Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

ศุกร์ 03 ต.ค. 2008 11:37 pm

บทความเรื่องนี้ผมไปค้นหาตามเว็บต่างๆ แล้วนำมาเผยแพร่ครับ บังเอิญเป็นเรื่องที่ผมกำลังสนใจอยากถามอาจารย์รณธรรมอยู่พอดี
----------------------------------------------------------
ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ
โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์
2.jpg
2.jpg (4.28 KiB) เปิดดู 16201 ครั้ง
ตลอดชีวิตของคน “ทำ” พระเป็น ย่อมรู้แน่แก่ใจว่าเครื่องมงคลชิ้นใดที่ตนได้ “บรรจุคุณ” ไว้อย่างเต็มที่ที่สุด หรือทราบชัดว่า ของสิ่งใดที่ทรงไว้ซึ่ง “อานุภาพ” อย่างถึงที่สุด แล้วมักเก็บงำของนั้นไว้เป็นอย่างดี ไม่ใคร่ตกถึงมือใครง่ายๆ ดังเช่นของสิ่งอื่นทั่วไป เช่น หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ยากที่ใครจะได้ตะกรุดธาตุหก, หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ยากที่ใครจะได้พระพรหมผง และสำหรับหลวงปู่คำพัน
1173934269.jpg
1173934269.jpg (75.63 KiB) เปิดดู 16209 ครั้ง
ใครจะเอาปฐวีธาตุก็ยากนัก คงเป็นเพราะท่านเหล่านั้นเกรงว่าผู้รับจะไม่รู้ถึงคุณค่าของของนั้น หรือไม่ก็กลัวผู้รับไปจะเปลี่ยนใจเป็นโจรในภายหลัง ซึ่งจะยากแก่การปราบปราม

ผมก็เดาได้แค่นี้แหละ
01.jpg
01.jpg (12.03 KiB) เปิดดู 16167 ครั้ง
ในศักดิ์สิทธิ์ฉบับก่อนโน้นที่เคยกล่าวถึงของป้องกันนิวเคลียร์ได้ มีหลายท่าน จ.ม. ไปถามผมว่ากันอย่างไรได้ระเบิดตกลงมาตรงหน้ายังกันได้หรือ? โถ ! ถ้าถึงขนาดนั้นอย่าว่าแต่คนแขวนเลย พระก็คงจะป่นนะครับ ที่ผมบอกว่าป้องกันได้นั้น หมายถึง กัน “กัมมันตภาพรังสี” ต่างหาก เป็นที่แน่ชัดว่าประเทศไทยไม่ถูกบอมบ์ด้วยนิวเคลียร์ดังเช่นที่ญี่ปุ่นเคยดอก แต่กัมมันตภาพรังสีที่ฟุ้งกระจายไปในชั้นบรรยากาศมันจะมากับอากาศที่หายใจกับเมฆ กับฝน และแม่น้ำ ลำธารต่างๆ ฝุ่นรังสีย่อมปนเปื้อนอยู่ทั่วไป มงคลวัตถุที่ท่านผู้ทรงคุณทั้งหลายเจริญภาวนาให้ จะมีอานุภาพทำลายกัมมันตภาพรังสีเหล่านั้นให้มีสภาวะเป็นกลาง ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย

ไม่ใช่ระเบิดตกลงหลังคาบ้านแล้วไม่ตายครับ

นั่นเป็นความเชื่อของผมโดยส่วนตัว ใครจะเชื่อก็ไม่ว่า ใครไม่เชื่อก็ไม่ว่าเป็นของธรรมชาติอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าตรัสสอนสัตว์โลกอยู่เป็นนาน คนเชื่อก็มีคนไม่เชื่อก็มี สำมะหาอะไรกับผม

คนไม่เชื่อหยุดอ่านก่อนได้เพื่อความสบายใจ ส่วนคนเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างเชิญอ่านต่อไป เพราะผมจะเข้าเรื่องสำคัญ

ย้อนไปเมื่อสมัยท่านเจ้าคุณนรฯ ยังทรงสังขารอยู่ ท่านเคยปรารภว่า พระรูปเหมือนนั่งในใบโพธิ์ของท่านประสบความสำเร็จ (คือมีคนนิยมมาก) ต่อไปจะมีผู้สร้างพระใบโพธิ์อีกมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จดังเช่นของท่าน
1190115078.jpg
1190115078.jpg (40.62 KiB) เปิดดู 16177 ครั้ง
หากจะมีพระทางภาคอีสานรูปหนึ่ง ประสบความสำเร็จในพระรูปเหมือนใบโพธิ์เช่นของท่าน แต่พระรูปนั้นจะต้องอธิษฐานจิตปฐวีธาตุได้ด้วย

ปรารภนี้เป็นที่น่าสนใจ ใครที่รู้ต่างก็ออกแสวงหาพระผู้เสกปฐวีธาตุเป็น คำว่า “เป็น” ของท่านคุณนรฯ คงหมายถึงทำได้มากจนแพร่หลายไปในหมู่ชนได้ ไม่ใช่ทำเพียงแค่ก้อนสองก้อนก็จบ

