำบัวแดง จ.ชัยภูมิ ณ สถานที่นั้นเองที่ท่านได้เจอกับพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งของท่าน ที่ท่านให้ความเคารพเทิดทูนมาก นั่นคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ด้วยความเคารพรัก และบูชาในคุณธรรมของท่าน หลวงปู่จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรขนาดใหญ่ ไว้ให้ศิษยานุศิษย์บูชาไว้ภายในโบสถ์วัดสระมณฑลด้วย...จบ :mrgreen:
แนบไฟล์
32.jpg
32.jpg (95.3 KiB) เปิดดู 2905 ครั้ง

Re: หลวงปู่โลกอุดร

อังคาร 20 ต.ค. 2009 3:53 pm

:lol: :lol: ขอบคุณครับพี่ราชันย์ดำ

Re: หลวงปู่โลกอุดร

อังคาร 20 ต.ค. 2009 9:59 pm

ราชันย์ดำ เขียน:อ้าว..คนแก่หลอกเด็กให้นั่งรอจนหลับหมดแล้ว งั้นช่วงนี้เอาหนังตัวอย่างไปดูพลางๆก่อนนะ เกี่ยวกับหลวงปู่โลกอุดร เดี๋ยวรอคนแก่วิดน้ำเสร็จค่อยดูแบบสมบูรณ์
ในสมัยที่หลวงปู่กอง วัดสระมณฑลออกธุดงค์อยู่นั้น หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปถึงที่ถ้ำบัวแดง จ.ชัยภูมิ ณ สถานที่นั้นเองที่ท่านได้เจอกับพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งของท่าน ที่ท่านให้ความเคารพเทิดทูนมาก นั่นคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ด้วยความเคารพรัก และบูชาในคุณธรรมของท่าน หลวงปู่จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรขนาดใหญ่ ไว้ให้ศิษยานุศิษย์บูชาไว้ภายในโบสถ์วัดสระมณฑลด้วย...จบ :mrgreen:

ตามภาพมีพระผงด้วยหรือเปล่าครับท่านผู้ทราบทั้งหลายขอข้อมูลด้วยครับ ขอบคุณขอรับ :lcky:

Re: หลวงปู่โลกอุดร

ศุกร์ 06 พ.ย. 2009 8:57 pm

คุณต่อครับ... ผมได้เคยพูดคุยกับเพื่อนเกี่ยวกับหลวงปู่เหมือนกัน แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเพื่อนเอยถึงหลวงปู่ในดงและศิษย์ที่เรียนกับหลวงปู่ในดง และเรียนกับหลวงปู่นอกดง ทีแรกคิดว่าคงเป็นหลวงปู่โลกอุดร แต่ไม่ใช่
ผมว่า ถ้าเล่าหรืออธิบายก็ยาวหลายหน้ากระดาษน่ะ แต่ผมก็ยังพยายามศึกษาหาข้อมูลอยู่ ยิ่งหาก็ยิ่งลึก ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายๆหลวงปู่ที่ละสังขารแล้วก็มี ที่ยังคงสังขารอยู่ผมก็พยายามตามหาแต่ยังไม่พบ

ถ้ารู้ว่าหลวงปู่หลวงพ่อที่เราสามารถพบท่านอยู่ที่ใดก็กระซิบบอกบ้างน่ะครับ...

Re: หลวงปู่โลกอุดร

เสาร์ 07 พ.ย. 2009 1:50 am

มีน่ะมีอยู่หรอกครับคุณจิตมั่น ครูบาอาจารย์ที่เคยได้พบกับ "ท่าน" จริง ๆ แล้วยังมีชีวิตอยู่ แต่ท่านที่เคยพบจริงเหล่านั้นก็ไม่มุ่งหวังให้เราไปพบกับหลวงปู่ผู้อยู่เหนือโลกองค์นั้นเลย เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเรา

เนื่องจากหลวงปู่องค์ดังกล่าวจะปรากฏแก่ใครก็ต่อเมื่อผู้นั้นปฏิบัติธรรมอย่างจริง ๆ จัง ๆ และอาจยังต้องอาศัยบุพกรรมที่เคยประกอบร่วมกับท่านมาแต่ปางก่อน มิใช่นึกอยากเจอก็ได้เจอกันง่าย ๆ อย่างนั้น

ครูบาอาจารย์ที่ผมรู้จักว่าท่านมีคุณธรรมอย่างแท้จริงหลายต่อหลายรูปก็ล้วนเคยเจอหลวงปู่เหนือโลกดังว่ามา แต่ท่านเหล่านั้นก็เล่าเพียงเพื่อเป็นน้ำใจให้แก่ศิษย์ที่ทำอุปการะแก่วัดแล้วมีความอยากฟังท่านก็เล่านิดหน่อยพอประมาณ จากนั้นก็ร้อยทั้งร้อยท่านสรุปลงเป็นธรรมะทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าหลวงปู่องค์ดังกล่าวเมื่อมาหาก็มีวัตถุประสงค์ว่ามาสอน มาแนะแนวทางที่ทำให้การภาวนาอันติดขัดอยู่ไหลลื่นต่อไป มาแนะนำทางที่ถูกที่ควรให้ มิใช่มาปรากฏเพื่อให้สร้างเหรียญ สร้างรูปหล่อ สร้างชื่อลือชา สร้างกิเลสตัณหาให้แน่นหนามั่นคง

ดังที่เห็นได้จากพระสงฆ์และฆราวาสชายหญิงในยุคนี้ที่อ้างว่าตนได้เคยพบและเป็นศิษย์หลวงปู่โลกอุดร อ้างว่าท่านสอนวิชาอย่างนั้นอย่างนี้ให้ แล้วสุดท้ายก็จบลงด้วยขายวัตถุมงคลบ้าง ขายหนังสือพ็อกเกตบุ๊คพิมพ์ประวัติที่ว่าเคยพบเจอหลวงปู่โลกอุดรอย่างนั้นอย่างนี้ยาวเหยียดและสนุกสนานเต็มไปด้วยอภินิหารโลดโผนราวกับนิยาย และในที่สุดก็สรุปลงที่ว่าตนได้คุณธรรมข้อนั้นข้อนี้สูงส่งน่าเคารพบูชา แต่ความประพฤติประจำวันก็ไม่ได้ต่างจากคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ ซ้ำร้ายบางรายยังทำตนเป็นโจรปล้นพระศาสนา ปล้นคนที่มาหลงใหลศรัทธาเสียอีก

สิ่งเหล่านี้ถ้าเราไม่ "ลุ่มหลงมัวเมา" เราก็จะแยกของจริงของปลอมได้ไม่ยาก โดยตัวเราต้องอาศัยหลักของกาลามสูตรในการวัดคุณภาพตัวเอง และต้องอาศัยหลักของ "ศีลห้า" อีกทั้งธรรมะหมวดต่าง ๆ อาทิ ฆราวาสธรรม ๔ , พรหมวิหาร ๔ , หลักในการประพฤติธรรม เป็นต้น ในการวัดตัวเขาเหล่านั้น

มิเช่นนั้น เราก็จะถูกความอยากของเรา หลอกให้เราเข้าไปติดกับของคนอื่น ซึ่งชักใยไว้รอแมลงที่อยากเล่นกับไฟอย่างเรา...
ตอบกระทู้