Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

เสาร์ 20 ก.ย. 2008 5:04 pm

หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง
แห่ง วัดตะคร้ำเอน ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

โดย รณธรรม ธาราพันธุ์

พระพุทธรูปทั้งหลายทั่วโลกนี้ ล้วนถูกพุทธศาสนิกชนสร้างขึ้นด้วยปรารถนาจะกราบไหว้พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยใจเคารพเอื้อเฟื้อ แม้ไม่มีพระองค์จริงมาอยู่ต่อหน้าขอเพียงสักการะรูปเคารพแทนตัวก็ยังดี ทำนองคนคิดถึงแฟนไม่ได้เห็นหน้าเพียงเห็นรูปถ่ายก็สุขใจ

พระพุทธรูปเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยเมื่อพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ เพราะเมื่อพระพุทธองค์เสด็จไปจำพรรษาเพื่อโปรดพระพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตลอดกาล 3 เดือน อันเป็นพรรษาที่ 7 ภายหลังจากพระองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว

พระเจ้าปเสนทิโกศลผู้เลื่อมใสและเคารพผูกพันในพระพุทธเจ้าเป็นอย่างมาก เกิดความคิดถึงพระพุทธองค์สุดบรรยาย จึงให้ช่างหลวงทำการแกะไม้จันทน์ท่อนใหญ่ขึ้นเป็นรูปพระพุทธเจ้าในอิริยาบถประทับนั่งอย่างที่พระองค์เคยเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไว้กราบไหว้ให้หายคิดถึง

ครั้นเมื่อครบไตรมาสออกพรรษาแล้ว พระบรมศาสดาก็เสด็จกลับลงมาและเสด็จไปเยี่ยมพระเจ้าปเสนทิโกศล เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดำเนินไปไกล้พระพุทธรูปไม้จันทน์ พระไม้หอมนั้นก็กระทำอภินิหารด้วยการทำกิริยาประหนึ่งว่าจะลุกขึ้นมาแสดงความเคารพ พระบรมศาสดาทอดพระเนตรดังนั้นก็ทรงยกพระหัตถ์ซ้ายขึ้นห้ามเสีย พระไม้จันทน์นั้นก็ประทับนั่งลงดังเดิม

จึงเกิดพระปางห้ามพระแก่นจันทน์

พระพุทธรูปแต่ละองค์ ๆ หากสร้างด้วยใจศรัทธามุ่งมั่นต่อพระศาสนาโดยแท้แล้ว แม้ไม่ต้องอาศัยฤกษ์ยามคำนวณใด ๆ หรืออาศัยแผ่นยันต์ 108 และชนวนมวลสารเป็นตัวเร่งขลัง ก็มีอานุภาพ มีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้เช่นกัน

ทั้งนี้ด้วยอำนาจเทวดา

ครูบาอาจารย์ทุกรูปที่ปฏิบัติถึงจริง กล่าวเป็นเรื่องเดียวกันหมดว่าพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นเพราะเทวานุภาพของเทพอารักษ์ผู้สถิตอยู่ประจำองค์พระ เป็นเทพผู้มีมเหศักข์มากก็ขลังมาก มเหศักข์น้อยก็ขลังน้อย มีจำนวนองค์เทพมากก็ขลังมาก จำนวนเทพน้อยก็ขลังน้อย
เหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่พระเถระผู้มี ‘ตาใน’ จะเห็นและสัมผัสได้ อย่างองค์หลวงพ่อพุทธโสธร ที่เมืองฉะเชิงเทรา มีคนกราบไหว้บนบานล้วนสำเร็จมากกว่าไม่สำเร็จ แผ่บารมีได้ไพศาลดังแสงพระอาทิตย์น่าอัศจรรย์ นั่นก็เพราะหลวงพ่อโสธรมีเทพบดีผู้ทรงมเหศรศักดาเดชสถิตคุ้มครองอยู่ถึง 16 พระองค์ ไม่นับเทพบริวารอีกไม่รู้เท่าไร ผู้นั่งเห็นและติดต่อได้คือ

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธัมโม)วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี

พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เคยกล่าวกับผมว่า

“หลวงพ่อโสธรนั้นเป็นแค่รูปท่านก็ขลังพอแรงแล้ว ไม่ต้องปลุกเสกอะไร ๆ อีก”

นับเป็นประกาศนียบัตรที่หลวงพ่อทั้งสองมีให้หลวงพ่อโสธรอย่างน่าทึ่งใจ และท่านก็ย้ำว่าที่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่ได้นั้นเป็นเพราะมีเทวดาเข้าไปรักษา หลวงพ่อพุธยังบอกอีกว่า

“พระพุทธรูปตามร้านสังฆภัณฑ์ก็มีเทพรักษา อย่าว่าแต่อย่างนี้เลย แม้ในกระดาษหนังสือพิมพ์ ถ้าเป็นรูปของท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าไปรักษาทั้งนั้น”และผมเองก็เคยได้พบอภินิหารจากรูปกระดาษหนังสือพระที่พิมพ์เป็นภาพสีของ องค์-หลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตร วัดไตรมิตรวิทยาราม ซึ่งเรื่องนี้เคยเล่าไว้ใน ‘ศักดิ์สิทธิ์’ เล่มก่อนโน้นแล้ว สมดังที่หลวงพ่อพุธรับรองว่า เป็นรูปผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษา

ดังนั้น พระพุทธรูปที่เราได้ยินข่าวความอัศจรรย์ต่าง ๆ นานาก็พึงทราบได้ว่าเป็นเรื่องของเทพดาจะบันดาลให้เป็นไป เราจึงพบเห็นได้เนือง ๆ ถึงการแก้บนพระพุทธรูปโดยวิธีพิสดาร เช่น พระแก้วมรกต ต้องแก้บนด้วยไข่ต้มและข้าวเหนียวกับปลาร้า หลวงพ่อโสธร ชอบไข่ต้มกับข้าวต้มมัด หลวงพ่อวัดไร่ขิง ชอบว่าวกับประทัด หลวงพ่อวัดเขาตะเคราก็โปรดประทัดเช่นกัน

เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของเทวดาผู้มาสิงสถิตย์ในองค์พระ หาใช่ว่าพระพุทธเจ้าจะมีพระประสงค์ในสิ่งหยาบ ๆ เหล่านี้ก็เปล่า แม้เมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ก็ประกาศเสมอ ๆ ว่า สำหรับพระองค์นั้นไม่ปรารถนาการบูชาพระองค์ด้วย ข้าวของ เงินทอง ดอกไม้ ธูปเทียน หรือสิ่งไร ๆ ก็ตามที่ประกอบด้วยวัตถุ อันเป็น ‘อามิสบูชา’

แต่พระองค์จะทรงยินดีมากหากพวกเราพากันประพฤติธรรม โดยการ ละชั่ว ทำดี และมุ่งชำระจิตให้ผ่องใส เข้าถึงภาวะ ‘จิตเดิมแท้’ ซึ่งไม่ปรุงแต่งและยึดเหนี่ยวเกี่ยวเกาะกับเรื่องใด ๆ พระองค์ตรัสเรียกพฤติอย่างนี้ว่า ‘ปฏิบัติบูชา’

ทรงยกย่องและให้คะแนนสูงกว่าอามิสบูชามากนัก

เนื่องเพราะเหตุที่พระพุทธองค์ทรงละเสียได้จากความยึดมั่นถือมั่นสิ้นเชิง พระองค์จึงไม่ปรากฏความอยากนั้น อยากนี้ ไม่อยากอย่างนั้น ไม่อยากอย่างนี้ รูปเคารพของพระองค์ก็ปราศจากอารมณ์จิตอย่างนี้เช่นกัน

การที่พระพุทธรูปองค์ใดไปเข้าฝันหรือแสดงเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ศรัทธาทั้งปวงทราบว่าท่านชอบสิ่งนั้นไม่ชอบสิ่งนั้น หรือแสดงอภินิหารช่วยเหลือประการใด พึงทราบว่าเป็นเรื่องของเทพเจ้าผู้ดูแลพระพุทธรูปองค์นั้น ๆ จะบันดาลให้เป็นไป