หากันอยู่นาน ก็ระแคะระคายว่ามีพระทางจังหวัดนครพนมรูปหนึ่ง ท่านทำปฐวีธาตุได้ เอ ! หรือท่านจะ “รับมุข” ที่ท่านเจ้าคุณนรฯพูด ทว่า เมื่อเช็คกับผู้รู้ท่านหนึ่งท่านว่าพระเถระรูปนั้นทำปฐวีธาตุแจกศิษย์มาแต่ปี พ.ศ. 2495 ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ เสียอีก
PDVD_196.jpg
PDVD_196.jpg (24.95 KiB) เปิดดู 16131 ครั้ง
จึงออกสืบเสาะจนได้ความว่าเป็น หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

หลวงปู่คำพันทราบถึงวิธีการอธิษฐานปฐวีธาตุได้อย่างไร มันมีที่มาอย่างนี้ครับ

กลับไปหลายสิบปีก่อน ครั้งหลวงปู่คำพันยังเป็นพระหนุ่ม ๆ มีผู้เฒ่าที่ครอบครองตำราสำคัญอยู่ นัยว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ครั้นชายชราใกล้ถึงที่สุดแห่งอายุขัย ก็ได้สั่งกำชับบุตรชายว่า เมื่อพ่อตายแล้วจงเอาคัมภีร์เล่มนี้ไปมอบให้กับหลวงพ่อคำพันแต่เพียงรูปเดียวเท่านั้น

สั่งความได้ไม่นานก็ลาโลกนี้ไป บุตรชายก็ทำตามสั่งทุกประการ นำตำราไปมอบให้หลวงพ่อคำพัน เมื่อท่านเปิดอ่านก็ปรากฏว่าตัวอักษรในนั้น เป็น “ตัวธัมใหญ่” ทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นอักขระที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ใช้จารเฉพาะตำราชั้นสูงเท่านั้น

เมื่ออ่านไปเรื่อยจึงทราบว่าหนังสือนั้นเป็นตำราที่ว่าด้วยการ “อธิษฐานปฐวีธาต” สามารถทำธาตุธรรมชาติธรรมดาให้มีอานุภาพ มีพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

ท่านจึงศึกษาวิธีการจนแตกฉาน จดจำได้ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาขอตำรานั้นไป ท่านก็กรุณามอบให้ ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใคร

หลวงปู่คำพันได้เมตตาอธิบายถึงคุณลักษณะของปฐวีธาตุที่ถูกต้องตามตำราทุกประการว่า ต้องเป็นกรวดที่แช่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น จะอยู่บนบกไม่ได้ ตัวกรวดเมื่อเก็บขึ้นมาต้องมีลักษณะเดิมตามธรรมชาติของเขา จะบิ่น จะแตกหักหรือร้าวไม่ได้เลย

ที่สำคัญสุดยอด คือต้อง “โปร่งแสง” เท่านั้น

คำว่าโปร่งแสงหมายถึง แสงสามารถลอดทะลุผ่านได้ ไม่ใช่โปร่งใส ถ้าโปร่งใสจะหมายถึงมองทะลุเห็นภาพอีกด้านได้ ซึ่งคงไม่มีกรวดชนิดใดเป็นเช่นนั้นแน่ หรือถ้ามีคงหายากสุดๆ

และด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันเป็นของหายากที่สุด แม้ว่าทางวัดจะพยายามแก้ไขด้วยการนำกรวดจากแม่น้ำโขงชนิดขุ่นมาถวายท่านอธิษฐานแทนก็ตาม มันก็หาถูกต้องตามตำราบังคับไม่ หากท่านก็อนุโลมให้เป็นปฐวีธาตุได้เช่นกัน

ผิดกับครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ เช่นท่านเจ้าคุณนรฯ ด้วยท่านมีข้อแม้กับปฐวีธาตุว่า ต้องอยู่ในอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น ส่วนจะใสหรือขุ่น จะใหญ่หรือเล็ก ท่านไม่เอามาเป็นประมาณ

ผมเองก็เพิ่งทราบว่า ไม่เพียงท่านเจ้าคุณนรฯ หรือหลวงปู่คำพันเท่านั้นที่ทำปฐวีธาตุได้ พระมหาเถระผู้ทรงคุณสูงสุดคือ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี ก็ทำปฐวีธาตุ แต่ง่ายดายมาก ด้วยการให้ศิษย์เก็บเอากรวดที่ข้างกุฏิท่านนั่นแหละมาอธิษฐาน

หาง่ายแต่หายาก

“หา” แรกง่าย เพราะเอากรวดข้างกุฏิไม่ต้องไปไกล “หา” หลังยาก เพราะของไม่มี คนอยากได้ก็ฝันไปก่อน รวมทั้งผม

ไม่เพียงหลวงปู่ขาวเท่านั้นที่ทำปฐวีธาตุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ก็ทำ ทำจริงๆนะ มีคนใกล้ชิดที่เชื่อถือได้ ได้รับจากมือหลวงปู่ดูลย์มาจริงๆ

ก็น่าแปลกที่ท่านเหล่านั้นสามารถทราบได้ว่ากรวดธรรมดาหากกำหนดจิตให้เป็นของมีพลังงานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนเกินปุถุชนจะเข้าถึงได้ละก็ ย่อมมีอานุภาพสุดจะประมาณ

ขนาดกันนิวเคลียร์ได้ก็แล้วกัน

หลวงปู่คำพันบอกว่า ในตำราระบุไว้ว่าผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้นต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือคาถาอาคมไม่ได้เลย จึงหมดสงสัยว่าทำไมหลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ก็ทำเป็น

ปฐวีธาตุของครูบาอาจารย์องค์อื่น ผมไม่ทราบว่าท่านอธิษฐานจิตในการป้องกันอย่างไร แต่ของหลวงปู่คำพันท่านอธิษฐานว่า

ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต

ท่านเรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป”

การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่” เหนือกว่าวัตถุมงคลทั้งปวงของท่าน

ครั้งหนึ่งท่านพระอาจารย์เวทย์ อาจารย์สัมปันโน ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่คำพัน คิดหาปฐวีธาตุ ชนิดถูกต้องตามตำราทุกประการมาถวายหลวงปู่คำพันเสก จึงหาอาสาสมัครได้พระ เณร และญาติโยมจำนวนหนึ่ง ออกค้นหาปฐวีธาตุในลำน้ำโขง

การตามล่าหาของดีในคราวนั้นเป็นความยุ่งยากลำบากเหลือแสน เพราะน้ำในแม่น้ำโขง เย็นยะเยียบ เมื่อลงแช่ไปนานๆ ก็เกิดหนาวสั่นจับไข้ไม่สบายกันถ้วนหน้า อีกทั้งกรวดที่ควานขึ้นมานับร้อยๆ ก้อนในแต่ละครั้ง จะมีใสตามตำราสักก้อนก็แสนยาก

บางก้อนใสแจ๋วแต่บิ่นก็ต้องทิ้งไป เวลาทิ้งก็ต้องเอาไปทิ้งไกล ไม่อย่างนั้นเวลางมลงไปก็เจอก้อนเก่าอีก บางทีลุยป่าหญ้าเข้าไปหาในที่ที่ว่างเปล่า งมๆ อยู่เจ้าของที่ก็มาไล่เพราะเขาไม่รู้ว่ามาทำอะไรกันก็มี จึงเป็นความทุกข์สาหัสของผู้ออกหาจริงๆ ทีมล่าปฐวีธาตุดำเนินการอยู่นานนับเดือน ปรากฏปฐวีธาตุชนิดถูกแบบ 100 % ได้เพียง 200 กว่าก้อนเท่านั้น

เป็นของยืนยันว่าหายากแท้ๆ

เมื่อนำปฐวีธาตุไปถวายหลวงปู่คำพันอธิษฐานจิตแล้ว คณะผู้ค้นหาก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ของดีขนาดนี้จะทำอย่างไรจึงสมควร ถ้าเพียงแต่เก็บงำเอาไว้กับคนบางคนก็จะตกอยู่แค่นั้น และต่อไปในกาลข้างหน้า ใครจะทราบไว้ว่ากรวดก้อนนี้คืออะไร ?

จึงตกลงใจสร้างรูปเหมือนหลวงปู่คำพัน ขนาด 3 นิ้วเศษๆ ด้วยเนื้อว่าน แล้วบรรจุของสำคัญสุดยอดนี้ลงไปเพื่อให้อยู่เป็นที่เป็นทาง และเพื่อเพิ่มความเป็นมหามงคลให้กับรูปเหมือน

พระรุ่นนี้สร้างในปี พ.ศ. 2538 มีจำนวนเพียง 227 องค์ เท่ากับจำนวนศีลของพระ รูปเหมือนทั้งหมดดำเนินการปลุกเสกแบบ “บินเดี่ยว” โดยหลวงปู่คำพันในอุโบสถโบราณของวัดแก่งตอย เป็นการเสกแบบเฉพาะเจาะจงลงไปสำหรับพระบูชา 3 นิ้ว, รูปเหมือนลอยองค์เนื้อว่าน ชนิดแขวนคอ รุ่น 2 และพระอุปคุตพันฤทธิ์ มีเรื่องแปลกอยู่ว่าขณะดำเนินการสร้างรูปเหมือนแบบบูชานี้อยู่ หลวงปู่คำพันก็ให้คนมาเอารูปเหมือนที่เสร็จก่อนเพื่อนไป 2 องค์ บอกว่าเพื่อเอาไปเสกก่อน แล้วมอบให้กับศิษย์คนสำคัญในวงการ 2 คน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระรูปเหมือนรุ่นนี้ยิ่งนัก

เมื่อผู้เสกถูกใจ คงไม่ต้องคิดให้มากว่าจะดีวิเศษอย่างไร ผมเห็นปฐวีธาตุเป็นของที่ดีที่สุดอยู่แล้ว จะหาชนิดถูกแบบอย่างนี้ก็หายาก ในเมื่อมีบรรจุอยู่ในรูปเหมือนนี้ ก็ต้องคว้าไว้ก่อน