ดังหลวงพ่อดำ วัดตะคร้ำเอน
img049.jpg
img049.jpg (54.26 KiB) เปิดดู 3525 ครั้ง


หลวงพ่อดำ วัดตะคร้ำเอน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้างราว 45 นิ้ว ศิลปะเป็นแบบผสมระหว่างอู่ทองกับสุโขทัย แท้จริงหลวงพ่อดำเป็นพระพุทธรูปที่มีอายุการสร้างไม่นานนัก เมื่อเทียบกับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่เลื่องชื่ออย่างที่เคยรู้จักกัน

แต่หลวงพ่อดำถูกสถาปนาขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2498 นี้เอง โดยคหบดีผู้มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวดคือ คุณทองห่อ เช็งสุทธา ซึ่งท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสร้างรูปเคารพแห่งพระบรมศาสดาให้ได้จำนวน 113 องค์ในช่วงวันวิสาข์ หมายใจให้เป็นพุทธบูชาแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเนื่องในวโรกาสฉลองกึ่งพุทธกาลปี พ.ศ. 2500

หลวงพ่อดำเป็นพระหนึ่งใน 113 องค์

หากพูดแบบไม่เกรงใจก็ต้องว่าท่านเป็น ‘พระโหล’ เพราะไม่ได้หล่ออย่างให้ความสำคัญสุดยอดทุ่มลงไปที่พระองค์เดียว แต่เทหล่อแบบ ‘งานช่าง’ อย่างรับเหมาทีหนึ่งเป็นร้อย ๆ องค์ แล้วก็แจกจ่ายไปตามอาวาสที่มีอุโบสถแต่ขาดพระประธาน หรือบางวัดก็ต้องการนำไปสักการะบนศาลาการเปรียญ พระทั้ง 113 องค์ ก็กระจายกันออกไปแผ่พุทธบารมี

สำหรับหลวงพ่อดำนั้น ถูกอัญเชิญมาที่วัดตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดย ท่านพระครูประกาศสุนทรกิจ (หลวงพ่อสนธิ์) เจ้าอาวาส ในงานฉลองกึ่งพุทธกาลปี พ.ศ. 2500และอาราธนาเข้าประดิษฐานในอุโบสถเพื่อให้เป็นพระประธาน จากนั้นหลวงพ่อสนธิ์ก็ได้จัดให้มีการปิดทององค์ท่าน

แต่เดิมหลวงพ่อดำเป็นพระเนื้อทองเหลืองหล่อ เมื่อมีการปิดทองก็จำต้องลงรักที่องค์พระเสียก่อนจึงจะปิดทองติด เบื้องแรกองค์พระจึงมีสีดำ ต่อเมื่อปิดทองเสร็จสมบูรณ์ตามขั้นตอนแล้ว หลวงพ่อดำก็งามนัก มีสีทองสุกใสสว่างงดงามเป็นที่สุด เย็นตาเย็นใจแก่ผู้พบเห็น ราวกับได้เข้าเฝ้าอยู่เบื้องพระพักตร์พระพุทธองค์ เด่นเป็นสง่าสมเป็นพระประธานในอุโบสถวัดตะคร้ำเอน

รูปการน่าจะจบลงที่ความสบายใจและยุติงานทุกอย่างได้ แต่ก็มิได้เป็นดังนั้น เมื่อตกมาถึงช่วงปี พ.ศ. 2503 และ พ.ศ. 2504 ระหว่างนี้หลวงพ่อสนธิ์ได้เกิดนิมิตขึ้นว่า พระประธานไม่ประสงค์จะอยู่ในโบสถ์ แต่อยากจะอยู่หน้าโบสถ์มากกว่า นิมิตนี้นับวันก็จะเกิดบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน่าประหลาด

ที่สุดหลวงพ่อเจ้าอาวาสจึงต้องทำพิธีอัญเชิญองค์พระประธานออกมาประดิษฐานอยู่ที่หน้าอุโบสถเสียให้สมดังนิมิต เมื่อทำตามแล้วนิมิตที่ปรากฏบ่อยครั้งนั้นก็หายไป

หลังจากที่ท่านมาอยู่หน้าอุโบสถได้ไม่นาน ทองที่ปิดองค์ท่านไว้อย่างดีก็เริ่มหลุดล่อนออก ลอกไปเรื่อย ๆ ปลิวกระจายไปทั่วจนจะเห็นเป็นสีดำทั้งองค์ หลวงพ่อสนธิ์จึงดำริจะทำการปิดทองท่านอีกครั้ง

แต่ยังไม่ทันจะดำเนินการใด ๆ ท่านก็เกิดนิมิตว่า หลวงพ่อพระประธานไม่อยากมีสีทองหากประสงค์จะมีสีดำตามสภาพเดิมอย่างนั้นอย่าได้ปิดทองท่านอีกเลย

เมื่อเป็นดังนี้หลวงพ่อพระครูจึงต้องปล่อยให้ท่านมีพระวรกายดำสนิทอยู่อย่างนั้น แม้จะมีคณะศรัทธามาบอกให้ปิด หรือลงมือปิดเองก็ตามที ชั่วเวลาไม่นานทองคำเปลวเหล่านั้นทั้งแท้และเทียมก็มีอันต้องหลุดลอกออกปลิวกระจายไปทั่ว นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

ไม่ว่าจะทดลองปิดทองท่านด้วยประการใด ๆ บางทีชั่วข้ามคืนทองที่ปิดไว้ก็จะหลุดลอกจนหมด สมดังที่ท่านมานิมิตบอกไว้ว่าไม่ประสงค์จะมีสีทองแต่อยากให้เป็นสีดำ

เพราะเหตุดังนี้ หลวงพ่อเจ้าอาวาสและชาวบ้านตะคร้ำเอนจึงพร้อมใจกันถวายพระนามตามพุทธลักษณะให้ท่านว่า

หลวงพ่อดำ

หลวงพ่อเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ไม่ด้อยไปกว่าพระพุทธรูปเก่า ๆ ที่พวกเรารู้จักกัน คงเป็นด้วยอำนาจราชเดชของปวงเทพเจ้าที่เข้าปกปักรักษาองค์หลวงพ่อดำ หรือจะด้วยวิญญาณท่านผู้ใดก็แล้วแต่ หากเป็นผู้มีสัมมาทิฐิและประสงค์จะอนุเคราะห์แก่ผู้ทุกข์ใจที่มา กราบไหว้ก็เห็นจะเป็นพอ

อภินิหารของท่านที่ได้ยินกันมากคงเป็นเรื่องที่คุ้มครองผู้ประสบภัยทางรถ ทุกครอบครัวทุกคันรถที่มีรูปเหรียญ หรือพระผงอะไร ๆ ที่เป็นของท่านจะไม่ได้รับอันตรายที่หนักหนาสาหัสเลย อย่างมากก็เพียงฟกช้ำถลอกกันไปตามแรงพลิก

คนที่เจ็บไข้ได้ป่วยรักษาไม่หายเรื้อรังอยู่เป็นนาน ไปขอน้ำมนต์ท่าน และเอาดอกบัวที่บูชาท่านมาต้มกินเป็นยาวิเศษ ก็หายได้อย่างประหลาด

เรื่องโชคลาภที่ใครหลายคนชอบ ก็ดูเหมือนว่าท่านจะสงเคราะห์ได้แม่นยำ หลวงพ่อดำจึงเป็นที่พึ่งทางใจ และทางกายแก่คนทุกข์คนยากโดยแท้

แม้ท่านจะพูดไม่ได้ ลุกไปไหนก็ไม่ได้ แต่ท่านกลับทำประโยชน์ให้พระศาสนาอย่างใหญ่หลวง สงเคราะห์พระภิกษุ-สามเณรที่กำลังเรียนบาลี รวมไปถึงสงเคราะห์เด็กนักเรียนลูกชาวบ้านที่เรียนดีแต่ยากจน โดยหลวงพ่อชักนำปัจจัยเข้าสู่วัดตะคร้ำเอนและให้เจ้าอาวาสพร้อมทั้งคณะกรรมการวัดเป็นผู้จัดสรรดูแลปัจจัย เพื่อมอบให้เป็นทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียน โดยจะมอบทุนนี้ให้ในงานนมัสการหลวงพ่อดำประจำปี ซึ่งตรงกับวันที่ 12 –13 –14 เมษายน ของทุกปี
img050.jpg
img050.jpg (50.23 KiB) เปิดดู 3524 ครั้ง