ปัจจุบันรูปเหมือนแบบบูชารุ่นแรกยังพอมีเหลืออยู่ที่ท่านพระอาจารย์เวทย์เจ้าอาวาสวัดแก่งตอย จำนวนที่เหลืออยู่เข้าใจว่าราว 30 องค์ ทราบว่าทางวัดยังคงอัตราค่าบูชาไว้เท่าเดิม คือ 1,500 บาท ถ้าจะว่าแพงก็จงดูความละเอียดประณีตของงานก่อนเถิด ทั้งผง ทั้งเส้นเกศา ทั้งปฐวีธาตุชนิดถูกแบบล้วนมีอยู่ในพระรุ่นนี้อย่างสมบูรณ์ (บทความนี้เขียนไว้หลายปีแล้ว) ที่สำคัญ ราคานี้หลวงปู่คำพันเป็นผู้ตั้งเอง

ปัจจัยทั้งหมดหาได้ตกอยู่กับใครไม่ แม้แต่หลวงปู่คำพันผู้เป็นองค์เสก แต่จะเป็นทุนในการบูรณะวัดแก่งตอย ซึ่งเป็นวัดร้างมาเนิ่นนานในอดีตให้กลับเจริญรุ่งเรืองใช้ประโยชน์ได้สมเป็นศาสนสถานในพระพุทธศาสนา

ได้ทั้งของดี ได้ทั้งบุญ จะเอาอย่างไรอีก

ใครคิดว่าจะบูชามาเพื่อแกะปฐวีธาตุออกแขวนผมก็ไม่ว่ากัน

สมัยก่อนที่ คุณอำพล เจน อนุญาตให้บริเวณบ้านเป็นสนามลองพระอยู่นั้น ได้มีการหยิบยกเอาปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันชนิดไม่ถูกแบบมาทดสอบให้เห็นจริง โดยระบบ “ยิง” ซึ่งเป็นระบบพิสูจน์ให้เห็นจริงกันได้จะจะตา

คุณอำพลไม่ได้เป็นคนยิง ผู้ยิงเป็นตำรวจแม่นปืน แต่แม่นปืนก็ยังไม่ชัวร์ จึงต้องเอาปืนจ่อปฐวีธาตุในระยะ “เผาขน” ปากกระบอกปืน ห่างจากปฐวีธาตุไม่เกิน 1 นิ้ว เรียกว่าใครดีใครอยู่

ก่อนจะกดเปรี้ยงลงไป

ผลคือลูกปืนแฉลบผ่านองค์ธาตุไปได้อย่างน่าประหลาด ซึ่งในระยะจ่อยิงขนาดนั้น อย่าว่าแต่ปฐวีธาตุเลย ให้ยิงเด็ดหนวดยุงตัวผู้ก็คงไม่พลาด เป็นที่ประจักษ์ว่าคงอานุภาพด้านแคล้วคลาดกันภัยได้จริง

แม้ว่าปฐวีธาตุก้อนนั้นจะเป็นชนิดไม่ต้องตามตำราก็ตาม

แล้วถ้าถูกต้องตามตำราเล่า

ผมแนะนำได้เพียงเก็บรูปเหมือนเนื้อว่านรุ่นแรกนี้ไว้เถิด ถ้าใจเย็นนัก อาจต้องเสียความรู้สึกในวันหนึ่งข้างหน้า ดังที่ผมเคยเสียมาแล้ว เพราะตอนออกใหม่ๆ ไม่ได้เช่าบูชาไว้ คราวหนึ่งเดินทางขึ้นอุบลฯ ไปพักที่โรงแรมเดอะรีเจนท์ พบว่าในห้องล็อบบี้ของโรงแรมมีศูนย์พระเครื่องขนาดเล็กอยู่ด้วย จึงเดินเข้าไปชม เห็นมีรูปเหมือนรุ่นนี้วางอยู่สององค์ องค์หนึ่งลงรักเสียดำปี้ดเข้าใจว่าคงไม่สวยจึงลงรักทับ อีกองค์สวยงามสภาพเดิม

ผมเลยลองถามดูปรากฏว่าองค์สวย 3,000 บาท องค์ไม่สวย 2,000 บาท อื้อฮือ ! ขนาดอยู่ห่างบ้านคนสร้างไม่เท่าไหร่ เรื่องนี้สองปีมาแล้วนะครับ

รีบตัดสินใจเด้อ...
ขอให้พ้นสงครามโดยทั่วกัน...

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

เสาร์ 04 ต.ค. 2008 12:47 am

ขอบพระคุณคุณจิ้งจกมากครับ ที่กรุณานำเรื่องนี้มาลง

ตั้งแต่ผมเขียนหนังสือแบบเป็นล่ำเป็นสันมา ในเรื่องราวนับร้อยเรื่องที่เขียนนั้นเรื่อง "ปฐวีธาตุที่สุดแห่งขลัง" นี้ผมชอบมากที่สุด ไม่รู้ทำไมชอบ...