img051.jpg
img051.jpg (49.7 KiB) เปิดดู 3520 ครั้ง

img052.jpg
img052.jpg (52.83 KiB) เปิดดู 3521 ครั้ง
img053.jpg
img053.jpg (48.94 KiB) เปิดดู 3519 ครั้ง
img054.jpg
img054.jpg (53.87 KiB) เปิดดู 3515 ครั้ง



เห็นได้ว่าแม้ท่านเป็นพระโลหะ แต่ท่านก็บำเพ็ญปรหิตประโยชน์แก่สังคมได้อย่างน่าชื่นใจ ดีเสียกว่าบุคคลตั้งเยอะแยะที่มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ทำความวุ่นวายเดือดร้อนให้กับทั้งตนเองและสังคมแบบไม่น่าให้เกิดเป็นคน หากมองหลวงพ่อแล้วคิดให้ลึกซึ้ง ก็คงจะได้ละอายใจและคิดปรับปรุงตัวเองเสียใหม่บ้างกระมัง

ท่านที่ศรัทธาผมอยากให้เดินทางไปกราบหลวงพ่อดำ ซึ่งหนทางสะดวกมากครับ ให้วิ่งรถไปถึงทางแยกเข้าอำเภอบ้านโป่งก็ขึ้นสะพานลอยข้ามถนนเพชรเกษมวกเข้าตัวอำเภอ สักพักก็จะพบทางแยกมีป้ายบอกชัดเจนว่าไปกาญจนบุรี วิ่งไปตามทางไม่นานก็จะผ่านอำเภอท่ามะกาก่อน และตลอดทางก็มีป้ายบอกชัดเจนถึงทางไปวัดตะคร้ำเอน ซึ่งวัดก็อยู่ริมถนนก่อนเข้าสู่ตัวจังหวัดกาญจนบุรีครับ

ไม่ไกลอย่างนี้สามารถไปเช้า-เย็นกลับได้สบาย ขากลับแวะกราบหลวงปู่บุญ-หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อวัดไร่ขิงได้อีก แวะซื้อของฝากรายทางทั้งของคาวของหวานก็มากมายสบายทั้งใจสบายทั้งท้อง ผมจึงขอเป็นตัวแทนทางวัดเรียนเชิญทุกท่านครับ.

* ขอขอบคุณ คุณคุณานันต์ กนกธร คุณศุภดา กนกธร และคุณปุรเชษฐ์ กนกธร ที่กรุณาเดินทางไปนำวัตถุมงคลและข้อมูลจากทางวัดมาให้ครับ ขออนุโมทนา

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

เสาร์ 20 ก.ย. 2008 5:31 pm

อืม ภาษามะนาวต่างดุ๊ด นี่เอง............

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

เสาร์ 20 ก.ย. 2008 11:03 pm

:o
ชะอุ๊ย....
น้องจูออน..รู้นะว่าแกล้ง...
:lol: :lol:

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

เสาร์ 20 ก.ย. 2008 11:04 pm

ฮัดช่า เป็นฮัทโตริ ซะแล้ว

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

เสาร์ 20 ก.ย. 2008 11:15 pm

อุลตร้าแมนตามมาติดๆ

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

เสาร์ 20 ก.ย. 2008 11:43 pm

สุดยอดจริง ผู้สูงอายุอยากเป็นเด็กกกกกก......... :lol: :lol: :lol:

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

อาทิตย์ 21 ก.ย. 2008 12:16 am

:o :o

โอ้...พี่จิ้งจกหรือนี่

นึกว่าผมจะเป็นคนเดียว
แหม..สะพายกีต้าร์เสียด้วย..