อาจเป็นเพราะ...เรื่องลึกลับอย่างนี้ผมชอบเป็นทุนอยู่แล้ว

อาจเป็นเพราะ...ผมมีใจเปี่ยมศรัทธาในปฐวีธาตุมาแต่สมัยท่านเจ้าคุณนร ฯ อธิษฐานอยู่แล้ว

ฤาอาจเป็นเพราะ...หลวงปู่คำพันได้ยก "หนังสือศักดิ์สิทธิ์" ฉบับที่ลงเรื่องนี้ขึ้นอ่านด้วยองค์ท่านเอง อ่านจบแล้วท่านให้ศิษย์โทรศัพท์ทางไกลถึงผม

เสียงจากเมืองไกลโพ้นฟากฝั่งแม่น้ำโขงแว่วมาตามสายว่า...

"เขียนได้ดีมาก หลวงปู่ขอชม ไม่เกินเลยความจริง เล่าอย่างไร ก็เขียนอย่างนั้น"

ด้วยปรารภจากหลวงปู่คำพันเพียงเท่านี้ จะซีไรท์ หรือ ประกาศนียบัตรใด ๆ ผมก็ไม่ปรารถนาแล้วครับ

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

เสาร์ 04 ต.ค. 2008 1:45 am

:o
เป็นไงเพื่อน...
บอกแล้วไง อย่ากระพริบตา...
:lol: :lol:

อ้อ..ซีไรท์ หรือประกาศนียบัตร ถ้าไม่เอา
ให้ผมก็ได้นะ เพราะผมจะเอาไปมอบให้
อู๊ด อู๊ด... :lol: :lol:

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

เสาร์ 04 ต.ค. 2008 1:47 am

มันส์พะย่ะค่ะ

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

เสาร์ 04 ต.ค. 2008 1:52 am

:lol:

ตื่นมามันส์ เหรออู๊ด
แหม..ยกขาหน้าซะด้วย..

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

เสาร์ 04 ต.ค. 2008 2:23 am

ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม (ราชสีห์คำราม)

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

เสาร์ 04 ต.ค. 2008 2:29 am

อู๊ด อู๊ด เขียน:ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม (ราชสีห์คำราม)



ดูจิ ดูจิ
แม้นยามที่เขาคำราม ยังน่ารักเลย..
ให้ตายเถอะโรบิน
:lol: :lol:

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

อังคาร 14 ต.ค. 2008 8:39 am

หากตบมือให้พี่รณก็เกรงจะน้อยไป...ถ้างั้นข้าพเจ้าขอดื่มให้ท่านพี่รณ 1 จอก...น้ำชา นะครับ...
แนบไฟล์
.JPG
ปฐวีธาตุของข้าพเจ้า...
.JPG (40.96 KiB) เปิดดู 13178 ครั้ง

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

อังคาร 14 ต.ค. 2008 10:37 pm

สวยครับ อยากทราบที่มาจังเลยครับ

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

อังคาร 14 ต.ค. 2008 11:06 pm

สวัสดีครับคุณ pot
ทักทายกันในบอร์ดนี้ละกัน...
เออ..แต่ผมไม่ใช้เจ้าของบ้านนะครับ
ผมก็แค่ผู้เข้าเยี่ยมชมเท่านั้น..
สำหรับปฐวีธาตุก้อนนี้ สวยงามมากครับ..
คุณ pot สบายดีนะครับ
:P

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

พุธ 15 ต.ค. 2008 5:35 am

:mrgreen:

หลวงปู่ห้ามเรียกก้อนครับ

พี่อำพลเคยเรียกก้อน ท่านงอนไม่คุยด้วยตั้งหลายสิบนาที

องค์ ครับ องค์ ท่านว่าถ้าทำ "ตา" ให้ดี มองเห็นข้างในได้ล่ะก็ ข้างในมีแต่ "พระ" ทั้งนั้นครับ

:geek:

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

พุธ 15 ต.ค. 2008 3:26 pm

สวัสดีครับพี่ศิษย์กวงเดี๋ยวคงได้เจอกันีกหลายกระทู้เชียวเพราะผมมีที่วิ่งเล่นอีกที่แล้ว...

สวัสดีท่านพี่รณ...รับทราบครับต่อไปผมจะเรียกปฐวีธาตุว่า "องค์" อย่างที่พี่บอก...แต่ว่าพี่มีสำรองให้ผมอีกสักองค์ไหมครับ...อิอิ

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

พุธ 15 ต.ค. 2008 10:42 pm

:shock: :shock:

อ่า...มามะ มางมในแม่น้ำโขงด้วยกัลลล์....

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 4:44 pm

พี่ต่อ คับ แล้ว ณ ปัจจุบันนี้

มีพระเถระ องค์ไหนอ่ะคับ
ที่มีความสามารถเสก ปฐวีธาตุ ได้อ่ะคับ

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 10:00 pm

เรียนคุณชายนายเอสซี่
tanpor re1.jpg
tanpor re1.jpg (13.88 KiB) เปิดดู 10721 ครั้ง

เมื่อปี 2540 ผมไปอยู่ปฏิบัติธรรมกับท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมวาส ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เป็นระยะเวลา 2 เดือน ปีนั้นทางวัดได้ทำการปรับหน้าดินด้วยการถมหินกรวดชนิดกลมเกลี้ยง ซึ่งหินประเภทนี้สามารถหาซื้อได้จากเรือดูดทรายตามฝั่งแม่น้ำโขง

วันหนึ่งตอนเช้าตรู่ ผมเห็นท่านพ่อเดินเก็บหินกรวดตามพื้นอยู่เงียบ ๆ โดยลำพังไม่มีศิษย์ติดตาม ผมแอบดูอยู่นานไม่เข้าใจว่าท่านกำลังทำอะไร ท่านเลือกหินกรวดขึ้นมาพลิก ๆ แล้วทิ้งลงพื้นไป แต่บางก้อนท่านก็หยิบมากำไว้ในมือแล้วมืออีกข้างก็ทำการเลือกใหม่ ท่านเดินไปตรงนั้น เดินไปตรงนี้โดยผมเองก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นตัวกำหนดวิธีการเลือกของท่าน สักพักใหญ่ท่านก็กำหินจำนวนนั้นซึ่งท่านเฟ้นแล้วขึ้น "ศาลาพุทโธ"
patavee re1.jpg
patavee re1.jpg (20.12 KiB) เปิดดู 10725 ครั้ง

เมื่อญาติโยมบางคนหรือบางกลุ่มเข้ามากราบท่าน ท่านจะหันไปหยิบหินกรวดที่วางอยู่บนโต๊ะข้าง ๆ ส่งให้ ญาติโยมเอื้อมมือมารับก็จริงแต่งุนงงว่าท่านให้มาทำไม ทว่าเมื่อเชื่อมั่นในคุณธรรมของท่านเขาก็รับนั่นแหละ แต่ไม่รู้ให้มาทำไมและจะเอาไปทำอะไรได้ หากเมื่อบางคนแสดงอาการ "มึน" พร้อมกับคงจะ "คิดในใจ" ว่าเดี๋ยวจะเอาไปทิ้ง ท่านก็พูดขึ้นกลางศาลาว่า

"อย่าเอาไปทิ้งนะ เก็บรักษาให้ดี อย่าดูถูกว่าเป็นแค่ขี้หินนะ"

patavee re5.jpg
patavee re5.jpg (26.31 KiB) เปิดดู 10728 ครั้ง


ได้ยินดังนั้น ผมก็ใช้เวลาว่างระหว่างวันเที่ยวเดินเลือกหินก้อนสวย ๆ ไม่บิ่นไม่แตกรวบรวมให้ท่าน และไม่น่าเชื่อว่าในบางก้อนจะ "โปร่งแสง" มีลักษณะดุจเดียวกับปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ ไม่ผิดเพี้ยนเลย เมื่อผมเลือกได้เป็นจำนวนมากนับร้อยก้อน ก็นำไปล้างน้ำขัดสีฉวีวรรณให้สะอาดเอี่ยม เมื่อคราบสกปรกหลุดออกหมด ก็ยิ่งเพิ่มสีสันและความสวยงามเป็นอย่างมาก ผมก็รวบรวมไปใส่พานโดยหาผ้าขาวปูรองอีกชั้นหนึ่งก่อนแล้วนำไปวางไว้ข้างที่รับแขกของท่านบน "ศาลาพุทโธ"

bonsala re1.jpg
bonsala re1.jpg (32.59 KiB) เปิดดู 10723 ครั้ง


เมื่อท่านขึ้นศาลามาในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พอเหลือบเห็นพานซึ่งเต็มไปด้วยกรวด ท่านก็หันมามองหน้าผมทันทีทั้ง ๆ ที่มีพระ เณร และคนอื่นอยู่ตั้งเยอะ ท่านยิ้มให้ผมแล้วพูดว่า

"เออ ฤาษี เจ้านี่รู้ใจข้อยจริง ๆ"

จากนั้นท่านก็นำมาตั้งตรงหน้าแล้วอธิษฐานจิตทันที การทำ "ปฐวีธาตุ" ของท่านครั้งนี้ใช้เวลานานพอสมควร เมื่อท่านแจกให้ใคร สำหรับชุดนี้ท่านจะกำชับว่ารักษาให้ดี ๆ เป็นอย่างมาก และเมื่อใครก็ตามที่ขอมากกว่าหนึ่ง ท่านจะตอบทันทีว่า "ก้อนหิน คนละหนึ่งเท่านั้น" คนบ้าหวยได้ยินก็ยิ้มแก้มปริทันที

งวดนั้นออก 91 จริง ๆ

patavee re3.jpg
patavee re3.jpg (21.21 KiB) เปิดดู 10723 ครั้ง


ท่านทำ "ปฐวีธาตุ" อย่างนี้อยู่ 3 วาระ แล้วท่านก็บอกผมว่า "พอแล้ว" แต่กว่าจะพอ พระ เณร ที่เห็นผมเก็บเห็นท่านพ่อทำ "ขลัง" ก็พากันเฮโลไปเก็บไปหาแล้วมาวานผมให้นำไปขอเมตตาท่านอธิษฐานจิตให้ไม่มีใครกล้าไปเองเพราะกลัวท่านทั้งนั้น พระหนุ่มเณรน้อยบางท่านบางองค์โชคดีมาก เจอกรวดชนิดใสหลายก้อนทีเดียว สภาพสวยเสียด้วย เมื่อท่านพ่อเสกแล้วก็หวงกันอย่างกับจงอางหวงไข่ !

patavee re4.jpg
patavee re4.jpg (25.52 KiB) เปิดดู 10718 ครั้ง


ท่านพ่อเคยบอกกับผมเป็นส่วนตัวก่อนเริ่มทำปฐวีธาตุว่า...