เฮาบ่เจื้อ เฮาบ่เจื้อ.... :lol: :lol:

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

อาทิตย์ 21 ก.ย. 2008 12:18 am

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

อาทิตย์ 21 ก.ย. 2008 12:20 am

แหมๆ เช็คเร็ตติ้งซะหน่อยฮะ ว่าถ้ามีอะไรแปลกๆจะมีคนทักหรือเปล่า

คริ คริ คริ

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

อาทิตย์ 21 ก.ย. 2008 1:03 am

เอ่อ..อ.... :geek:

ตกลงนี่เวปผี เวปมนุษย์ด่างดาว เวปสมาคมตลก หรือเวปพระกันแน่ฮะ

ผมสับสนเล็ก ๆ อ่ะ :?:

:lol:

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

อาทิตย์ 21 ก.ย. 2008 10:41 am

สวัสดีครับอาจารย์รณธรรม

ท่ามกลางความสับสนเล็กๆ ของท่านอาจารย์
ยังมีผมอยู่เป็นเพื่อนเช่นกัน
:lol: :lol:

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

อาทิตย์ 21 ก.ย. 2008 5:39 pm

ช่วยกันงงใช่มั๊ยครับ แล้วใครจะพาใครออกจากความงงได้ล่ะนี่

คุณจิ้งจกอยู่ไหนครับ ??? มาช่วยกันงงหน่อยเร้ว....

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

อาทิตย์ 21 ก.ย. 2008 9:00 pm

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง
ฉันจึงมาหาความหมาย
ฉันหวังจะได้อะไรตั้งมากมาย
สุดท้ายได้แค่ความ "งง"
:lol: :mrgreen: ;) :D
-----------------------------------
18.jpg
18.jpg (26.8 KiB) เปิดดู 3378 ครั้ง
เป็นไงครับ รูปคู่ที่ผมถ่ายกับอาจารย์รณธรรม
-----------------------------------
001.jpg
001.jpg (22 KiB) เปิดดู 3377 ครั้ง
ส่วนอันนี้เป็นภาพเมื่อครั้งร่วมงานกันเมื่อนานมาแล้ว สมัย ยอดชาย เมฆสุวรรณ กับภาวนาชนะจิต

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

อังคาร 23 ก.ย. 2008 5:53 am

:o :shock:

อู้หู เอ้อเหอ !! ช่างหา....... ช่างคิด........ ช่างทำ.......และ.......


อืมมม์......

เฮ้อ ช่างมันเหอะ รับไม่ไหวแล้ว
:shock:

:lol: :lol: :lol:

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

อังคาร 23 ก.ย. 2008 11:29 am

:lol: :lol: :lol:

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

พุธ 24 ก.ย. 2008 2:31 am

เห็นใครๆเขาถ่ายรูปกัน อยากมีรูปกับเขาด้วย เลยต้องมาแอบในรูปเค้า
18.jpg
18.jpg (48.08 KiB) เปิดดู 3340 ครั้ง

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

พุธ 24 ก.ย. 2008 2:54 am

:shock: :shock: :shock: หยอง ๆ ๆ

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

พุธ 24 ก.ย. 2008 1:42 pm

ตายแล้ว นี่มันเรื่อง Shutter กดติดวิญญาณ นี่หน่า :o :o :shock:

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

พุธ 24 ก.ย. 2008 11:14 pm

:x เออ...ขอโทษนะครับ คงเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะผมไปรื้อศาลเจ้าหลังบ้านบังเอิญเจอภาพนี้ครับ..
:lol: :lol:
แนบไฟล์
188.JPG
188.JPG (37.79 KiB) เปิดดู 3300 ครั้ง

Re: หลวงพ่อดำ พระพุทธปฏิมาที่ไม่ปรารถนาสีทอง

พฤหัสฯ. 25 ก.ย. 2008 12:48 am

ขั้นเทพแห่งการโพสกันทั้งนั้น อู๊ดขอไปเข้าคอร์สคอมฯก่อนดีก่า.........................เดี๋ยวไม่ทันหมู่คณะ ..........เริ่มตั้งแต่เวิร์ดจุฬา เวิร์ดราชวิถี ไปเลยจะได้พื้นแน่น ๆ :mrgreen:
ตอบกระทู้