"เราภาวนาเกิดนิมิตเห็นสงครามในวันข้างหน้า มันไม่เหมือนสงครามครั้งที่ผ่าน ๆ มา มันน่ากลัวมาก คนตายกันมาก มันจะมีเครื่องบินอันหนึ่งนะ ลำใหญ่มากเวลาขึ้นไปในอากาศนี่ดูน่ากลัว แล้วมันก็มีเหมือนแขนเหมือนสายอะไรระโยงระยางออกมา เครื่องบินชนิดนี้มันไม่มีระเบิดนะ แต่มันยิงเป็นแสงลงมา ถูกบ้านถูกคนทีตายไปเยอะ เวลามันบินลงมาต่ำ ๆ ใกล้พื้นนี่นะแผ่นดินสะเทือนทีเดียว โอ้...น่ากลัวนะ"

เพราะปรารภนี้กระมัง...ท่านจึงเริ่มอธิษฐานจิตปฐวีธาตุเพื่อช่วยคน...

แต่คงเพราะจะฝืนกรรมเกินไปกระมัง...ท่านจึงทำแจกได้เพียงแค่จำนวนหนึ่ง ไม่อาจทำอย่างแพร่หลายได้เหมือนพระเครื่องทั่วไป...

patavee re6.jpg
patavee re6.jpg (34.88 KiB) เปิดดู 10722 ครั้ง


เกี่ยวกับปฐวีธาตุนี้ก็มีแปลก

สมัยหนึ่งตรงกับปี พ.ศ. 2506 วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร กำลังเริ่มก่อสร้าง "สิมน้ำ" หรืออุโบสถกลางน้ำโดยมีท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นองค์ประธานในการสร้าง คุณวัน คมนามูล ผู้เป็นอุปัฏฐากคนสำคัญได้พบสิ่งอัศจรรย์เกี่ยวกับองค์ท่านพระอาจารย์
.jpg
.jpg (93.33 KiB) เปิดดู 10712 ครั้ง

กล่าวคือทางวัดได้ทำการสั่งหินกรวดจากแม่น้ำโขงมาเป็นคันรถสิบล้อเพื่อนำมาผสมกับคอนกรีตสร้างโบสถ์ และรถสิบล้อก็ได้มาดั๊มพ์กรวดกองรวม ๆ กันไว้เป็นกองใหญ่มหึมาในบริเวณที่จะทำการก่อสร้าง ปรากฏว่าในตอนเช้า ท่านพระอาจารย์ฝั้นได้เดินตรงไปยังกองหินแล้วเรียกเณรน้อยมารูปหนึ่งให้ช่วยคุ้ยกองกรวดหาของโดยท่านยืนกำกับควบคุมอยู่ใกล้ ๆ
อาจาโร.jpg
อาจาโร.jpg (23.04 KiB) เปิดดู 10712 ครั้ง

ท่านสั่งให้คุ้ยไปทางนั้น ๆ ได้ราวกับมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน จนกระทั่งท่านบอกว่านั่นแหละอันนั้นแหละให้คว้ามาส่งให้ท่าน สิ่งนั้นก็เป็นหินจากน้ำโขง แต่มีลักษณะใสโปร่งแสง และมีสีขาว ซึ่งนั่นก็คือลักษณะของ "ปฐวีธาตุ" ในองค์หลวงปู่คำพันนั่นเอง

เมื่อท่านได้หินก่อนนั้นมาแล้วท่านก็มอบให้กับคุณวัน คมนามูล ผู้เคยอุปถัมภ์ท่านมาแต่ครั้งท่านไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา และท่านได้บอกกับคุณวันว่า

"เรานิมิตเห็นหินก้อนนี้มีแสงสว่างออกมาเมื่อคืนนี้"

คุณวันได้ยินแล้วก็ปีติเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้หินมาแล้วก็นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหินตรวจสอบ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นหินประเภทเพชรน้ำค้าง

คุณวันจึงนำหินนี้ไปทำเป็นหัวแหวนและได้มอบให้กับ นางวนิช สุพรรณสมบูรณ์ ผู้เป็นบุตรสาวไป

เรื่องนี้แสดงให้เห็นชัดว่า กรวดในแม่น้ำโขงบางก้อนมี "พลังงาน" อยู่ในตัวเอง ซึ่งนั่นก็คือกรวดประเภทเดียวกับที่หลวงปู่คำพันบอกว่าเป็นสมบัติของพวกนาค และท่านก็นำมาอธิษฐานจิตเป็นปฐวีธาตุนั่นเอง

เรื่องของท่านพระอาจารย์ฝั้นและหลวงปู่คำพันจึงมาลงเอยรับรองกันได้อย่างน่าอัศจรรย์

ไม่เว้นแม้ท่านพ่อเมือง

ดังนั้นใครที่เคยได้รับ "ปฐวีธาตุ" จากมือท่านพ่อ ก็จงเก็บรักษาให้ดีตามคำสั่งของท่าน เพราะไม่แน่ว่าวันหนึ่งท่านอาจต้องนำออกมา "ใช้" และอาจได้เห็น "สิ่งอัศจรรย์" จากปฐวีธาตุของท่านพ่อก็ได้ ใครจะรู้...

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 11:01 pm

สวัสดีครับท่านรณธรรม ณ.นวรัตน์ :)
ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี "เยี่ยม" ครับ
จริงใจกับคำถามทุกคำถาม....
ผมทำได้ซักหนึ่งในสี่ส่วนของท่าน
ก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว :roll: :)

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 11:15 pm

อู๊ดเองก็มีอยู่องค์นึงครับ แฮบมาจากพี่ชายอีกทีก๊าบบบบ :lol:
DSC00432 (Small).JPG
DSC00432 (Small).JPG (23.96 KiB) เปิดดู 10678 ครั้ง

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 11:27 pm

อ้อ..คำว่า "แฮป" แปลเป็นไทยว่า "จิ๊กของ" ครับ
:lol: :lol:
เออ..ขอร้องเรียนมายังแอดมิน ผ่านคุณอู๊ด อู๊ด ละกัน
ช่วยนำคำตอบเรื่องนี้ที่อาจารย์รณธรรม ตอบเอาไว้
จัดรูปแบบเป็นข้อมูลเรื่องใหม่ เฉพาะได้รึเป่า
เพราะมีเรื่องของท่านพ่อเมืองด้วยน่ะครับ
:mrgreen: :roll:

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 11:34 pm

ศิษย์กวง เขียน:สวัสดีครับท่านรณธรรม ณ.นวรัตน์ :)
ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี "เยี่ยม" ครับ
จริงใจกับคำถามทุกคำถาม....
ผมทำได้ซักหนึ่งในสี่ส่วนของท่าน
ก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว :roll: :)


ขอบพระคุณคุณศิษย์กวงมากครับที่กรุณาให้กำลังใจซึ่งผมรู้สึกเหมือนเป็นช่อดอกไม้ช่อใหญ่แม้ไม่ปรากฏรูปร่างให้เห็นด้วยตาแต่ผมก็รู้สึกได้ด้วยใจ

อย่างที่เคยเรียนให้ทราบครับ ใครจะคิดอย่างไร ใครจะทำอย่างไร ใครคนนั้นก็จะได้สิ่งนั้นเอง และสำหรับผม ผมถือเรื่องความ "จริงใจ" นี่เป็นอันดับที่หนึ่งในการคบกัน ไม่ว่าจะคบกันแบบเพื่อน แบบพี่ แบบน้อง แบบแฟน แบบพ่อแม่ ฯลฯ ไม่ว่าจะสถานภาพไหนที่เราคบกัน หากปราศจากความ "จริงใจ" มิตรภาพและความรู้สึกชนิดนั้น ๆ ก็จะไม่ยั่งยืน ทั้งอาจนำพาเรื่องร้ายแรงมาสู่ตัวเราในภายหลังได้

ฉะนั้น ถ้าผมรู้สึกชอบก็จะบอกทันทีว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ ผมเองก็จะพยายามปรับปรุงตัวเอง หากทำไม่ได้ก็จะบอกและขอโทษด้วย และถ้าเขาไม่ปรับปรุงตัวเองเพราะเขาเป็นมาตั้งนานแล้วก่อนรู้จักกับเรา เราก็จะเป็นฝ่ายถอยออกมา

ง่าย ๆ อย่างนี้ก็ไม่ทุกข์ทั้งเราทั้งเขาแล้วครับ

ย้ำครับว่า "ความจริงใจ" สำคัญที่สุดครับ

Re: ปฐวีธาตุ ที่สุดแห่งขลัง ของหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ

ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 11:53 pm

ศิษย์กวง เขียน:อ้อ..คำว่า "แฮป" แปลเป็นไทยว่า "จิ๊กของ" ครับ
:lol: :lol:
เออ..ขอร้องเรียนมายังแอดมิน ผ่านคุณอู๊ด อู๊ด ละกัน
ช่วยนำคำตอบเรื่องนี้ที่อาจารย์รณธรรม ตอบเอาไว้
จัดรูปแบบเป็นข้อมูลเรื่องใหม่ เฉพาะได้รึเป่า
เพราะมีเรื่องของท่านพ่อเมืองด้วยน่ะครับ
:mrgreen: :roll:


รับแซ่บบครับ กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการครั่บบ
ตอบกระทู้